xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.โชว์หลักฐานถล่มป๋าเปรม“จักรภพ”อ้างมีขบวนการเสี้ยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ม็อบที่นำประชาชนบุกไปบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐรุษ กล่าวกับผู้สื่อข่าวโดยที่ไม่ได้ถามถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามีใบปลิวโจมตี พล.อ.เปรมว่า ขณะนี้มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าขบวนการเสี้ยมเพื่อให้เกิดความแตกแยก ในชาติเริ่มทำงานหนักเป็นพิเศษ โดยมีการเสี้ยมเฉพาะในส่วนของพรรคพลังประชาชน ให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน โดยมีการออกข่าวทั้งทางบนดินและใต้ดินว่าเ กิดความไม่ปรองดองและมีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งไม่เป็นความจริง และต่อมาอีกระดับก็พยายามจะยกเรื่องขององคมนตรี ก็มีความพยายามเสี้ยมอีกให้เกิดความรู้สึกว่า คนในซีกรัฐบาลไปเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่บังควรแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้เว็บไซต์ไฮทักษิณดอทคอมได้นำเสนอแผนล้มล้างประธานองคมนตรี นายจักรภพ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเว็บไซต์เพราะฉะนั้นถ้ามีการวางขั้นตอนทำอะไรที่ไม่ดีงามต่อบ้านเมืองรัฐบาลต้องเข้าไปดูแล ส่วนจะปิดเว็บไหนอย่างไรเราคงไม่วางนโยบายอย่างนั้นต้องดูทุกเว็บ แต่ที่สำคัญก็คือว่า เราจะไม่ร่วมเล่นเกมส์ ให้คนเกิดความรู้สึกว่าการกล่าวหานั้นเป็นเรื่องที่จริงจัง
“ผมว่าคนระดับอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ควรจะลดตัวลงมาเล่นบทลูกหาบให้กับเรื่องแบบนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายเทพไท เสนพงษ์เถอะ”

อดีตแกนนำนปก.ปากสั่นปัดเอี่ยวใบปลิว
ด้านนาย ณัฐวุฒิใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำ นปก. กล่าวว่า ตนได้เรียกร้องให้นายชวนแสดงหลักฐานแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินการตรมกระบวนการของกฎหมาย แทนที่นายชวน หรือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ดาหน้ากันออกมาแทนที่จะแจ้งความหรือแสดงหลักฐานใบปลิวที่อ้างว่าอยู่กับตัว แต่กลับพยายามจะขยายผลพูดจาสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้ประชาชน มองคนบางคนในรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายจักรภพ หรือตนก็ตาม
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องร้อนตัวที่จะออกมาพูดจาหรือปกป้องตัวเองเพียงแต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เป็นถึงอดีตนายกฯต้องออกมาเปิดประเด็นเหล่านี้ ทั้งที่ไม่มีเหตุการ หลักฐานและพยายานรองรับ ดังนั้นเรื่องนี้จะใช้การกล่าวหากันลอยๆหวังผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ พูดจาออกมาแล้วตัองรับผิดชอบขอให้ชี้มาว่าเป็นใครอย่าพูดจาอ้อมๆ แอ้มๆให้ประชาชนคิดกันเอาเอง หรือถ้าชี้ว่าเป็นตน ก็ต้องปกป้องสิทธิตัวเองตามกฎหมายก็จะต้องดำเนินการฟ้องร้องกันไป และที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ามีการนำเอกสารที่นปก.เคยทำมาเกี่ยวข้องด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เอกสารที่ นปก.เคยทำเป็นเรื่องที่ไม่ได้ปิดยังอะไรเลย เป็นเรื่องที่ทราบกันทั้งประเทศทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาเอกสารดังกล่าวมาเป็นข้อยืนยันที่พูดมา ตนก็คิดว่าสังคมคงจะขาดความน่าเชื่อถือจากนายชวนเหมือนกัน

ถูกสื่อซักกลับเอาสีข้างเข้าถู
ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วอย่างกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เคยกล่าว ถึงใบปลิวปฏิวัติและพูดผ่านรายการ สนทนาประสาสมัคร ว่าคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมมีการรับเงินใต้โต๊ะก็แสดงว่ารัฐบาลไม่มีความรับผิดชอบเหมือนกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ท่านนายกฯได้ชี้แจงไปแล้วว่า มีผู้สื่อข่าวมาสอบถาม แล้วท่านก็ตอบไปแล้วท่านก็ยุติการพูดจาไม่ใช่อธิบายขยายผลให้คนสงสัยว่าน่าจะเป็นคนนั้นคนนี้ ซึ่งท่านนายกฯไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยยุติเลยแต่ขยายผลเรื่อยๆ ซึงตนเข้าใจว่าถ้าไม่เรียกร้องให้ยุติก็คงจะใช้กลเกมมีการขยับให้คนในสังคมเครือบแคลงและในที่สุดก็ไม่เป็นประโยชน์กับใคร ดังนั้นจึงคนละเรื่องกับที่นายกพูดมา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นเรื่องใบปลิวเหมือนกัน แต่ว่าไม่มีหลักฐานเหมือนกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มันคนละกรณี เพราะว่าท่านนายกฯหลังจากพูดเรื่องนี่เสร็จ ท่านก็บอกว่าเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนไปถามท่าน แล้วท่านก็เล่าว่าได้ยินมาอย่างนี้ แล้วก็ยุติไม่ได้กล่าวหาใครต่อและไม่พยายามพูดว่าเป็นคนนั้นคนนี้
“แม้จะเป็นเรื่องของใบปลิว เรื่องข้อมูลลับที่ได้รับทราบมา แต่การดำเนินการ เป็นวิธีการที่แตกต่าง”

มท.1เร่งชวนนำหลักฐานมามอบให้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตนคิดว่า นายชวน เป็นผู้ที่เปิดประเด็นซึ่งอดีตที่ผ่านมานั่นท่านเป็นคนที่มีความแม่นยำในทุกๆเรื่อง และได้รับการยอมรับศรัทธาจากประชาชน แต่เมื่อมาเปิดประเด็น ก็ควรที่จะนำเอกสารหลักฐานที่ท่านได้มาแสดงให้รัฐบาลได้รับทราบแม้จะไม่ได้มีการลงชื่อก็ตาม เพื่อที่รัฐบาลจะได้ช่วยสานต่อหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ถ้าท่านไม่นำเอามาให้เราแล้วบอกว่า มันไม่มีก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ท่านต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง ถามว่า ทางฝ่ายรัฐบาลได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปรับฟังและตรวจสอบที่มาที่ไปจริงหรือไม่
“ผมยืนว่า ฝ่ายรัฐบาลไม่มีใครที่ปัญญาทึบ ที่จะไปโจมตีประธานองค์มนตรี หรือองค์มนตรี มันไม่มีประโยชน์อะไร เรื่องดังกล่าวรัฐบาลไม่ได้ทำเด็ดขาด องค์มนตรีเป็นที่เคารพนับถือของบุคคลทั่วไป เป็นที่ไว้วางในพระราชหฤทัยที่ได้ทำหน้าที่ประธานองคมนตรีหรือองคมนตรีท่านอื่นๆก็เช่นกัน ไม่มีใครที่ไปออกใบปลิวที่ไปโจมตี หลายฝ่ายชอบเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพื่อหวังจะให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับครั้งที่ผ่านมา แต่รอบนี้คงลำบาก เพราะเราได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด เราไม่ไปทะเลาะกับใคร และไม่มีความเห็นขัดแย้งในเรื่องนี้แน่”

“ชวน”แถลงใบปลิวโจมตีป๋าอีกรอบวันนี้
สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายจักรภพ เพ็ญแข ออกมาให้สัมภาษณ์ ตอบโต้นายชวน โดยระบุว่าคนเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ควรออกมาเล่นบทลูกหาบ ทำให้นายชวน ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ พรรคประชาธิปัตย์ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือให้ผู้สื่อข่าวประจำพรรคประชาธิปัตย์ทราบว่า จะมีการแถลงข่าวชี้แจงเรื่องใบปลิวทั้งหมดในวันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 13.30 น.ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์
โดยนายชวน ได้จองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางจาก จ.ตรัง กลับมาที่กทม. แบบกระทันหัน โดยจะลงเครื่องในเวลา 12.30 น.ซึ่งจากกำหนดการเดิม นายชวนจะต้องกลับมาถึงกทม.ในวันอาทิตย์ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงการเดินทางมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง เนื่องจากมีความไม่พอใจที่ทางรัฐบาลเรียงหน้าออกมาตอบโต้และท้าทาย

“เทพไท”โชว์หลักฐานโจมตีป๋าเปรม
ด้านนายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหลักฐานการโจมตี พล.อ.เปรม มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมยืนยันว่าการที่นายชวน ออกมาพูดถึงขบวนการที่ต้องการสร้างความแตกแยกและกล่าวพาดพิงถึง พล.อ.เปรม นั้นเป็นเรื่องจริง
สำหรับหลักฐานที่นายเทพไท นำมาโชว์ เป็นหนังสือชื่อ Wก้อนกรวดในรองพระบาท” ที่ถูกนำไปเผยแพร่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ “เว็บไซต์ไฮทักษิณ” ซึ่งมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมและจาบจ้างพล.อ.เปรม ประกอบกับมีภาพเสียดสีในทาง หยาบคายมาก เช่น ภาพดัดแปลงคัตเอ๊าต์ตามสวนสาธารณะต่างๆ แผ่นโปสการ์ด และส.ค.ส.
นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลควรรีบดำเนินการกับขบวนการเหล่านี้ เพราะรัฐบาลมีเครื่องมือและกลไกตรวจสอบเอาผิดได้ และหากรัฐบาลต้องการเอกสารนี้ ก็จะจัดส่งไปให้ นอกจากนี้ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายคนได้รับจดหมายโจมตี การทำงานของพรรค และจดหมายบางฉบับยังได้ส่งขนเพชรมาให้ด้วย

อ้างเป็นตร.สันติบาลมาขอใบปลิว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อเวลา 12.30 น.วานนี้ (18 เม.ย.) ได้มีชาย 2 คน อ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาลได้เข้าไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอเอกสาร ใบปลิวที่นายเทพไท เอาออกมาแฉ โดยอ้างว่าผู้ใหญ่ได้สั่งให้มาขอเอกสารทั้งหมด โดยได้เข้าไปขอเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ แต่ถูกปฏิเสธ จากนั้น ทั้ง 2 คน ได้เข้ามาที่ห้องผู้สื่อข่าวแล้วสอบถามถึงเอกสารการแถลงข่าวทั้งหมด แต่ก็ถูกปฏิเสธว่า ไม่มีเอกสารอยู่ในมือ
จากนั้นชายทั้งสองคนได้ซักถามว่าเอกสารที่นายเทพไท เอามามีอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวก็ได้ตอบไปว่ามีแต่หนังสือ ก้อนกรวดในรองพระบาท เท่านั้น จากนั้นชายทั้งคนก็ถามอีกว่าแล้วใบปลิวอื่นมีหรือไม่ ผู้สื่อข่าวก็บอกว่า ไม่มี และได้ถามกลับไปว่า มีแต่ถุง ขนเพชร จะเอาไปฝากให้ผู้ใหญ่ที่สั่งมาไปดูหรือไม่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ชาย 2 คนก็หัวเราะ แล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที

หวั่นนปก.หลุดคดีบุกบ้านป๋าเปรม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินคดีกับแกนนำนปก. ที่ชุมนุมกล่าวปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บริเวณบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 ว่า ตนได้ติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าคดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ล่วงเลยมากเกือบ 1 ปีแล้ว อีกทั้งก็มีการแจ้งข้อกล่าวหา ในข้อหาร่วมกันชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สินของราชการ แต่ตนเชื่อว่าในระดับแกนนำทั้ง 8 คน น่าจะหลุดจากคดี เพราะศาลไม่รับฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ตนตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุที่ทำให้การดำเนินคดีดังกล่าวล่าช้านั้น อาจมีสาเหตุมาจากแกนนำ นปก.บางคน ได้เป็นใหญ่เป็นโต และเป็นถึงระดับรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดนี้ จึงน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม จนทำให้คดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่ารูปการของคดีน่าจะเป็นการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมากกว่าจะดำเนินคดีในระดับแกนนำ โดยอ้างว่า เป็นการกระทำส่วนตัวของแต่ละบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นจากการจัดตั้งจากกลุ่ม นปก.ดังนั้น ตนอยากฝากให้ตำรวจ และอัยการผู้ดูแลคดี เร่งดำเนินการสั่งฟ้องผู้กระทำผิดตามกฎหมาย โดยไม่ละเว้นว่าผู้นั้นจะเป็นใครในรัฐบาล พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบขบวนการโจมตีประธานองคมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่ายังคงมีอยู่ เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น