ผู้จัดการรายวัน - ซัมซุงเปิดแผนรุกเตาอบไมโครเวฟรุกสู่ตลาดพรีเมี่ยมและขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ อัดงบตลาด 35 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายเตาอบไมโครเวฟสิ้นปีนี้กว่า 400 ล้านบาท
นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ซัมซุงเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ที่ครองความเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เครื่องซักผ้าฝาบน และเตาอบไมโครเวฟที่เป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 โดยครองส่วนแบ่ง 30% ในปีนี้ซัมซุงมุ่งมั่นทำตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกลุ่มเตาอบไมโครเวฟปีนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดและโปรโมทผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยม
“นอกจากนี้ซัมซุงเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่พักอาศัยในคอนโดมีเนียม อพาร์ทเมนท์ และหอพักต่างๆ เนื่องจากซัมซุงเล็งเห็นว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีศักยภาพและยังมีช่องว่างในการทำตลาดอีกมาก” นายชาญวิทย์กล่าว
ปีนี้ซัมซุงเตรียมที่จะเปิดตัวเตาอบไมโครเวฟรวม 6 รุ่น ได้แก่ ระดับราคาอยู่ที่ 3,000-4,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมในกลุ่มพรีเมี่ยม สำหรับไมโครเวฟรุ่นที่เป็นตัวหลักในการทำตลาดปีนี้ คือ รุ่น “CE1071A (Trio)” ราคา 6,990 บาท งบประมาณตลาดของเตาอบไมโครเวฟซัมซุงปีนี้เตรียมไว้กว่า 35 ล้านบาท
ทั้งนี้ ซัมซุงคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมเตาอบไมโครเวฟในประเทศไทยในปีนี้จะมีมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมีการเติบโต 12-15% ในแง่จำนวนเครื่องคาดว่าจะมีประมาณ 5 แสนเครื่อง โดยภายในสิ้นปีนี้ ซัมซุงเชื่อมั่นว่าจะรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 35% หรือคิดเป็นยอดขายเตาอบไมโครเวฟกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 12-15% จากปีก่อน โดยในแง่จำนวนเครื่องคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 140,000 เครื่อง
“สิ่งที่ทำให้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าไมโครเวฟซัมซุงจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่แบรนด์ซัมซุงเป็น ที่ยอมรับในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงทยานขึ้นสู่อันดับ 1 ในหลายกลุ่ม รวมถึงการที่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ผู้บริโภคมีความคุ้มค่าในการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะซัมซุงมีโรงงานผลิตเตาอบไมโครเวฟในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตกว่า 2.4 ล้านเครื่องต่อปี ตลอดจนซัมซุงมีแผนจะทำการสื่อสารทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างจริงจัง ทั้งการใช้งบผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ซัมซุงประสบความสำเร็จอย่างงดงามในกลุ่มสินค้าเตาอบไมโครเวฟ” นายชาญวิทย์กล่าว
นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ซัมซุงเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ที่ครองความเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เครื่องซักผ้าฝาบน และเตาอบไมโครเวฟที่เป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 โดยครองส่วนแบ่ง 30% ในปีนี้ซัมซุงมุ่งมั่นทำตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกลุ่มเตาอบไมโครเวฟปีนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดและโปรโมทผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยม
“นอกจากนี้ซัมซุงเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่พักอาศัยในคอนโดมีเนียม อพาร์ทเมนท์ และหอพักต่างๆ เนื่องจากซัมซุงเล็งเห็นว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีศักยภาพและยังมีช่องว่างในการทำตลาดอีกมาก” นายชาญวิทย์กล่าว
ปีนี้ซัมซุงเตรียมที่จะเปิดตัวเตาอบไมโครเวฟรวม 6 รุ่น ได้แก่ ระดับราคาอยู่ที่ 3,000-4,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมในกลุ่มพรีเมี่ยม สำหรับไมโครเวฟรุ่นที่เป็นตัวหลักในการทำตลาดปีนี้ คือ รุ่น “CE1071A (Trio)” ราคา 6,990 บาท งบประมาณตลาดของเตาอบไมโครเวฟซัมซุงปีนี้เตรียมไว้กว่า 35 ล้านบาท
ทั้งนี้ ซัมซุงคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมเตาอบไมโครเวฟในประเทศไทยในปีนี้จะมีมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมีการเติบโต 12-15% ในแง่จำนวนเครื่องคาดว่าจะมีประมาณ 5 แสนเครื่อง โดยภายในสิ้นปีนี้ ซัมซุงเชื่อมั่นว่าจะรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 35% หรือคิดเป็นยอดขายเตาอบไมโครเวฟกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 12-15% จากปีก่อน โดยในแง่จำนวนเครื่องคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 140,000 เครื่อง
“สิ่งที่ทำให้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าไมโครเวฟซัมซุงจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่แบรนด์ซัมซุงเป็น ที่ยอมรับในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงทยานขึ้นสู่อันดับ 1 ในหลายกลุ่ม รวมถึงการที่ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ผู้บริโภคมีความคุ้มค่าในการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะซัมซุงมีโรงงานผลิตเตาอบไมโครเวฟในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตกว่า 2.4 ล้านเครื่องต่อปี ตลอดจนซัมซุงมีแผนจะทำการสื่อสารทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างจริงจัง ทั้งการใช้งบผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ซัมซุงประสบความสำเร็จอย่างงดงามในกลุ่มสินค้าเตาอบไมโครเวฟ” นายชาญวิทย์กล่าว