รัฐบาลนอมินีแม้ว สั่งเด้ง “พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล” รอง ผบช.ส.มือสืบสวนคดี “ยุทธ ตู้เย็น” จนถูกใบแดงตกเก้าอี้ประธานสภาฯไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่มีกำหนด อ้าง เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ไม่สงบ
วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส.ลงนามเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ในคำสั่งให้ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รอง ผบช.ส.ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จ.ยะลา โดยไม่มีกำหนด และให้ปฏิบัติตามคำสั่งของ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า โดยอ้างว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความไม่สงบ จึงเห็นควรให้ไปช่วยราชการดังกล่าว
พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รอง ผบช.ส.ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดึงให้ไปช่วยงานสืบสวน ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานการเลือกตั้ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสืบสวนสอบสวนในคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทุจริตการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้ถูกใบแดง และต้องหยุดทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว ซึ่งคดีดังกล่าว กกต.ได้ส่งฟ้องศาลแล้ว โดยศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 20 มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งย้ายพล.ต.ต.ชัยยะในครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ในฐานะผบช.ส. ได้ลงนามในคำสั่งให้ไปช่วยราชการเอง ซึ่งในฐานะผบช.ส. ก็มีอำนาจที่จะมีการสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาให้ไปช่วยราชการได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคำสั่งที่ออกมาจากตร. จึงทำให้การสั่งย้ายพล.ต.ต.ชัยยะในครั้ง ถูกมองว่า ผบช.ส.ชิงลงมือสั่งย้ายเองก่อนที่จะถูกกดดันหรือไม่ หรืออาจจะมีมือที่มองไม่เห็นอยู่เบื้องหลังการสั่งย้ายในครั้งนี้ก็เป็นได้ คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ได้ออกมาจากตร. แต่กลับออกมาจากบช.ส.เอง
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวในระดับตร. ไม่ได้มีคำสั่งลงไป แต่ยังไม่ทราบว่า ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลมีคำสั่งหรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่าคงเป็นคำสั่งระดับกองบัญชาการ ซึ่งรายละเอียดคงต้องสอบถามกับพล.ต.ท.ระพัพัฒน์ ปาลวงศ์ ผบช.ส.เอง แต่ทั้งนี้ ผบช.ส.มีสิทธิที่จะมอบหมายให้รองผบช.ส.ไปปฏิบัติราชการได้ แต่ส่วนรายละเอียดนั้นตนไม่ทราบ
ขณะที่พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส. กล่าวว่ายอมว่ามีคำสั่งย้ายพล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รอง ผบช.ส.ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลาโดยไม่มีกำหนด แต่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีการทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช โดยเห็นว่าสถานการณ์ในภาคใต้ไม่สงบ จึงมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการดังกล่าว