สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง ชี้แนวโน้มธุรกิจโฆษณาปีนี้งคึกคัก เหตุนักการตลาดก็มีความมั่นใจในการลงทุน งบประมาณด้านการโฆษณาที่ถูกชะลอไว้ในปีที่ผ่านมา เผย5 เทรนด์หนังโฆษณาของปีนี้ที่คาดว่ายังได้รับความนิยมอยู่
นายวศโดม รัศมิทัต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโฆษณาในปีนี้มีการปรับตัวที่ดีขึ้น จากที่เศรษฐกิจชะงักงันในปีที่ผ่านมา มีการลงมือแก้ไขจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนมีมากขึ้น นักการตลาดก็มีความมั่นใจในการลงทุน งบประมาณด้านการโฆษณาที่ถูกชะลอไว้ในปีที่ผ่านมา ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ที่มีภาพยนตร์โฆษณาค่อนข้างสูง
โดยสปา แอดเวอร์ไทซิ่ง ได้รับมอบหมายจากลูกค้าหลายราย อาทิ ปตท, โอสถสภา, เบียร์ลีโอ, 12 Plus ฯลฯ ให้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาถึง 19 เรื่อง งบประมาณรวม 41.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีการผลิตภาพยนตร์โฆษณาเพียง 7 เรื่อง งบประมาณ 12.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 69%
นายวศโดม กล่าวต่อว่า สำหรับเทรนด์ของภาพยนตร์โฆษณาในปีนี้ นายวศโดม กล่าวว่า จะมีอยู่ 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1) โฆษณาแนวฮาร์ดเซล เน้นการสื่อสารที่ชัดเจนด้วยภาพ เสียง หรือข้อความ ที่ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา มุ่งการเพิ่มยอดขายทันที เป็นงานที่ใช้งบประมาณการผลิตต่ำ เพราะแม้สภาพเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่เจ้าของสินค้าก็ยังระมัดระวังในการใช้จ่าย คาดว่าจะเป็นเทรนด์ที่ต่อเนื่องยาวนานตลอดปี
2) โฆษณาแนวแอนิเมชัน การสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเป็นเทรนด์ของหนังโฆษณาที่เริ่มเห็นเพิ่มขั้นในเวลานี้ มีผลงานโฆษณาสินค้าหลายแบรนด์นำมาใช้ เป็นผลมาจากการพัฒนาของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ กราฟฟิก 3) โฆษณาแนว Emotional Feeling ถือเป็นเทรนด์ที่ไม่เคยตกยุค หนังโฆษณาที่ให้ภาพสวยงาม มีเพลงประกอบไพเราะ สร้าง Brand Image สร้างอารมณ์ให้กับผู้ชมรู้สึกพึงพอใจในแบรนด์ (Brand Preference) เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง
4) โฆษณาแนวตลก ยังเป็นไอเดียงานโฆษณาที่จะเห็นอยู่ในปีนี้ต่อไป เพราะให้ความบันเทิงที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะพึงพอใจ และช่วยสร้างความจดจำในแบรนด์ได้ดีแล้ว เอเยนซียังนิยมสร้างสรรค์งานโฆษณาตลกที่มีแนวคิดฉีก 5) โฆษณาแนวไอเดีย งานโฆษณาที่เน้นครีเอทีฟไอเดียที่แท้จริง โดยนำจุดเด่นของสินค้ามานำเสนอด้วยความคิดที่แปลกใหม่ เพื่อสร้างความโดดเด่นท่ามกลางโฆษณาที่มีอยู่มากมาย
นายวศโดม รัศมิทัต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจโฆษณาในปีนี้มีการปรับตัวที่ดีขึ้น จากที่เศรษฐกิจชะงักงันในปีที่ผ่านมา มีการลงมือแก้ไขจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนมีมากขึ้น นักการตลาดก็มีความมั่นใจในการลงทุน งบประมาณด้านการโฆษณาที่ถูกชะลอไว้ในปีที่ผ่านมา ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ที่มีภาพยนตร์โฆษณาค่อนข้างสูง
โดยสปา แอดเวอร์ไทซิ่ง ได้รับมอบหมายจากลูกค้าหลายราย อาทิ ปตท, โอสถสภา, เบียร์ลีโอ, 12 Plus ฯลฯ ให้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาถึง 19 เรื่อง งบประมาณรวม 41.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีการผลิตภาพยนตร์โฆษณาเพียง 7 เรื่อง งบประมาณ 12.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 69%
นายวศโดม กล่าวต่อว่า สำหรับเทรนด์ของภาพยนตร์โฆษณาในปีนี้ นายวศโดม กล่าวว่า จะมีอยู่ 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1) โฆษณาแนวฮาร์ดเซล เน้นการสื่อสารที่ชัดเจนด้วยภาพ เสียง หรือข้อความ ที่ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา มุ่งการเพิ่มยอดขายทันที เป็นงานที่ใช้งบประมาณการผลิตต่ำ เพราะแม้สภาพเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่เจ้าของสินค้าก็ยังระมัดระวังในการใช้จ่าย คาดว่าจะเป็นเทรนด์ที่ต่อเนื่องยาวนานตลอดปี
2) โฆษณาแนวแอนิเมชัน การสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเป็นเทรนด์ของหนังโฆษณาที่เริ่มเห็นเพิ่มขั้นในเวลานี้ มีผลงานโฆษณาสินค้าหลายแบรนด์นำมาใช้ เป็นผลมาจากการพัฒนาของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ กราฟฟิก 3) โฆษณาแนว Emotional Feeling ถือเป็นเทรนด์ที่ไม่เคยตกยุค หนังโฆษณาที่ให้ภาพสวยงาม มีเพลงประกอบไพเราะ สร้าง Brand Image สร้างอารมณ์ให้กับผู้ชมรู้สึกพึงพอใจในแบรนด์ (Brand Preference) เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง
4) โฆษณาแนวตลก ยังเป็นไอเดียงานโฆษณาที่จะเห็นอยู่ในปีนี้ต่อไป เพราะให้ความบันเทิงที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะพึงพอใจ และช่วยสร้างความจดจำในแบรนด์ได้ดีแล้ว เอเยนซียังนิยมสร้างสรรค์งานโฆษณาตลกที่มีแนวคิดฉีก 5) โฆษณาแนวไอเดีย งานโฆษณาที่เน้นครีเอทีฟไอเดียที่แท้จริง โดยนำจุดเด่นของสินค้ามานำเสนอด้วยความคิดที่แปลกใหม่ เพื่อสร้างความโดดเด่นท่ามกลางโฆษณาที่มีอยู่มากมาย