ผู้ผลิต “เกมกลยุทธ์” ท้าชน “เดอะ สตาร์” เปิดตัวเรียลิตี้โชว์เฟ้นหาสุดยอดนักการตลาดครั้งแรกของไทย มั่นใจ 12 คนออกมา คนดูจะไม่เกลียด ย้ำเป็นเรียลิตี้ที่เหมาะกับวัฒนธรรมไทย การันตีไม่มีสคริปต์ ไม่มีล็อกโหวตแน่นอน ผู้ชนะจะได้ทำงานด้านการตลาดกับโอสถสภา
เดอะสตาร์ ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว “เอเอฟ” หรือ “ทรูอะคาเดมี แฟนเทเชีย” ปีที่ 5 ก็จะได้ผู้เข้าแข่งขัน 12 คนในวันนี้ (2) แล้ว ส่วนเรียลิตี้กระแสเบา ไม่เน้นร้องเพลง แต่เน้นแก้ปัญหาทางการตลาดอย่างเกมกลยุทธ์ ที่กำลังจะออกอากาศทาง โมเดิร์นไนน์ทุกวันพุธ เวลา 20.30 น.เทปแรกวันที่ 2 (เม.ย) นี้ผู้ผลิต “ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม” เกาะกระแสหยิบเรียลิตี้สายพันธุ์ใหม่ “เกมกลยุทธ์” เพื่อหาสุดยอดนักการตลาดรุ่นใหม่ โดยมีเดิมพันรางวัลกว่า 4 ล้านบาท เชื่อเป็นเรียลิตี้ที่มีสาระ และคนดูจะไม่เกลียดผู้เข้าแข่งขันแน่นอน
“ที่มาของโครงการนี้ ก็คือ เราคิดว่ามีแต่ล่านักร้องนักแสดง แต่ทำไมไม่มีใครล่าอะไรที่เป็นความรู้ แล้วมันก็ดีตรงที่ว่าผู้ใหญ่เขาก็สนับสนุน เพราะเราคิดว่าที่ทำน่ะมันจะดีไม่ดีไม่รู้ แต่ว่าทำดีที่สุดแล้ว เวลาเราทำเรียลิตี้มันเหนื่อยมากแต่มันก็มีความสุข เรียลิตี้มันก็มีเสน่ห์อยู่ตรงนี้นี่เอง”
“ปกติก็ดูเรียลิตี้นะอย่างบ้านเราก็มีพวก AF พวกดารา อะไรอย่างนี้ แต่ว่าของเมืองนอกก็เคยดูแว๊บๆ เพราะดูแล้วมันน่ากลัว สิ่งที่เราทำก็คือเอาของเราไปจดลิขสิทธิ์ อย่างน้อยก็เขาก็น่าจะเอาของเราไปฉายเมืองนอกบ้าง แต่ก็มีคนเคยบอกว่าก็มีเกมแบบนี้ แต่เราก็ไม่ดูเพราะว่ากลัวจะติดภาพเขา เราเป็นคนชอบดูรายการ สิ่งที่ทำมันอาจจะไม่ใช่ต้นแบบ แต่มันก็อาจจะเป็นต้นแบบตรงที่ว่าเราก็เอาที่มันเหมาะกับวัฒนธรรมไทยมาทำ”
“อย่างเราเคยดู เดอะวีคเคสลิงค์ อยู่เมืองนอกสนุกมาก แต่พอมาเมืองไทย มันเป็นวัฒนธรรมไทยมันเลยทำไม่ได้ เวลาที่ทำอะไรก็ต้องคิดว่าทำให้คนไทยดู ทำให้เหมาะกับความเป็นไทย อย่างคนไทยไม่ชอบก้าวร้าว อย่างที่ วู้ดดี้ (วุฒิธร) ทำนี่เราก็ชื่นชมเขาตรงที่เขาเป็นไทยฝรั่ง แต่เราก็ไม่อยากให้คนดูเขาเกลียดผู้เข้าแข่งขันเพราะกว่าจะได้เขามามันยากเย็นแสนเข็ญ เพราะฉะนั้นตอนเราคัดเลือกเราก็เอาทัศนคติของแต่ละคนมาวัดกันเพื่อให้ได้คนที่จิตใตดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจ”
“ถ้าผู้ชมได้ดูแล้วจะไม่รู้สึกเกลียดเขา เพราะเราไม่ได้คิดเรื่องหล่อเรื่องสวยมาเป็นหลัก เพราะคิดว่าก็คละๆกันบ้าง มันมาหล่อตอนเราแต่งขึ้น พอเราเอามาเราก็เอามาปรับลุก พอทำมันก็ดูดีขึ้นเพราะบุคลิกมันก็เป็นตัวที่เรียกคนดูได้ แต่มันก็เป็นบุคลิกที่เป็นตัวเขาเอง”
บอกหลักเกณฑ์การคัดเลือกแค่มีความตั้งใจมาไม่จำเป็นสาขาการตลาด แม้แต่รองนางสาวไทยก็ยังเข้าร่วมรายการนี้
“หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน คือ เราอยากได้คนที่จบปริญญาตรีขึ้นไป อายุ 23-25 ไม่จำกัดว่าจะจบสาขาวิชาไหนขอให้คุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เขาก็ต้องรู้ว่าเกมนี้มันเกี่ยวกับกลยุทธ์ของการตลาดเพราะฉะนั้นเขาก็ต้องมีความรู้พื้นฐานมาบ้าง มีความสนใจ ไม่จำเป็นต้องจบการตลาดเท่านั้น บางคนเป็นรองนางสาวไทยก็มาสมัครก็มี ทางเราเพิ่งมารู้ก่อนแถลงข่าวแค่ 1-2 วันเอง แต่ละคนมาจากหลายที่มาก”
“ที่นี่เราไม่มีการเก็บตัว เพราะมันเป็นแผนกลยุทธ์ทางการตลาด คือ ไม่มีการเก็บตัวอยู่ในบ้าน แต่เรามีสัญญาว่าจะต้องไม่ติดต่อใคร ไม่ติดต่อสื่อ เพราะเดี๋ยวมันไม่สนุก เรามีทีมงานคอยดู มีการปรับพื้นฐานให้เข้าใจตรงกัน รายการนี้รับรองว่าดูได้ทุกกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตนักศึกษา คนทำงาน แต่เรากำลังจะขยายว่าพ่อแม่ต้องดูด้วย เพราะจะได้ความรู้ แต่คนจะมองว่ามันเป็นยาขม เพราะคนจะคิดว่ามันเครียด แต่พอคนคิดอย่างนี้แล้วจริงๆ มันไม่เครียดมันก็จะสนุก”
ทางผู้บริหารลั่นไม่หวั่นถึงแม้รายการออกอากาศใกล้ๆ กับเรียลิตี้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง เดอะสตาร์ เชื่อคนไทยฉลาดที่จะเลือกเสพ ยันไม่มีการล็อกโหวตแน่นอน มั่นใจโดนใจคนดูตั้งแต่เทปแรก
“เรียลิตี้ของเราจะออกหลังจากเดอะสตาร์ และเราก็เชื่อว่า คนไทยฉลาดที่จะเลือกเสพ เราเชื่อว่าคนไทยหลายๆ คน ไม่ค่อยรู้จักกับคำว่า กลยุทธ์ คิดแต่ว่าคนไทยคิดว่ากลยุทธ์มีแต่เรื่องของการตลาด เรื่องของธุรกิจ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เรื่องใกล้ตัวก็เป็นกลยุทธ์ได้แต่เราไม่รู้ตัว เราก็คงต้องทำให้คนดูเข้าใจว่ารายการเราคือรายการอะไร น่าสนใจแค่ไหน มันได้ประโยชน์แน่นอนแต่จะเป็นประโยชน์ที่อยู่บนความบันเทิง ดูแล้วสนุก คนถึงจะดู แต่เป็นความสนุกที่ไม่ต้องมาปรุงแต่ง เพราะเราเลือกคนที่มีจิตใจดี มุ่งมั่นตั้งใจ”
“กติกาการแข่งขันเราแบ่งเป็นทีมๆ ละ 6 คน พอมีทีมแพ้ก็ต้องดูว่าทีมแพ้จะเอาใครออก บางคนก็คิดว่าคนนี้เก่ง เอามันออก แต่ความจริงแล้ว 50% ก็เป็นกรรมการที่จะตัดสินว่าจะเอาใครออก กรรมการก็ต้องถามว่าทำไมถึงเอาคนนี้ออก ผลมาจากพวกเขาโหวตครึ่งนึง กรรรมการครึ่งนึง ไม่ใช่การโหวตแบบ AF เพราะว่านี่ไม่ใช่แบบป๊อปปูล่าโหวต จึงทำให้ผลการโหวตคงล็อกไม่ได้ เพราะว่าคนที่ได้ที่หนึ่งต้องไปทำงานจริงๆ ที่โอสถสภา ต้องเป็นพนักงานจริงๆ”
“โดยส่วนตัวมั่นใจนะว่าจะโดนใจผู้ชมตั้งแต่เทปแรกเลย เพราะว่ามันเกิดจากสิ่งที่เราเองยังไม่คาดคิด เพราะเราไม่สามารถบังคับใครได้เลย เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีสคริปต์ เราวางแค่ว่าแต่ละสัปดาห์จะมีโจทย์อะไร ที่เหลือก็คือให้เขาไปคิดเองว่าจะทำให้มันเกิดอะไรขึ้นมา คือมันเป็นเสน่ห์ของเรียลิตี้ตรงนี้นี่เอง ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีมากที่เราได้มาทำ”
