รัฐ กระตุ้นเรื่องกรีนโปรดักส์ “โตชิบา”ยิ้ม ช่วยดันรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง หรือทั้งปีโตขึ้นอีก 5% คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท หลังมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ล่าสุดทุ่ม50ล้านบาท ทำตลาดเครื่องซักผ้าปีนี้ เน้นกลุ่มฝาบนอัตโนมัติถังเดี่ยวเป็นหลัก มั่นใจมีแชร์ในตลาดเครื่องซักผ้า ไต่ขึ้นเป็นที่ 3 ได้แน่ จากเดิมที่รั้งอันดับ5ในปีก่อน
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลชุดให้ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องกรีนโปรดักส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับกระแสโกลบอลวอร์มมิ่งที่ทุกคนเริ่มเห็นความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจว่า การที่เราให้ความสำคัญกับกรีนโปรดักส์ในหลายปีที่ผ่านมา จนกล่าวได้ว่า เราเป็นผู้นำทางด้าน กรีน โปรดักส์อย่างลึกซึ้งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของโตชิบา จะมุ่งเน้นในความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ต่างจากผู้เล่นรายอื่นที่มุ่งเน้นแต่ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันเราทำได้ถึง 5 กลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ตัวสินค้า ขั้นตอนการผลิต อุปกรณ์ใช้ในสำนักงาน วัตถุดิบ และ กิจกรรมทางการตลาด ซึ่งทุกสิ่งต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตรงนี้จึงมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผลประกอบรวมปีนี้ ขยับขึ้นอีก 5% จาก 4,800 ล้านบาทเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท แต่การเติบโตอาจลดกว่าปี 2548 ที่ โต 8% เพราะสินค้าปรับราคาลง ทำให้มูลค่าการเติบโตลดลง แต่ในแง่จำนวนที่ขาย ถือว่าเพิ่มมากขึ้น
โดยกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนยอดขายมากสุดคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ประกอบด้วย ตู้เย็นและเครื่องซํกผ้า 60% กลุ่มไอที คือโน็ตบุ๊ก 30% และเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง 10% ซึ่งเมื่อแยกยอดขายออกเป็นแต่ละสินค้าแล้ว ตู้เย็นเป็นสินค้าหลักที่ทำยอดขายสูงสุดที่ 38% 2.โน็ตบุ๊ก 30% 3.เครื่องซักผ้า 15% 4.เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก เช่น ไมโครเวฟ หรือกระติกน้ำร้อน 12% 5.เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง เช่น ดีวีดี 5%
ล่าสุดสำหรับสินค้าเครื่องซักผ้า ปีนี้ทางบริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 50 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยเฉพาะ ได้โดยเปิดตัวรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 16 รุ่น เน้นรุ่นฝาหน้าอัตโนมัติถังเดี่ยว กับนวัตกรรมใหม่ ระบบ “Super Direct Drive Inverter” (S-DD Inverter) มั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายกลุ่มเครื่องซักผ้าโตขึ้นอีกอย่างน้อย 20% จากเดิม 10% ในปีก่อน ขณะเดียวกันคาดว่าโตชิบาจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวอัตโนมัติ ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ3 ด้วยแชร์ 12% จากเดิมที่อยู่ในอันดับ 5 มีแชร์ 9% และ มีแชร์ในตลาดเครื่องซักผ้ารวมเพิ่มเป็น 10% จากปีก่อนมี 8%
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลชุดให้ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องกรีนโปรดักส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับกระแสโกลบอลวอร์มมิ่งที่ทุกคนเริ่มเห็นความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจว่า การที่เราให้ความสำคัญกับกรีนโปรดักส์ในหลายปีที่ผ่านมา จนกล่าวได้ว่า เราเป็นผู้นำทางด้าน กรีน โปรดักส์อย่างลึกซึ้งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของโตชิบา จะมุ่งเน้นในความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ต่างจากผู้เล่นรายอื่นที่มุ่งเน้นแต่ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันเราทำได้ถึง 5 กลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ตัวสินค้า ขั้นตอนการผลิต อุปกรณ์ใช้ในสำนักงาน วัตถุดิบ และ กิจกรรมทางการตลาด ซึ่งทุกสิ่งต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตรงนี้จึงมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผลประกอบรวมปีนี้ ขยับขึ้นอีก 5% จาก 4,800 ล้านบาทเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท แต่การเติบโตอาจลดกว่าปี 2548 ที่ โต 8% เพราะสินค้าปรับราคาลง ทำให้มูลค่าการเติบโตลดลง แต่ในแง่จำนวนที่ขาย ถือว่าเพิ่มมากขึ้น
โดยกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนยอดขายมากสุดคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ประกอบด้วย ตู้เย็นและเครื่องซํกผ้า 60% กลุ่มไอที คือโน็ตบุ๊ก 30% และเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง 10% ซึ่งเมื่อแยกยอดขายออกเป็นแต่ละสินค้าแล้ว ตู้เย็นเป็นสินค้าหลักที่ทำยอดขายสูงสุดที่ 38% 2.โน็ตบุ๊ก 30% 3.เครื่องซักผ้า 15% 4.เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก เช่น ไมโครเวฟ หรือกระติกน้ำร้อน 12% 5.เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง เช่น ดีวีดี 5%
ล่าสุดสำหรับสินค้าเครื่องซักผ้า ปีนี้ทางบริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 50 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยเฉพาะ ได้โดยเปิดตัวรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 16 รุ่น เน้นรุ่นฝาหน้าอัตโนมัติถังเดี่ยว กับนวัตกรรมใหม่ ระบบ “Super Direct Drive Inverter” (S-DD Inverter) มั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายกลุ่มเครื่องซักผ้าโตขึ้นอีกอย่างน้อย 20% จากเดิม 10% ในปีก่อน ขณะเดียวกันคาดว่าโตชิบาจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวอัตโนมัติ ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ3 ด้วยแชร์ 12% จากเดิมที่อยู่ในอันดับ 5 มีแชร์ 9% และ มีแชร์ในตลาดเครื่องซักผ้ารวมเพิ่มเป็น 10% จากปีก่อนมี 8%