กระบี่ -กระบี่เมืองปาล์มน้ำมันสะดุด โรงงานไบโอดีเซลต้นแบบของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันฯ หยุดเดินเครื่องชั่วคราว จากคุณภาพน้ำมันยังไม่ได้มาตรฐานกรมพลังงาน เร่งปรับปรุงจุดบอด ก่อนเปิดขายใหม่รับน้ำมันราคาแพง ด้านผู้ว่าฯประกาศหนุนเต็มที่ พร้อมบรรจุไว้เป็นวาระจังหวัด
นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ เปิดเผย “ผู้จัดการ”ถึงการผลิตไบโอดีเซล ของโรงงานต้นแบบดังกล่าวว่า กระบวนการผลิต สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี แต่พบว่าคุณภาพยังไม่ได้มาตรฐาน มีบางจุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุง สหกรณ์ฯจึงให้โรงงานหยุดการผลิตชั่วคราวปรับปรุงขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้น้ำมันไบโอดีเซลที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น จากเดิมที่เคยผลิตคุณภาพของน้ำมันอยู่ที่ 75 - 80 เปอร์เซ็นต์ ก็จะต้องทำให้ได้คุณภาพของน้ำมันสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงที่รองบประมาณปรับปรุง โรงงานยังคงเดินเครื่องเพื่อทดสอบคุณภาพน้ำมันอยู่จำนวน 24 ชนิด จากการผลิตทดสอบสอบนี้ พบว่าน้ำมันที่ได้ยังมีส่วนผสมของน้ำ และกรดเกลือเจือปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งต้องแก้ไขต่อไป
สำหรับกระบวนการผลิตที่จะต้องปรับปรุง คือ ในส่วนของตัวซับน้ำ โดยติดตั้งเรซิ่งดูดซับน้ำ เพื่อเอาน้ำที่เจือปนอยู่ในน้ำมัน รวมทั้งกรดเกลือที่ผสมอยู่ออกด้วย คาดว่าการปรับปรุงใหม่จะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งได้รับงบประมาณมาบางส่วนแล้ว และเริ่มปรับปรุงเบื้องต้น คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องใหม่ได้เต็มรูปแบบอีกครั้งกลางเดือนเมษายนนี้
“สำหรับไบโอดีเซลที่ผลิตได้แม้คุณภาพยังต่ำอยู่ก็ตาม แต่ได้ทดลองนำมาใช้กับเครื่องจักรกลภายในโรงงาน รวมทั้งรถขนส่งในโรงงานด้วย พบว่าการมีน้ำและกรดเกลือเจือปนอยู่ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเครื่องยนต์แต่อย่างใด ที่โรงงานหยุดก็เพื่อปรับปรุงกการผลิตให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพดีจริงๆออกสู่ตลาด ตามมาตรฐานของกรมพลังงานที่กำหนด โดยน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตก็เป็นน้ำมันประเภท B100”นายวิศาลกล่าว
ราคาปาล์มขึ้น ส่งต้นทุนสูง
ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ฯ เผยว่า ในส่วนปัญหาของการผลิตที่คาดว่าคงจะมีต่อไปอีก ก็คือ ปัญหาในเรื่องของต้นทุนการผลิต เนื่องจากราคาปาล์มได้ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยราคาอยู่ที่ประมาณ 5 บาท ซึ่งทำให้ราคาของน้ำมันขยับขึ้นตามไปด้วย หน่วยงานของรัฐจะต้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยส่งเสริมให้การปลูกปาล์ม ที่ให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น จากเนื้อที่ปลูกปาล์มที่เก็บเกี่ยวผลผลิตมีอยู่ประมาณ 7 แสนไร่ ผลผลิต 2 ล้านตันต่อปี ซึ่งหากว่านำมาผลิตเป็นไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์ ภายในจังหวัดก็เพียงพอต่อการผลิตอย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่ชุมนุมสหกรณ์ฯเองก็สามารถผลิตน้ำมันได้วันละ 160 - 170 ตัน แต่นำมาผลิตไบโอดีเซลจริงประมาณ 10 ตันต่อวันเท่านั้น
สำหรับน้ำมันปาล์มดิบในช่วงนี้ ได้ขยับราคาขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละประมาณ 33 บาท เทียบกับราคาของน้ำมันดีเซลไม่ต่างกันมากนัก เมื่อผลิตออกมาเป็นไบโอดีเซลแล้วก็ต้องแข่งกับน้ำมันดีเซล จึงอาจจะเสียเปรียบในเรื่องของตลาด อย่างไรก็ตาม โรงงานแห่งนี้จะไม่เลิกการผลิตแน่นอน เพราะเป็นโรงงานต้นแบบ และเชื่อว่าเมื่อได้มีการเดินเครื่องอย่างจริงจัง ปัญหาเรื่องต้นทุนก็ไม่น่าจะเป็นอุปสรรค และไม่น่าจะขาดทุน เพราะสามารถปรับกันได้ด้วยกลไกการตลาด
ในส่วนของจังหวัดนั้นก็ไม่ได้ทอดทิ้ง ยังคงให้การสนับสนุนสหกรณ์ฯเต็มที่ และขณะนี้ก็ช่วยหาเงินมาปรับปรุงโรงงาน โดยขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนขนาดย่อม (สสว.) และได้งบประมาณมาแล้ว จำนวน 1.3 ล้านบาท เป็นงบประมาณจ่ายขาด และอีกด้านหนึ่งก็ได้เสนอเรื่องไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา
“ความจริงกรมส่งเสริมสหกรณ์มีหน้าที่ดูแลสหกรณ์ฯโดยตรง แต่การของบแค่ 2 ล้านมาปรับปรุงกลับขอยากขอเย็น ต่างกับ สสว.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องเลย กลับให้เงินมาแล้ว โดย สสว.ให้ความสำคัญ และมองว่าโครงการผลิตไบโอดีเซลเป็นโครงการเร่งด่วน และสมเด็จพระเทพฯ สนใจมาก “
ยันมีตลาดรองรับพร้อม
ด้านการตลาดของไบโอดีเซล นายวิศาลกล่าวว่า ช่วงนี้ไม่มีปัญหา เพราะตลาดไบโอดีเซลมีอยู่แล้ว คือ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มด้วยกัน กลุ่มรถบรรทุก และชาวประมง รวมทั้งหน่วยงานจากองค์กรต่างๆ ล้วนต้องการใช้ เพียงพอสมดุลกับจำนวนการผลิตอยู่แล้ว จากที่สามารถผลิตได้ 10,000 ลิตรต่อวัน ความต้องการก็ตกอยู่ที่ประมาณ 8,000 - 10,000 ลิตร
“ส่วนการขยายกำลังการผลิต เป็นเรื่องของอนาคต ปัจจุบันอยากจะทำให้โรงงานต้นแบบที่มีอยู่นี้ สามารถผลิตไบโอดีเซลให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับเสียก่อน แล้วค่อยมาพิจารณากันถึงการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม และเชื่อว่าตลาดจะต้องยอมรับอย่างแน่นอน หากราคาน้ำมันดีเซลยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ฯกล่าว
ดันกระบี่เมืองปาล์มน้ำมันเป็นวาระจังหวัด
ด้าน นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ถึงแม้ขณะนี้ราคาปาล์มน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น จังหวัดก็ได้มีแผนรองรับไว้แล้ว และล่าสุดทราบว่า ธ.ก.ส.ได้เตรียมงบประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการผลิตไบโอดีเซล แบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกปาล์มน้ำมัน จนถึงกระบวนการผลิต เป็นไปได้ว่า จังหวัดอาจจะไปกู้เงินจากกองทุนดังกล่าว มาลงทุนด้วยก็ได้ เพื่อให้การดำเนินงานที่ติดขัดอยู่เดินต่อไป นั่นเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น หรือถ้ามีหน่วยงานไหนที่สนใจก็อาจไปขอกู้มาลงทุนได้ และหากการผลิตไบโอดีเซลมีปัญหา ก็ยังมีอีกหลายกองทุนที่พร้อมจะให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น กองทุนพัฒนาพลังงาน เป็นต้น เชื่อว่าการผลิตไบโอดีเซล ทั้งจากของจังหวัด และภาคเอกชนคงมีการเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาน้ำมันแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ชาวกระบี่จะต้องเร่งเอาพลังงานทดแทนมาใช้ และก็เป็นความโชคดีที่จังหวัดกระบี่มีปาล์มน้ำมัน ที่สามารถนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซลได้ จึงต้องร่วมผลักดันกันหลายฝ่าย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยได้นำโครงการกระบี่เมืองปาล์มน้ำมัน(กระบี่ปาล์มออยล์ ซิตี้)เข้าเป็นวาระของจังหวัด และให้หน่วยงานหลักกว่า 20 หน่วยงาน เข้ามารับผิดชอบให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และได้แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์จังหวัดกระบี่ขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยปาล์มน้ำมันทำงานอยู่ประจำ
“สำหรับเรื่องนี้ ผมพร้อมที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม และทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันสนับสนุน ทั้งต้องเห็นถึงความสำคัญของพลังงานทดแทน เบื้องต้นก็สามารถผลิตนำมาใช้กับอุตสาหกรรมภายในจังหวัดได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมีการพัฒนาขีดความสามารถ เปิดตลาดการจำหน่ายไปยังผู้ที่ต้องการบริโภคให้กว้างขวางออกไปโดยไม่จำกัด”ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าว และว่า
ในส่วนของการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ขณะนี้ทำได้เพียงส่งเสริมให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิทำกินในเขตพื้นที่ ส.ป.ก. ช่วยกันปลูกปาล์มเพิ่ม เพราะหากว่าจะขยายพื้นที่อื่นปลูกคงจะมีเหลืออยู่ไม่มากแล้ว เนื่องจากเกษตรกรในจังหวัดกระบี่ นอกจากปลูกปาล์มน้ำมันแล้ว ยังมีการปลูกยางพาราด้วย และผลผลิตของพืชทั้ง 2 ชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจ มีราคาดีต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรที่ปลูกอยู่แล้วก็จะไม่ทำลายทิ้งจนกว่าจะหมดอายุ