ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เซ็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 73/2551 ปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตี ออกจากราชการไว้ก่อน โดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้อ้างผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งนายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เป็นกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการฯได้สรุปผลการสืบสวนสอบสวน 3 เรื่อง ได้แก่ การจัดเช่ารถยนต์ตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม และการบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตำรวจฝ่ายปฏิบัติ 1- 10 ในสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง ผิดขั้นตอนและไม่มีโครงสร้างหน้าที่รองรับมีความผิดจริง
ขณะเดียวกัน เมื่อ วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา นายสมัคร ได้เซ็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 71/2551เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่าได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในหลายกรณี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนกล่าวหาจากผู้ร้องหลายรายว่าข้าราชการตำรวจได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในหลายกรณี ดังนี้
1.กรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตเงินงบประมาณที่ใช้ในการสืบสอบสวน ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ในโครงการรับซื้อลำไย ปี 2547 ซึ่งมีการจัดทำเอกสาร อันเป็นเท็จ โดยใช้ชื่อ และปลอมลายมือชื่อในการเบิกเงินค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ
2.กรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตจัดซื้อรถจักรยานยนต์ตามโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) จำนวน 19,147 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิคส์
3.กรณีกล่าวหาว่ารีสอร์ตภูไพรธารน้ำ ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งตั้งอยู่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้มีการถมหินขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ดิน กรวด ทรายจำนวนมาก ล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำแควน้อย แล้วยึดถือครองที่บุกรุก แม่น้ำแควน้อยดังกล่าว
และ 4.กรณีกล่าวหาว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สั่งการให้กองบินตำรวจจัดเฮลิคคอปเตอร์ ทั้งแบบเบลล์และแบบยูโรค็อปเตอร์อีซี ที่ใช้สนับสนุนภารกิจ ผบ.ตร. เพื่อใช้เดินทางไปพักผ่อน และดูแลกิจการรีสอร์ตภูไพรธารน้ำ เป็นการส่วนตัวในวันหยุดราชการ
ทั้งนี้ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 84 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายจุฑาธวัช อินทรสุขสี ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกรรมการ นายวชิระ เพ่งผล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.อาจิณ โชติวงศ์ รองผบช.กมส.เป็นกรรมการ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบก.ตำรวจสื่อสาร เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการฯมีอำนาจเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ความเห็นชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ส่งข้อมูลเอกสารต่อคณะกรรมการฯ นอกจากนี้สามารถตั้งอนุกรรมการ ช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามความจำเป็น ขณะเดียวกันหากมีปัญหาหรืออุปสรรค ไม่สามารถดำเนิการได้เอง เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญควรได้รับการวินิจฉัยแก้ไขอย่างเร่งด่วนให้เสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อมีคำวินิจฉัย หรือแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า หาก คณะกรรมการฯเห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ให้ประธานรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปฎิเสธถึงข่าวปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากราชการ โดยอ้างว่าเป็นเพียงข่าวลือ และให้ลือไปก่อน เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการสั่งให้สอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพิ่มเติม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสมัคร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผบ.ตร.ถูกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ย้ายมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแต่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่รักษาการแทน ผบ.ตร.พร้อมตั้ง กรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในหลายกรณีซึ่งคณะกรรมการได้สรุปความผิดจนนำมาซึ่งคำสั่งปลดออกจากราชการไว้ก่อนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างรอผลการสอบสวนครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่ง ผบ.ตร.วางลง เพื่อเปิดทางให้ นายสมัคร ในฐานะประธาน ก.ตร.สามารถที่จะแต่งตั้งบุคคลอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ ซึ่งจะทำให้ ผบ.ตร.คนใหม่มีอำนาจเต็มที่
ขณะเดียวกัน เมื่อ วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา นายสมัคร ได้เซ็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 71/2551เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่าได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในหลายกรณี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนกล่าวหาจากผู้ร้องหลายรายว่าข้าราชการตำรวจได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในหลายกรณี ดังนี้
1.กรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตเงินงบประมาณที่ใช้ในการสืบสอบสวน ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ในโครงการรับซื้อลำไย ปี 2547 ซึ่งมีการจัดทำเอกสาร อันเป็นเท็จ โดยใช้ชื่อ และปลอมลายมือชื่อในการเบิกเงินค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ
2.กรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตจัดซื้อรถจักรยานยนต์ตามโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) จำนวน 19,147 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิคส์
3.กรณีกล่าวหาว่ารีสอร์ตภูไพรธารน้ำ ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งตั้งอยู่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้มีการถมหินขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ดิน กรวด ทรายจำนวนมาก ล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำแควน้อย แล้วยึดถือครองที่บุกรุก แม่น้ำแควน้อยดังกล่าว
และ 4.กรณีกล่าวหาว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สั่งการให้กองบินตำรวจจัดเฮลิคคอปเตอร์ ทั้งแบบเบลล์และแบบยูโรค็อปเตอร์อีซี ที่ใช้สนับสนุนภารกิจ ผบ.ตร. เพื่อใช้เดินทางไปพักผ่อน และดูแลกิจการรีสอร์ตภูไพรธารน้ำ เป็นการส่วนตัวในวันหยุดราชการ
ทั้งนี้ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 84 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายจุฑาธวัช อินทรสุขสี ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกรรมการ นายวชิระ เพ่งผล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.อาจิณ โชติวงศ์ รองผบช.กมส.เป็นกรรมการ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบก.ตำรวจสื่อสาร เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการฯมีอำนาจเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ความเห็นชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ส่งข้อมูลเอกสารต่อคณะกรรมการฯ นอกจากนี้สามารถตั้งอนุกรรมการ ช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามความจำเป็น ขณะเดียวกันหากมีปัญหาหรืออุปสรรค ไม่สามารถดำเนิการได้เอง เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญควรได้รับการวินิจฉัยแก้ไขอย่างเร่งด่วนให้เสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อมีคำวินิจฉัย หรือแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า หาก คณะกรรมการฯเห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ให้ประธานรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปฎิเสธถึงข่าวปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากราชการ โดยอ้างว่าเป็นเพียงข่าวลือ และให้ลือไปก่อน เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการสั่งให้สอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพิ่มเติม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสมัคร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผบ.ตร.ถูกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ย้ายมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแต่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่รักษาการแทน ผบ.ตร.พร้อมตั้ง กรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในหลายกรณีซึ่งคณะกรรมการได้สรุปความผิดจนนำมาซึ่งคำสั่งปลดออกจากราชการไว้ก่อนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างรอผลการสอบสวนครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่ง ผบ.ตร.วางลง เพื่อเปิดทางให้ นายสมัคร ในฐานะประธาน ก.ตร.สามารถที่จะแต่งตั้งบุคคลอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ ซึ่งจะทำให้ ผบ.ตร.คนใหม่มีอำนาจเต็มที่
