ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สวนสัตว์เชียงใหม่เผยงานก่อสร้าง “โดมหิมะ” สำหรับหมีแพนด้ามูลค่า 50 ล้านบาท คืบหน้าด้วยดี โดยกำลังอยู่ระหว่างติดต่อนำเข้าเครื่องทำหิมะเทียมจากต่างประเทศมาติดตั้ง เช่นเดียวกับ “อะควาเรียม” มูลค่า 600 ล้านบาท ที่เสร็จแล้วกว่า 80% คาดพร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวภายในปลายปี 2551 นี้แน่นอน เชื่อเป็นจุดขายใหม่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวแห่ใช้บริการ
นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติมของสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ตามโครงการดังกล่าวที่ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท จะทำการก่อสร้างส่วนจัดแสดงเพิ่มเติมขึ้นบนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ที่เคยเป็นบริเวณของส่วนจำหน่ายบัตรเข้าชมหมีแพนด้า ซึ่งอยู่ติดกับส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในปัจจุบัน
ส่วนจัดแสดงที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ภายนอกถูกออกแบบให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน ที่มีพื้นที่ใช้สอย 400 ตารางเมตร ซึ่งภายในจะแบ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า “โดมหิมะ” ที่มีการทำหิมะเทียม และควบคุมอุณหภูมิภายในให้อยู่ระหว่าง -5 องศาเซลเซียส ถึง 18 องศาเซลเซียส ประมาณ 200 ตารางเมตร ซึ่งส่วนนี้จะเป็นการจำลองสภาพ และบรรยากาศให้เหมือนกับแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้าในประเทศจีนมากที่สุด
ในส่วนของความคืบหน้าโครงการก่อสร้างส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติมดังกล่าวนั้น จนถึงเวลานี้สามารถดำเนินการในส่วนของงานก่อสร้างไปได้แล้วกว่าร้อยละ 50 และกำลังอยู่ระหว่างการติดต่อเจรจาเพื่อซื้อเครื่องผลิตหิมะเทียมจากต่างประเทศเข้ามาติดตั้งที่ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งนี้
เบื้องต้นคาดว่าเครื่องผลิตหิมะเทียมน่าจะนำเข้ามาจากทางประเทศจีน ส่วนราคาซื้อขาย จะต้องมีการหารือกันอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะได้ข้อสรุป ทั้งนี้ตามแผนคาดว่าการก่อสร้างส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าดังกล่าวนี้น่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการได้ในช่วงปลายปี 2551 นี้ อย่างแน่นอน
สำหรับส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ นายโสภณ กล่าวว่า ในส่วนที่เป็นโดมหิมะจะมีการทำหิมะเทียมตลอดทั้งปี โดยจะใช้เป็นส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในช่วงฤดูหนาวประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งหมีแพนด้า ทั้ง “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมีย จะสามารถเข้ามาสู่โดมหิมะในส่วนจัดแสดงแห่งใหม่ได้ด้วยอุโมงค์ที่มีการสร้างเชื่อมต่อกับส่วนจัดแสดงเดิม
ขณะที่ในช่วงเวลานอกเหนือไปจากการจัดแสดงหมีแพนด้าแล้ว จะเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเล่นหิมะได้ โดยที่ทางสวนสัตว์เชียงใหม่จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเสริมเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดอัตราค่าใช้บริการ แต่เชื่อว่าจะเป็นจุดขายใหม่ที่ช่วยดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสถานจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหรืออะควาเรียมของสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ขณะนี้ในส่วนของงานก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ซึ่งถือว่าใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงการตกแต่งและเก็บรายละเอียดของงานก่อสร้าง โดยเฉพาะการใช้วัสดุอะคริลิกที่นำเข้ามาจากต่างประเทศในการตกแต่งเท่านั้น ซึ่งหากการดำเนินงานยังเป็นไปตามแผนคาดว่าน่าจะสามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2551 นี้ ไล่เลี่ยกับส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยค่าเข้าชมได้มีการกำหนดในเบื้องต้นไว้ที่อัตราคนละ 180 บาท
ขณะเดียวกันนายโสภณ กล่าวถึงอะควาเรียมมูลค่าการลงทุน 600 ล้านบาทแห่งนี้ว่า นอกจากจะมีจุดเด่นอยู่ที่อุโมงค์ลอดใต้น้ำเพื่อชมพันธุ์สัตว์น้ำยาว 140 เมตร ที่จะผ่านส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด และส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเค็ม ซึ่งยาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว ยังจะมีการรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำมาจัดแสดงมากถึงประมาณ 200 ชนิด ที่ถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำให้อะควาเรียมแห่งนี้ เป็นอะควาเรียมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน
“ทั้งโดมหิมะและอะควาเรียมที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ น่าจะเป็นการสร้างจุดขายใหม่ให้แก่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อมั่นว่าโครงการพัฒนาเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการสวนสัตว์เชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น” นายโสภณ