xs
xsm
sm
md
lg

ซัมซุงชูกลยุทธ์วันสตอปชอปปิ้ง เปิดกว้าง “เอ็กซ์คลูซีฟ-ขายร่วม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซัมซุงเปิดศักราชใหม่ งัดกลยุทธ์ “วัน สตอป ชอปปิ้ง” และ “วัน สตอป เซอร์วิส” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ผลักดันช่องทางขายให้มีสินค้าของซัมซุงครบทุกไลน์ เพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์ “โททอล โซลูชัน โพรไวเดอร์” มั่นใจยอดขายสิ้นปีแตะ23,000 ล้านบาท

นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ทางซัมซุงจะสานต่อแนวคิดรูปแบบ “ซัมซุง คอนเวอร์เจนท์” โดยการนำเสนอสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและบริการในรูปแบบโซลูชันครบวงจร ณ จุดขายเพียงจุดเดียว ภายใต้ยุทธศาสตร์ “โททอล โซลูชัน โพรไวเดอร์” ในรูปแบบ วัน สตอป ชอปปิ้ง และ วัน สตอป เซอร์วิส เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของช่องทางการจัดจำหน่ายของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เริ่มมีการขยายครอบคลุมไปถึงการวางจำหน่ายสินค้าในกลุ่มไอทีมากขึ้น บวกกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีเวลาน้อยลงในการซื้อสินค้า มั่นใจว่าจากแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จะทำให้ปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มเป็น 23,000 ล้านบาท จากเดิมปิดยอดขายในปีก่อนที่ 22,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในไทยมีช่องทางที่มีการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าครบไลน์ยังไม่มากนัก เช่น เพาเวอร์บาย พาวเวอร์มอลล์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต ต่างๆ ทั้ง บิ๊กซี เทสโก้โลตัส ดังนั้น ทางซัมซุงจะพยายามประชาสัมพันธ์ออกไป และมีการเจรจากับทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้มากขึ้น หากรายใดที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ก่อนแล้ว และสนใจนำสินค้าไอทีวางจำหน่ายเพิ่ม หรือในทางกลับกันร้านใดที่จำหน่ายสินค้าไอที และต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจำหน่ายเพิ่ม ทางซัมซุงก็ยินดีจะสนับสนุนให้ ทั้งลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ หรือจำหน่ายร่วมกับแบรนด์อื่นก็ได้

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดนั้นจะเน้นรูปแบบ ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง เป็นหลัก มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ที่จะร่วมกับรายการเพลง เจาะกลุ่มวัยรุ่น หรือ สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง กับกีฬาโอลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะขึ้นในปีนี้ รวมถึงการทำตลาดแบบเจาะกลุ่ม หรือ เซกเมนต์ มาร์เก็ตติ้ง มากขึ้น อาทิ ยูท มาร์เก็ตติ้ง คู่แต่งงาน กลุ่มข้าราชการทหาร ธนาคาร จนถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด

สำหรับงบประมาณตลาดปีนี้ โดยเฉลี่ยจะใช้ประมาณ 10% ของกลุ่มสินค้าแต่ละประเภท คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงหรือเอวี คาดว่า จะใช้งบการตลาดที่ 920 ล้านบาท จากเป้ารายได้ปีนี้ที่วางไว้ 9,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 40% ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน หรือ เอชเอ คาดว่า จะใช้งบประมาณทางการตลาดประมาณ490 ล้านบาท จากเป้ารายได้ที่วางไว้ 4,900 ล้านบาท เติบโตขึ้น 32% และที่เหลืออีก 8,900 ล้านบาท จะมาจากกลุ่มไอทีและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งแนวโน้มปีนี้ เชื่อว่า สินค้าไอทีจะมีการเติบโตมากที่สุด

สำหรับสินค้าใหม่ในกลุ่มเอวี ปีนี้จะมุ่งเน้นการนำเสนอจอภาพแอซีดี ทีวี ที่มีความละเอียดสูง รวมถึงจะเริ่มทำตลาดกล้องดิจิตอลอย่างจริงจังมากขึ้น โดยทั้งปีคาดว่าจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดประมาณ 95 รุ่น อาทิ แอซีดี ทีวี 19 รุ่น สลิมฟิตทีวี 10 รุ่น เครื่องเล่นภาพและเสียงแบบพกพา 7 รุ่น และกล้องดิจิตอล 18 รุ่น เป็นต้น ส่วนสินค้าใหม่กลุ่มเอชเอ จะเน้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพมานำเสนอ ทั้งในกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ หรือมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 77 รุ่น  
กำลังโหลดความคิดเห็น