xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งพัชรวาทผบ.ตร.ตามคาดเสรีพิศุทธ์แฉขบวนการหลอกนายกฯเพื่อปล้นเก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (11 เม.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.)
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ตช. ว่า ที่ประชุมมีมติพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งจะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อตำแหน่งว่างลงโดยสมบูรณ์ ตามกฏหมายจะดำเนินการตามขั้นตอนนำรายชื่อ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมต่อไป
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ในส่วนของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ ดังนั้นในขั้นตอนของกฏหมายระบุว่า ให้พ้นจากตำแหน่งไปในวันที่มีคำสั่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ดังตัวอย่างเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา การดำเนินการทางกฏหมาย จะมีผลย้อนหลังตามกฏหมายตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ดังนั้นมติวันนี้ กตช.เห็นชอบมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้นายกรัฐมนตรีนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ตามขั้นตอนต่อไป ขณะนี้ถือว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ยังคงรักษาการ ผบ.ตร. และตามคำสั่งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรียังมีอยู่ ส่วนจะให้ออกจากราชการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขั้นตอนนี้ทาง กตช.สามารถ ดำเนินการได้ ก็เหมือนกับกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. ได้รับความเห็นชอบจาก กตช. ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ซึ่งได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งก่อนเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นลักษณะเดียวกับ ผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือไม่ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ต่างกรณีกัน สำหรับการประชุมในวันนี้ไม่มีวาระอื่นใด มีแต่การพิจารณา ผบ.ตร.คนใหม่เท่านั้น ส่วนการแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.ในตำแหน่งที่ว่างนั้น ไม่ได้อยู่ในอำนาจของ กตช.
อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของ ผบ.ตร.คนใหม่จะสมบูรณ์เมื่อใด ขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาระบุมีการปล้นตำแหน่งนั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ไม่มี

เสรีพิศุทธ์แฉถูกลูกน้องเก่าเล่นงาน
ด้าน พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร.แถลงถึงกรณีที่ถูกตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใน 4 ประเด็นอีกครั้งพร้อมเอกสารประกอบอย่างละเอียดโดยยืนยันว่าวันนี้ยังเป็นผบ.ตร.อยู่จะพ้นจากตำแหน่งต่อเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาให้พ้นจากตำแหน่ง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คำสั่งที่เกี่ยวข้องกับตน 4 คำสั่ง คือ 1.คำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงใน 3 เรื่อง 2.คำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี 3.คำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงใน 4 ประเด็นด้วยกัน และคำสั่งที่ 4.เป็นคำสั่งที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
โดยในคำสั่งที่ 3 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 71/2551เรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ใน 4 เรื่อง ลงวันที่ 4 เม.ย.นั้น การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสามารถทำได้ตามกฎหมายทุกคนที่ถูกคนร้องเรียนถูกกล่าวหาจะบอกว่าเขาผิดเลยไม่ได้เขายังบริสุทธิ์อยู่ ต้องสืบสวนข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า เขาได้กระทำความผิด แต่ในคำสั่งแรกที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ไม่ได้ตรวจสอบเลยเป็นการทำผิดขั้นตอน
อย่างไรก็ตามคำสั่งที่ 3 ที่ให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง 4 ประเด็น พร้อมมีเอกสาร ประกอบ ประเด็นที่ 1 เรื่องการทุจจริตงบประมาณสืบสวนสอบสวนคดีลำใย กระทรวงเกษตรฯนั้น เมื่อตนไปเป้นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ก็ต้องลงไปทุกหมู่บ้านในภาคเหนือว่ามีการแจ้งเท็จหรือไม่ มีการปลูกจริงหรือไม่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ของบประมาณไปที่กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงเกษตรก็ได้อนุมัติงบลับให้จำนวน 15 ล้านบาท
“ผมก็มาเปิดบัญชีสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติขึ้นมาเพื่อใช้จ่ายในการ สืบสวน สอบสวนซึ่งเงินนี้เราก็ได้ใช้ตามระเบียบอย่างถูกต้อง ตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนกลางก็ใช้ไปเพียง 4 หมื่นกว่าบาท ที่เหลือตำรวจในพื้นที่ก็ใช้ในการสืบสวน สอบสวน ซึ่งการสืบสวนสอบสวนคดีมีผู้ต้องหาประมาณ 5 พันกว่าคนคดีก็ยังไม่เสร็จ ขอขยายเวลาไปถึงสิ้นปีนี้ ก็มีพ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง อดีตนายเวรของผมที่ถูกย้ายไปเป็น ที่ปรึกษา ก็กลับฝั่งไปร้องเรียนนายกฯว่าเรื่องนี้มีการทุจริต นายกฯก็ให้ ก.ตร. ตรวจสอบ ก.ตร.สอบถามไปยัง สตง.ทาง สตง.ตรวจสอบแจ้ง ก.ตร.กลับมาว่า การเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบ ไม่ส่อไปในทางทุจริต รองผู้ว่าสตง. ก็ได้ลงนามให้ทราบ”
นอกจากนั้นก็มีการไปร้องป.ป.ช.ด้วย ก็มีการกราบเรียนนายกฯเพื่อทราบและมีการสั่งยุติเรื่องเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2550 นอกจากนั้นก็มีความพยายามไปดำเนินคดี ที่กองปราบปรามด้วยซึ่งก็มีการแจ้งที่กองปราบปรามว่าทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว

ซื้อมอเตอร์ไซด์สตง.รับรองไม่ผิด
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สอง กรณีซื้อรถมอเตอร์ไซค์ บริษัทที่เสียผลประโยชน์ ร้องเรียนว่าตนกระทำผิดขั้นตอนกล่าวหาเพื่อประโยชน์ของบริษัท ตนเองจึงไปฟ้องร้องที่จ.นราธิวาส ก็ให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองประสาน ให้กราบก็ยอมเพราะกลัวตายที่เดินทางไปภาคใต้ บริษัทพวกนี้ตีหน่วยราชการทุกหน่วย มันเกินไป มีการร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเมื่อ 24 มี.ค.2551 ซึ่งภายหลังตรวจสอบก็มีการยืนยันว่าถูกต้องตามระเบียบทุกประการ โดยการเปลี่ยนรุ่นรถจาก 150 ซีซี เป็น 200 ซีซี ถือว่าเป็นผลประโยชน์ราชการ มีการแก้ไขสัญญาถูกต้อง มีการเจรจาต่อรองกับกรรมการ กับบริษัทขอเปลี่ยนเป็น 200 ซีซี ซึ่งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็ได้สั่งยุติเรื่องนี้เนื่องจากเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

ที่ดินเมืองกาญจน์สอบแล้วถูกต้อง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สาม กรณีถมดินแม่น้ำแควน้อย เรื่องนี้เมื่อปี 2544 ตนก็ได้ขออนุญาตกรมเจ้าท่า เพื่อทิ้งหิน ถมดินแก้ปัญหาน้ำเซาะที่ดิน ซึ่งทางเจ้าท่าก็อนุมัติ โดยระหว่างนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตลอด ผ่านไปปี 2549 เมื่อมีการเปิดรังวัดเพื่อออกโฉนด เจ้าหน้าที่ที่ดินก็จะติดต่อเจ้าของที่ดินมาทำรังวัด บริเวณริมน้ำก็มีเรียกกรมเจ้าท่ามาตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นไปตามแนวเขตทุกประการ จึงมีการออกโฉนดอย่างถูกต้องมา เมื่อเดือน ก.ค.50 ขณะที่ตนเองเป็น รักษาการ ผบ.ตร. อยู่ มีการร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทย ว่ามีการทิ้งหินถมดินในแควน้อย เป็นการสกัดกั้นไม่ให้ตนเองขึ้น ผบ.ตร. มีการส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจ.กาญจนบุรี โดยทั้งปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ที่ดิน รังวัด มาตรวจสอบก็เห็นควรให้ยุติ เนื่องจากถูกต้อง ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็เห็นด้วย
สำหรับที่ดินของกรมสงเสริมสหกรณ์ เจ้าของเดิมปลูกบ้านไว้ 2หลัง ซึ่งรุกเข้าไปนิดเดียว ก็อยากทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ทำสัญญาเช่า 5 ปี จำนวนเงิน 7 หมื่นบาท โดยสัญญาเช่าก็ยังหาไม่เจอ ได้เห็นจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึกระบุยืนยันจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่ามีการทำสัญญาเช่าอย่าถูกต้อง

ใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นไปตามระเบียบสตช.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สี่ในเรื่องเกี่ยวกับการใช้เฮลิคอปเตอร์ ในเรื่องนี้ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ออกโดยพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. กำหนดไว้อย่างชัดแจ้งว่า การใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นสิทธิของ ผบ.ตร. อีกทั้งตนเองก็มีความจำเป็นในการใช้เพื่อทำงานนอกสำนักงาน เนื่องจากไม่ต้องการ ให้ผู้คนมารบกวน โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งที่ที่ประหยัดที่สุดก็คือไปที่ของตนเองที่เมืองกาญจนบุรี พอวันหยุดก็จะนำเอาเอกสารทั้งหมดไป พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ นายเวร ไปช่วยกันทำ ซึ่งในการเดินทางไปมีแค่ 3 คน บางคน ไม่เคยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ตนก็อนุญาตให้ขึ้นไปเพื่อจะได้มีโอกาสสัมผัส ได้รู้จักประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการคิดกันคนละอย่าง ในเมื่อเสียน้ำมันอยู่แล้ว ก็ต้องให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งนักบินจะต้องมีชั่วโมงบิน ก็เป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับนักบินไปด้วย
บางคนไปใส่ใคล้ตนว่าใช้เฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ซึ่งมันไม่ใช่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และเรียนตรงๆ ว่าเวลาจะใช้เฮลิก็สั่งผู้บังคับการกองบินตำรวจ ให้จัดมาจัดลำไหนให้ก็ใช้ลำนั้น ยืนยันไปเลย สามารถถามนักบินได้ คนคิดยังไม่กล้าคิด คนใส่ใคล้ก็กล้าไปใส่ความ

แฉคนอยากเป็นผบ.ตร.หลอกนายกฯ
“การตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 4 เรื่องเห็นแล้วหรือยังว่ามันมีมัลความจริงบางหรือไม่ หลายเรื่องยุติไปแล้ว ทำไมต้องมากล่าวหาผม จะบอกให้เป็นขั้นเป็นตอนเลย เพราะเป็นความคิดของกลุ่มบุคคลที่อยากเป็น ผบ.ตร. ไปอธิบาย หลอกลวงนายกรัฐมนตรีว่าถ้าทำอย่างนี้ได้ ว่าตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปเลย เพราะพวกนี้รู้ว่าถ้าสืบสวนข้อเท็จจริงให้ออกจากราชการไม่ได้ เพราะว่านายกรัฐมนตรีไม่มีเวลามาเปิดเอกสารกฎหมายดู ทำเหมือนอย่างปีที่แล้ว ที่นายกฯสุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็เอาคุณโกวิทไป ผมก็ต้องรอมาตุลาฯ เพราะผมไม่ได้รุกต่อว่าทำอย่างไรให้คุณโกวิทออก ปัจจุบันมีกระบวนการพยายาม ให้ผมออกจากตำแหน่ง ไปบอกท่านนายกฯตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปเลย กฎหมายให้พิจารณาในเบื้องต้นก็ได้ นายกฯก็ตั้งไป แล้วก็รอเวลาไประยะหนึ่ง ก็ทำคำสั่งออกจากราชการไปให้ โดยกรณีสืบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งก่อนจะให้ออกจากราชการ ก็กลัวจะมีปัญหา กลัวจะเงียบ ก็หยิบ 4 เรื่องนี้มาเป็นข่าว ทั้งที่จบไปหมดแล้วมาเป็นข่าว มาตั้งกรรมการขึ้นมาใหม่ แล้วพอ 8 เม.ย. ก็มีคำสั่งให้ผมออกจากราชการไว้ก่อน”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่เข้าไปยุ่งเรื่องการสอบสวน แต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการสอบสวน อย่างวันที่ 29 มี.ค. ที่ตนเองถูกย้ายไปปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท ออกคำสั่งไปที่ กองพลาธิการ กองสวัสดิการ และกองกำลังพล ยึดเอกสารมาหมดเลย ตนเองถูกกล่าวหา จะชี้แจงก็มีหนังสือไปหน่วยงานต่างๆ แต่ผู้บังคับการในหน่วยงานนั้นก็ให้ไม่ได้ เพราะถูกสั่งห้ามหมด จนวันนี้ตนเองก็เลยไม่มีเอกสารมาชี้แจง แล้วเขาก็เอาเอกสารไปตัดต่อเสริมแต่งทำลาย ถ้าจะเอาไปทำลายก็ได้ ทั้งที่ไม่ใช่เนื่อง ของสตช.เลย ก็ต้องปล่อยให้กรรมการดำเนินการไป
“เรื่องการแต่งตั้งตำรวจ ที่ร้องว่าผิดกฏหมาย ความจริงเป็นเรื่องของ กรรมการสอบสวนในการตรวจสอบ แต่สตช. ก็พยายามแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และบอกว่ามันผิดจริงๆ ซึ่งตรวจสอบแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท ตั้งกรรมการขึ้นมา 7 คน พอกรรมการขัดแย้งกัน คุณสุวัฒน์ จันอิทธิกุล ก็เซ็นต์มาคนเดียว ไม่เชื่อไปหา เอกสารดูได้ กรรมการทั้ง 6 คน ไม่เซ็นต์ แล้วนำเข้า ก.ตร. เมื่อ 11 มี.ค. พอเข้า ก.ตร. ไปแถลงนายกฯ ก็งงเนื่องจากว่าไม่ใช่เรื่องของ ก.ตร.เป็นเรื่องของ ตร. ไม่เอาแต่ก็กลับไปเขียนมติว่า ก.ตร.ทราบตามนั้น มันพยายามที่จะสร้างหลักฐานชี้นำกรรมการ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเรื่องทั้ง 4 เรื่อง ที่สอบสวนข้อเท็จจริงผม สตช. เป็นผู้ดำเนิน การตลอด อย่างเรื่องฮ. พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ออกมาแถลงตลอดว่ามีการใช้ อ.ผิด จนในที่สุดนายกฯก็ตั้งกรรมการมา เหล่านี้เป็นขบวนการพยายามให้ตั้งกรรมการ เพื่อให้ตนเองได้ดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าท่านนายกฯจะเข้าใจกฎหมาย จะมีเวลามาพลิกกฎหมายอย่างผมหรือไม่”

ชี้ถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากราชการ
“สรุปคือมีการกลั่นแกล้งกัน เพื่อให้ผมออกจากราชการไว้ก่อน คนที่มีผลประโยขน์จะได้ดูแลตำแหน่งผบ.ตร.ต่อจากผม ก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน เราไม่ติดยึดกับตำแหน่ง เป็นก็ได้ไม่เป็นก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ว่าหลักฐานมันชัดแจ้ง ว่าคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายต้องทำให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นท่านทั้งหลายจะไม่สามารถตอบสังคมได้ ผมแม้จะถูกตั้งกรรมการสอบสวนก็ยืดอกเสมอ มาพบกับท่านได้เสมอ แต่คนที่ไม่พูดความจริง หลบอยู่ข้างหลังมันรู้ตัวดี เวรกรรมมันมีจริง ผมยินดีที่จะรับโทษรับทัณรับผิดถ้ามันผิด ลูกผู้ชายทำผิดก็รับผิด แต่ถ้าไม่ผิดผู้ที่กล่าวหาผม กระบวนการต่างๆ ที่จะฉกชิงปล้นตำแหน่งมันจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป ผมหวังอย่างนั้น”
พล.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ฟังๆ ดูต่อจากนี้จะมีการหาเรื่องตนอีก เรื่องมูลนิธิ ไปจนถึงเรื่องจัดซื้อไบโอดีเซล เหล่านี้เอาประเด็นมาทำลายกัน พวกนี้มันชั่วช้าสามาลย์มาก จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเอกสาร 2 คำสั่งหลัง
พล.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขบวนการปล้นตำแหน่งอย่าให้ตนระบุชัดเจน ให้ไปลำดับเอาเอง แต่ขบวนการนี้มีหลายคน เป็นนายตำรวจเกือบทั้งหมด ขบวนการเชื่อมโยงกัน พอคนนี้ได้ขึ้นคนโน้นก็ได้ต่อ คนนี้ก็หวังจะขึ้นในเดือนกันยายน โถ่พี่น้องกันทั้งนั้น จะใช้ห้องประชุมยังไล่เลย แต่ก่อนให้กราบเท้ายังมากราบเลย
“แต่ก่อนพวกนี้ผมจะตั้งกรรมการสอบสวนมันทั้งนั้น ก็แห่กันมาทั้งรุ่นมานั่งกราบขออภัย ผมเลี้ยงให้อภัยคนชั่วไว้ มันก็เสียดายเหมือนกันนะ เรื่องนี้ไปถาม โฆษกตร.ดูว่าเป็นใคร โฆษกก็คงจะรู้ จริงๆ ผมไม่เคยคิดร้ายคิดไม่ดีกับใคร จึงไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาโค่นตำแหน่ง คิดดีทำดีมาตลอด”
ส่วนกรณีรถตู้ที่เช่ามาและถูกจอดในสตช.จำนวนมากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การเช่าซื้อรถทำอย่างถูกต้อง ครม.อนุมัติ ส่วนรถที่จอดในสตช.สื่อไม่รู้เบื้องหลังว่าพวกเวรพวกนี้ ที่มีตำแหน่งเป็นผู้การ ผู้บัญชาการทุกหน่วยในตร. เมื่อเห็นโรงพักมี ก็ออกมาทำหนังสือขอว่าตนเป็นถึงผู้การทำไมไม่มี บางคนก็อ้างเหตุผลมาดีเพื่อประโยชน์ทางราชการ ตนก็เลยจัดสรรเจียดมาให้ ส่วนเรื่องการใช้ระบบเอ็นจีวี ที่ไม่สอดคล้องกับโรงพักชนบท และน้ำมันก็แพงนั้น ก็กล่าวว่ารถนี้มี 2 ระบบ ก็เติมน้ำมันแทนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น