เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้(6เม.ย.) นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากถูกลอบทำร้ายหลังจากว่าความที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุว่า เหตุการณืที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพื่อเรียกเรตติ้งให้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า เรื่องที่ เสธ.แดง ออกมาพูดไม่เป็นความจริง ตนไม่ทราบว่าเสธ.แดง คิดได้อย่างไร
"อยากฝากถึงเสธ.แดงว่า คงไม่มีใครบ้าเอาหัวตัวเองมาเสี่ยงจัดฉาก หรือถ้าจะจัดฉากจริง แค่ชกต่อยก็เพียงพอแล้ว ซึ่งการถูกฟันที่หัวเป็นการทำลายสมอง เหมือนกับเป็นการทำลายวิชาชีพของตัวเอง และทำลายลูกเมียด้วย เพราะอาชีพทนายความต้องใช้สมองในการทำงาน ถ้าไม่มีสมองก็คงไม่มีงาน ลูกเมียคงแย่ คงไม่อยากมีใครมานอนเล่นๆ ที่โรงพยาบาลเพราะค่าใช้จ่ายก็สูง ซึ่งที่ผ่านมาผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด" นายอนันตชัยกล่าว
นายอนันตชัย กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ เสธ.แดงให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นคนก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะนั้นขอยืนยันว่าไม่เคยด่าใคร ไม่เคยก้าวร้าว เมื่อเจอ เสธ.แดง ตนเรียกพี่ทุกครั้ง เจอก็ยกมือไหว้ หากไม่เชื่อให้ไปถามทนายของ เสธ.แดงได้ว่าตนเป็นคนอย่างไร มีแต่เพียง เสธ.แดง เท่านั้นที่ด่าและจะเข้ามาทำร้ายตน ทำให้ศาลต้องมีคำสั่งห้ามให้ เสธ.แดงมายุ่งเกี่ยวกับตน ซึ่งตนอยากให้ผู้สื่อข่าวเปิดเว็บไซต์ เสธ.แดง ดูว่ามีคำพูดหยาบคายด่าตนอย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ เสธ.แดง ในข้อหาหมิ่นประมาทมาแล้ว
นายอนันตชัย ยังได้กล่าวถึงอาการล่าสุดของตนว่า ยังรู้สึกปวดศีรษะอยู่ โดยแพทย์นัดให้เข้าตรวจเช็คสมองในวันนี้ (7 เม.ย.) ส่วนเรื่องของคนร้ายที่ลอบทำร้ายตนนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นกลุ่มใดกันแน่ ซึ่งอาจจะเป็นมือที่สามก็เป็นได้ เพราะตนเคยว่าความคดีดังๆ มาหลายคดี เช่น คดีของนายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง คดีของเอ้-ชุติมา นัยนา อดีตนางสาวไทยปี 2530 และคดี อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ดารานักแสดง ก่อนที่จะมาทำคดีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ทำคดีให้กับพล.ต.อ.เสริพิศุทธ์ นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาคอยรักษาความปลอดภัยให้ แต่หลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตนก็เกรงใจไม่กล้าขอให้ตำรวจมาติดตามดูแล จนมาเกิดเหตุถูกลอบทำร้ายขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกับศูนย์สืบสวน บช.น.ได้เร่งติดตามเบาะแสของคนร้ายอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความหน้ามาเป็นระยะๆ ขณะเดียวกัน ได้เผยแพร่ภาพสเกตช์ของคนร้ายไปตามท้องที่ต่างๆ แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับแจ้งเบาะแสเข้ามา
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ ส่วนเรื่องคดีได้สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 3 ปาก ประกอบด้วย รปภ.ของศาล 2 คน และคนติดตามนายอนันตชัย ซึ่งเรื่องการดำเนินคดีไม่มีปัญหา เพราะคดีนี้มีประจักษ์พยานชัดเจน
"อยากฝากถึงเสธ.แดงว่า คงไม่มีใครบ้าเอาหัวตัวเองมาเสี่ยงจัดฉาก หรือถ้าจะจัดฉากจริง แค่ชกต่อยก็เพียงพอแล้ว ซึ่งการถูกฟันที่หัวเป็นการทำลายสมอง เหมือนกับเป็นการทำลายวิชาชีพของตัวเอง และทำลายลูกเมียด้วย เพราะอาชีพทนายความต้องใช้สมองในการทำงาน ถ้าไม่มีสมองก็คงไม่มีงาน ลูกเมียคงแย่ คงไม่อยากมีใครมานอนเล่นๆ ที่โรงพยาบาลเพราะค่าใช้จ่ายก็สูง ซึ่งที่ผ่านมาผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด" นายอนันตชัยกล่าว
นายอนันตชัย กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ เสธ.แดงให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นคนก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะนั้นขอยืนยันว่าไม่เคยด่าใคร ไม่เคยก้าวร้าว เมื่อเจอ เสธ.แดง ตนเรียกพี่ทุกครั้ง เจอก็ยกมือไหว้ หากไม่เชื่อให้ไปถามทนายของ เสธ.แดงได้ว่าตนเป็นคนอย่างไร มีแต่เพียง เสธ.แดง เท่านั้นที่ด่าและจะเข้ามาทำร้ายตน ทำให้ศาลต้องมีคำสั่งห้ามให้ เสธ.แดงมายุ่งเกี่ยวกับตน ซึ่งตนอยากให้ผู้สื่อข่าวเปิดเว็บไซต์ เสธ.แดง ดูว่ามีคำพูดหยาบคายด่าตนอย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ เสธ.แดง ในข้อหาหมิ่นประมาทมาแล้ว
นายอนันตชัย ยังได้กล่าวถึงอาการล่าสุดของตนว่า ยังรู้สึกปวดศีรษะอยู่ โดยแพทย์นัดให้เข้าตรวจเช็คสมองในวันนี้ (7 เม.ย.) ส่วนเรื่องของคนร้ายที่ลอบทำร้ายตนนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นกลุ่มใดกันแน่ ซึ่งอาจจะเป็นมือที่สามก็เป็นได้ เพราะตนเคยว่าความคดีดังๆ มาหลายคดี เช่น คดีของนายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง คดีของเอ้-ชุติมา นัยนา อดีตนางสาวไทยปี 2530 และคดี อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ดารานักแสดง ก่อนที่จะมาทำคดีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ทำคดีให้กับพล.ต.อ.เสริพิศุทธ์ นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาคอยรักษาความปลอดภัยให้ แต่หลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตนก็เกรงใจไม่กล้าขอให้ตำรวจมาติดตามดูแล จนมาเกิดเหตุถูกลอบทำร้ายขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกับศูนย์สืบสวน บช.น.ได้เร่งติดตามเบาะแสของคนร้ายอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความหน้ามาเป็นระยะๆ ขณะเดียวกัน ได้เผยแพร่ภาพสเกตช์ของคนร้ายไปตามท้องที่ต่างๆ แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับแจ้งเบาะแสเข้ามา
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ ส่วนเรื่องคดีได้สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 3 ปาก ประกอบด้วย รปภ.ของศาล 2 คน และคนติดตามนายอนันตชัย ซึ่งเรื่องการดำเนินคดีไม่มีปัญหา เพราะคดีนี้มีประจักษ์พยานชัดเจน
