xs
xsm
sm
md
lg

น.ส.ไทย หนีตายหาช่องลง “ทีพีบีเอส” จัดได้แต่ต้องใช้เงินรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วชิราวุธ” ดิ้นหอบ “นางสาวไทย” รุดเจรจาทุกช่อง ร่วมจัดประกวดหลังอวสานทีไอทีวี เผยยินดีไปอยู่กับ ไทย ทีพีบีเอส แต่ต้องใช้เงินรัฐในการจัดงาน ยืนกรานยังไงก็ไม่ให้นางงามใส่ชุดว่ายน้ำ

หลังจากที่มีคำสั่งยุติการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทีไอทีวีกลายเป็นทีวีสาธารณะ “ไทย ทีพีบีเอส” แม้ว่าจะมีความพยายามยื่นเรื่องฟ้องร้องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราว แต่สุดท้ายศาลก็ตัดสินไม่คุ้มครอง ทำให้สถานีทีไอทีวีต้องปิดตัวลงอย่างถาวร

งานนี้นอกจากจะส่งผลกระทบกับพนักงาน และผู้ผลิตในสถานีทีไอทีวีแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบไปยังการประกวดนางสาวไทย ซึ่งเป็นเวทีประกวดที่จัดขึ้นยาวนานถึง 73 ปี ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า การประกวดนางสาวไทยจะสิ้นสุดไปพร้อมกับทีไอทีวีหรือไม่ ทางด้าน “ชมพล ยูสานนท์” กรรมการบริหารสมาคมวชิราวุธ ประธานฝ่ายจัดการประกวดนางสาวไทย ก็ได้กล่าวถึงอนาคตของการประกวดนางสาวไทย ว่า

“จริงๆ เรารู้เรื่องนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นยังเป็นทีไอทีวีอยู่ ก็มีการเตรียมการไว้บ้างแล้ว ขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำยังไงต่อไป ก็คุยไว้กับหลายๆ ทาง ไม่ใช่ว่าอยู่เฉยๆ ปุบปับแล้วค่อยทำ เราเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ประกวดนางสาวไทยเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม เริ่มหารือกับทางสมาคมและผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังเหลือการเตรียมตัวอีก 5-6 เดือน”

ผู้บริหารสมาคมวชิราวุธ เผย มีความเป็นไปได้ที่จะไปอยู่กับทุกช่อง ไม่เว้นแม้แต่ช่อง 3 ช่อง 7 ซึ่งมีการจัดการประกวดนางงามของตัวเองแล้วก็ตาม

“มันคนละหลักการ ถึงช่อง 3 ช่อง 7 จะมีการประกวดนางงามอยู่แล้ว แต่เราก็สามารถเอาไปเสริมอีกได้ การประกวดสามารถจัดได้ไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะจัดคนละเวลากัน เมื่อก่อนเราก็เคยร่วมกับช่อง 7 และส่งไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ตรงนี้คิดว่าสามารถร่วมกันได้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพูดคุยเบื้องตรง เราไม่ได้คุยโดยตรงแต่มีตัวแทนมีเอเจนซี่เข้าไปคุย แต่โดยคร่าวๆ สามารถเป็นไปได้”

ก่อนหน้านี้ สมาคมวชิราวุธเคยร่วมมือกับช่อง 7 จัดการประกวดนางสาวไทย แต่เนื่องจากมีความไม่เข้าใจกันในบางประการ ทำให้สมาคมวชิราวุธย้ายมาจัดที่ช่องทีไอทีวี การที่จะหวนคืนจอช่อง 7 อีกครั้ง ทำให้หลายๆ คนตั้งข้อสงสัยว่าสามารถเป็นไปได้แค่ไหน

“ตอนนั้นที่เราออกมาจากช่อง 7 ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่มีการไม่เข้าใจในหลักการ มีบางอย่างที่ช่อง 7 เห็นว่า ไม่เหมาะสมกับเขา อย่างไรก็ตาม เราก็ยังต้องยึดกำหนดการให้สิทธิเป็นบรรทัดฐาน อย่าให้มันหวือหวา เรามีเงื่อนไขเดียว ถ้าจะทำกับเราก็ต้องมีเงื่อนไขเดียว”

“โดยเฉพาะเรื่องชุดว่ายน้ำไม่ใส่เป็นการดี ทำให้การประกวดมีสีสัน มีเด็กดีๆ เข้ามาประกวดเยอะ เอางี้ถ้าพูดถึงนางงามช่อง 3 ช่อง 7 คุณนึกถึงใคร แต่ถ้าเป็น บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี), นุ้ย (สุจิรา อรุณพิพัฒน์), หมิง (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) คุณนึกออกไหม มันมีข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน”

“สำหรับ ช่อง 5 ช่อง 9 ซึ่งยังไม่มีนางงามก็คุยๆ กันอยู่ แต่ถ้าเป็นช่อง 3 ช่อง 7 ก็น่าสนใจเพราะอาจมีคนให้ความสนใจเยอะ แต่จริงๆ แล้วเราไปไหนก็ได้ ตอนที่เราอยู่กับทีไอทีวีก็โอเค มันมีความเป็นไปได้หมด แม้แต่ทีวีสาธารณะที่กำลังจะเกิดขึ้นก็มีการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ซึ่งก็สอดคล้องกับนางสาวไทยเพราะเราส่งเสริมวัฒนธรรม ก็อาจเป็นไปได้ แต่ตรงนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย ถ้าไปทีวีสาธารณะจริงๆ ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาถึงจะทางช่องจะไม่มีโฆษณา แต่ตรงนี้ก็สามารถใช้เงินของรัฐได้”

ยืนยันไม่ว่าจะไปอยู่ช่องไหนผู้เข้าประกวดห้ามใส่ชุดว่ายน้ำ และต้องยึดเงื่อนไขวชิราวุธเป็นหลัก
“เงื่อนไขคือ เรามีข้อกำหนดการให้สิทธิ์ วชิราวุธต้องการผู้ถือสิทธิ์ ที่สามารถทำตามข้อกำหนดการให้สิทธิ์ยังไงก็ไม่ใส่ชุดว่ายน้ำแน่นอน เพราะเรามีองค์กรร่วม คือ สตรีแห่งชาติ การที่นางงามไม่ใส่ชุดว่ายน้ำทำให้เกิดความหลากหลายขึ้น เด็กดีๆ ก็มาประกวดกันมากขึ้น ไม่ใช่นางงามเดินสายเป็นการเปิดกว้างมากกว่า”

“ตอนนี้เรียกว่ามีทั้งเราเข้าไปเสนอ และมีคนติดต่อเข้ามาเอง นางสาวไทยเป็นการประกวดที่มีขึ้นตั้งแต่ปี 2477 ตั้งแต่ประกวดนางสาวสยาม เพื่อเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ต่อมาเป็นนางงามวชิราวุธ และเป็นนางสาวไทย รวมระยเวลา 70 กว่าปีแล้ว รับรองไม่อวสาน แต่ในบางครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเราก็ต้องงด 14 ตุลาคมก็งด มันแล้วแต่สถานการณ์”

สำหรับนางสาวไทย และรองปี 2550 ที่พึ่งจะได้รับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น ผู้บริหารสมาคมวชิราวุธยืนยันจะดูแลไม่ปล่อยให้เคว้ง
“สำหรับนางสาวไทยที่พึ่งได้ตำแหน่งมาเราก็ยังต้องดูแลต่อไปไม่ปล่อยเคว้ง ตรงนี้เรามีองค์กรดูแลเมื่อประกวดเสร็จก็มีกองประกวดดูแล มีทีมงาน มีพี่เลี้ยง เรื่องงานก็คงไม่ลดลง เพราะที่ผ่านมานางสาวไทยก็ไปได้ทุกช่อง ไม่ใช่ว่าจะอยู่แต่ทีไอทีวี”


กำลังโหลดความคิดเห็น