xs
xsm
sm
md
lg

"สมใจนึก"สละประธานบอร์ดอีลิทเร่งเพิ่มเอเย่นต์ขยายตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฉบับวันที่ 17-4-51
ผู้จัดการรายวัน - “สมใจนึก” เปิดทาง สละเก้าอี้ประธานบอร์ดอีลิท อ้างเป็นมารยาท ทางการเมืองหลังตั้งรัฐบาลใหม่ ด้านททท. ผู้ถือหุ้น 100% ตั้ง 5 กรรมการใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง พร้อมเตรียมเรียกประชุม ชงเรื่องตั้งประธานบอร์ดสัปดาห์หน้า ด้านทีพีซี เล็งชงโปรเจค“บิสสิเนสดิเวลลอปเมนต์ สตรีม แพกเกจ” ปั้นรายได้ขาที่สอง หารือบอร์ดใหม่

แหล่งข่าวจาก บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้ดูแลโครงการบัตรอีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นทีพีซี ได้มีมติแต่งตั้ง กรรมการ บริษัทรวม 5 ท่าน ได้แก่ นายสรจักร เกษมสุวรรณ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์(ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) นาย ปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย และ นายสุรกิจ ลิ้มสิทธิกูล เพื่อเข้ามาแทนกรรมการในบอร์ดชุดเก่า ที่ลาออกไป 5 ท่าน
โดยในที่นี้มี นายสมใจนึก เองตระกูล ประธาน คณะกรรมการ(บอร์ด) ซึ่งได้ยื่นใบลาออกรวมอยู่ด้วย ส่วนอีก 4 ท่านที่ลาออกเป็น กรรมการ ได้แก่ 1.นาย ชนะ รัตนพล 2.นายขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ 3.นายวสิงห์ กิตติกุล (อดีต รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน) และ 4.นายรพี ม่วงนนท์ (ลาออกตั้งแต่เข้ารับสมัครคัดเลือกเป็นผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี)
ทั้งนี้คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด)ทั้งหมด เพื่อเลือกประธานบอร์ด แทนนายสมใจนึก เองตระกูล เพื่อให้การทำงานสามารถดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัด ขณะเดียวกันงานตามแผนงานที่วางไว้ก็ยังคงเดินหน้าต่อตามปกติ
“ตามโครงสร้างการทำงานของ ทีพีซี ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็นประธานบอร์ด ขึ้นอยู่กับว่าที่ประชุมจะโหวดให้ใครที่อยู่ในคณะกรรมการชุดนั้น ดังนั้นขณะนี้ทุกท่านก็มีสิทธิ์เท่าๆกันทั้งหมด ทั้งกรรมการเก่า และกรรมการใหม่”
ทางด้านนายสมใจนึก เองตระกูล อดีต ประธานบอร์ด อีลิท การ์ด กล่าวถึงสาเหตุที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งว่า ถือเป็นมารยาทที่ควรปฎิบัติ เนื่องจากขณะนี้ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คนใหม่เข้ามาบริหารงาน ดังนั้นจึงต้องการเปิดทางให้มีการคัดเลือกประธานคนใหม่เข้ามาบริหารงาน ขณะเดียวกันโดยส่วนตัวก็มีภารกิจการทำงานให้กับหลายๆองค์กรแล้ว เกรงว่า จะแบ่งเวลามาดูงานให้กับทีพีซีได้ไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม มองว่าแผนธุรกิจของทีพีซี ภายใต้การนำของ นายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี คนปัจจุบัน มองว่า เป็นแผนที่มีความเป็นรูปธรรมสูง และเป็นแผนงานที่เหมาะสม จึงอยากให้รัฐบาล และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนการทำงานของทีพีซีอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยอย่างจริงจัง
***ขายทัวร์หรูปั้นรายได้ขาที่สอง****
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อมีการแต่งตั้ง บอร์ดใหม่ครบสมบูรณ์แล้ว ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งต่อไป ก็จะมีการยื่นเสนอ แผนงานในโครงการ “บิสสิเนสดิเวลลอปเมนต์ สตรีม แพกเกจ” ให้ที่ประชุมและบอร์ดได้รับทราบ หรือเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมก่อนดำเนินการ เพราะโครงการดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบของบอร์ดชุดเดิมแล้ว
สำหรับโครงการนี้ เป็นแคมเปญที่จะเข้ามาเสริมธุรกิจของทีพีซี โดยจะทำให้บริษัท มีรายได้เพิ่มเติมขึ้นมาจากคอมมิชชั่นจากเวนเดอร์ หรือพันธมิตรทางการค้า ที่นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากการขายบัตรสมาชิก หากบอร์ดใหม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ก็จะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 ปีนี้
รายละเอียดของ “บิสิเนสดิเวลลอปเมนต์ สตรีม แพกเกจ” คือ เป็นแพกเกจทัวร์ ระดับไฮเอนด์ หรูหรา แบบที่ไม่มีขายในท้องตลาด เช่น เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว หรือ เฮลิคอปเตอร์เหมาลำ พักโรงแรมระดับหรูหรา รับประทานอาหารชั้นเลิศ ทำสปา เล่นกอล์ฟ เช็คสุขภาพ และ บริการอื่นๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ เบื้องต้นจะเสนอขายกับสมาชิกผู้ถือบัตร หากประสบความสำเร็จ ปีหน้าจะขยายไปยังกลุ่มที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่อาจเป็นบุคคลที่สมาชิกแนะนำเข้ามา หรือ ลูกค้าเป้าหมายที่อาจเข้ามาเป็นสมาชิกในอนาคตข้างหน้า ซึ่งส่วนนี้ จะจักเป็นแพกเกจทัวร์ระดับไฮเอนด์ นำเสนอขายผ่านตัวแทนจำหน่ายบัตรอีลิท ที่อยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้บุคคลกลุ่มนี้ได้มาทดลองและสัมผัสบริการที่เหนือใคร ได้ที่ประเทศไทย
“แผนงานนี้ เพื่อเจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไฮเอนด์ , เมดิคัล ,ไมซ์ , กลุ่มที่ต้องการเข้ามาซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ กลุ่มที่ชื่นชอบบริการแบบลักษ์ซูรีโปรดักส์ & เซอร์วิส โดยขณะนี้ ทีพีซี ได้ติดต่อกลุ่มเวนเดอร์ เพื่อ นำสินค้าและบริการ มาจัดเป็นแพกเกจทัวร์ เช่น สนามกอล์ฟ สปา โรงแรม โรงพยาบาล เป็นต้น” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2 ปีนี้ ทีพีซี ยังได้เตรียมเพิ่มผู้แทนจำหน่ายบัตรอีลิทให้มากขึ้น เพื่อเป็นการขยายตลาดและฐานลูกค้า ได้แก่ ที่ประเทศ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และ อีกหลายประเทศในยุโรป
ทางด้านผลประกอบการ ไตรมาสแรก ยอดสมาชิกใหม่ ประมาณ 15 ราย เทียบกับปีก่อนที่มีสมาชิกใหม่ 64 ราย ทั้งนี้เพราะ การปรับราคาบัตรจาก ใบละ 1 ล้านบาท เป็น ใบละ 1.5 ล้านบาท และลดสิทธิประโยชน์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อค ในช่วงแรก ซึ่งขณะนี้ ทีพีซี ก็เริ่มเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ ชี้แจงทำความเข้าใจ และยังเตรียมปรับเพิ่มบริการ คาดว่า เมื่อแผนงานและบริการที่ชัดเจน ลูกค้าก็จะให้ความมั่นใจเช่นเคย
กำลังโหลดความคิดเห็น