xs
xsm
sm
md
lg

เดือดร้อนทั่วไทย ฤาเพราะจัญไรกินเมือง?

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

วันนี้บ้านเมืองของเรามีเรื่องใหญ่ที่เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าและมีความสำคัญยิ่งกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นก็คือปัญหาเรื่องปากเรื่องท้องของประชาชน ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีหน้าไหนรับผิดชอบแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

ราคาน้ำมันยังคงพุ่งขึ้นไปไม่หยุดหย่อน ทุกสัปดาห์จะมีแต่ข่าวขึ้นราคาน้ำมัน โดยที่ไม่เคยปรากฏมีมาตรการใด ๆ ที่หยุดยั้งหรือแก้ไข หรือพอให้เห็นได้ว่าปัญหาจะสิ้นสุดยุติลงที่ตรงไหน

ราคาน้ำมันเป็นต้นเหตุสำคัญและเป็นปัจจัยสำคัญของค่าใช้จ่ายอย่างอื่นของประชาชนทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาจนถึงชาวนายากไร้ที่ต้องจ้างรถแทรคเตอร์มาไถนา

เมื่อราคาน้ำมันขึ้นไม่หยุดยั้งเช่นนี้ รายจ่ายของประชาชนทุกภาคส่วนและของทุกกิจการก็ขึ้นสูงตามไปด้วย ทำให้ค่าครองชีพของประชาชนพุ่งขึ้นไปไม่หยุดยั้ง จนเกินกว่ารายได้ที่มีอยู่ตามปกติจะรองรับได้ไหว

ดังนั้นชีวิตของคนไทยในวันนี้จึงไม่มีอนาคตอีกแล้ว คนกว่าครึ่งประเทศมีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ภาวะขาดแคลนขัดสนกำลังแผ่กระจายไปอย่างกว้างขวาง

เมื่อรายได้ไม่พอกินก็เป็นธรรมดาที่การปล้นชิงวิ่งราวหรือการฉ้อฉลฉ้อโกงกันจะระบาดเหมือนกับไฟลามทุ่งในหน้าแล้ง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนให้หนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก

เมื่อผสมกับความเครียดที่เห็นรัฐมนตรีไม่เอาไหน หรือบ้างก็เป็นหมาบ้า วัน ๆ หนึ่งไม่ทำงาน เอาแต่ไล่กัดผู้คนแล้ว ปัญหาในความรู้สึกนึกคิดของคนไทยจึงหนักหนาสาหัสน่าเวทนานัก

วันนี้ก็มีข่าวว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปถึงที่ระดับ 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งพอจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ได้ว่าราคาน้ำมันที่ประชาชนใช้สอยจะขึ้นราคาไปที่ระดับลิตรละ 60 บาทหรือมากกว่านั้น

ก็ขอรับรองไว้เลยว่าคงจะได้เห็นราคาที่ว่านี้ในปีนี้ คงเหลือแต่ว่าจะเห็นเร็วเห็นช้ากว่ากลางปีเท่านั้น แล้วนึกดูเอาเองเถิดว่าเพียงค่าน้ำมันลิตรละ 30 กว่าบาท ประชาราษฎร์ก็ยังเดือดร้อนกันถึงเพียงนี้แล้ว หากขึ้นไปถึงลิตรละ 60 บาท บ้านเมืองนี้จะมีอะไรเหลือ?

คงจะไปหวังรัฐบาลที่ใช้เด็กสร้างบ้านไม่ได้แน่ เพราะถึงวันนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าการดำรงอยู่ของรัฐบาลนี้ไม่ใช่เพื่อการแก้ไขปัญหาของชาติและของประชาชน ไม่ใช่เพื่อการทำนุบำรุงอาณาประชาราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข

แต่เป็นรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ฟอกโกง ฟอกทุจริตเพื่อประโยชน์ของคนบางคนบางคณะเท่านั้น

ประชาชนจึงต้องพึ่งพาตนเองแล้วว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะใช้จ่ายให้น้อยลงให้มากที่สุด จะประหยัดอะไรได้ก็ต้องประหยัด เพราะไม่มีใครช่วยประชาชนนอกจากประชาชนต้องช่วยตนเอง

นับแต่นี้ไปราคาสินค้าจะแพงขึ้น ค่าใช้จ่ายของประชาชนจะสูงขึ้น การปล้นชิงวิ่งราวจะเต็มไปทั้งบ้านทั้งเมือง และความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหง

จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนต้องเตรียมความคิดจิตใจไว้ให้พร้อมเพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตดังกล่าวให้พอเพียง

ถัดมาจากเรื่องน้ำมันก็เป็นเรื่องข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยเพราะคนไทยส่วนใหญ่ต้องกินข้าว

ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลกมาแต่ไหนแต่ไร เคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ข้าวกล้าในนาได้ผลดี

และเป็นโชคดีของประเทศไทยกับประเทศใกล้เคียงไม่กี่ประเทศ เพราะสามารถผลิตข้าวได้เหลือกินเหลือใช้ ในขณะที่ประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่คือจีน อินเดีย ผลิตข้าวไม่ได้

จีนนั้นประสบภัยธรรมชาติ ผลผลิตข้าวเสียหายเกือบหมดทั้งประเทศ ต้องกินข้าวสำรองซึ่งกำลังขาดแคลนลงทุกวัน อินเดียไม่ถึงกับเสียหายทั้งหมด แต่ก็ไม่พอกินและขาดแคลน ในขณะที่พม่าก็เริ่มขาดแคลน

ส่วนเวียดนามที่เป็นประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ระดับเดียวกับประเทศไทยและเป็นคู่แข่งในการส่งออกกับประเทศไทยก็ประสบภัยธรรมชาติเช่นเดียวกัน ผลผลิตข้าวเสียหายเกือบหมด จนต้องยุติการส่งออกไปนานแล้ว

คงมีเหลือแต่ไทย เขมร ลาว เท่านั้นที่ผลิตข้าวได้เหลือกินเหลือใช้ ในส่วนของเขมรและลาวแม้จะผลิตเหลือกินก็ไม่มากนักเพราะเป็นประเทศเล็ก ไม่มีนัยสำคัญต่อการบรรเทาความขาดแคลนข้าวของโลก

ประเทศไทยจึงเป็นพระเอกในเรื่องข้าวของปีนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกประเทศที่ผู้คนต้องกินข้าวก็ต้องมาอ้อนวอนงอนง้อขอซื้อจากประเทศไทย ในขณะที่ราคาข้าวในต่างประเทศก็พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

คือราคาข้าวสารตกตันละ 30,000 บาทไปแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก นี่ไม่ใช่เพราะฝีมือของใคร แต่เป็นเพราะว่าข้าวสารขาดแคลน ถึงจะแพงอย่างไรคนที่กินข้าวก็ต้องซื้อข้าวไปกิน

เขาเล็งเห็นความขาดแคลนว่าเป็นอันตรายใหญ่หลวงจึงเร่งระดมซื้อหาข้าวกันเป็นการใหญ่ และบอกเตือนให้ประชาชนของเขาเตรียมตัวรับมือกับภาวะอดอยากขาดแคลนที่จะเกิดขึ้น

ในเมืองไทยของเราก็มีคนรู้เรื่องนี้ แต่ปกปิดกันไว้อย่างเงียบงัน จนกระทั่งคอลัมน์นี้นำมาเปิดเผยให้ได้รู้กันเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา และเรียกร้องให้กันสำรองข้าวที่จะต้องใช้บริโภคในประเทศไว้ให้พอเพียงเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เหลือนั้นจึงส่งออกได้

ราคาข้าวขึ้นไปอย่างนี้อย่าคิดว่าชาวนาจะร่ำรวย เพราะข้าวหลุดมือไปจากชาวนาตั้งแต่ปลายปี 2550 แล้ว ในวันนี้ชาวนาไม่มีข้าวในมือ ถึงจะมีราคาสูงปานใดชาวนาก็ไม่ได้ประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้นนั้น

กลับจะเดือดร้อนมากขึ้น เพราะเมื่อขายข้าวออกไปหมดแล้วก็ต้องซื้อข้าวมากิน และแทนที่จะต้องซื้อหาด้วยราคาปกติเหมือนปีก่อน ๆ ก็ต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้น ดังนั้นความเดือดร้อนเรื่องนี้จึงเกิดกับชาวนามากที่สุด คนปลูกข้าวของประเทศไทยคือคนที่กำลังเดือดร้อนที่สุดจากราคาข้าวที่สูงในวันนี้

ข้าวอยู่ในมือผู้ส่งออกและได้เร่งรัดส่งออกกันเป็นการยกใหญ่ โดยเฉพาะพวกที่มีเครือข่ายอำนาจวาสนาในทางการเมือง ถึงแม้ไม่มีข้าวก็แอบยืมหรือขโมยข้าวจากคลังของหลวงส่งออกไปต่างประเทศก่อน

ยิ่งทำให้ปริมาณข้าวในประเทศไทยลดน้อยลง เฉพาะข้าวที่ถูกลักขโมยออกไปจากคลังของหลวงที่ตรวจสอบได้ก็มีจำนวนกว่า 200,000 ตัน ทั้งที่ความจริงควรจะมากกว่านี้

เพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้ข้าวในประเทศไทยเหลืออยู่เท่าใดกันแน่ จะเพียงพอต่อการบริโภคของคนไทยไปจนถึงปลายฤดูการผลิตของปีนี้หรือไม่ก็ไม่รู้ และถ้าขาดแคลนลงจะซื้อหาข้าวจากไหนมาบริโภคกัน

ในวันนี้คนที่เขาพอรู้เรื่องก็ซื้อข้าวสารมากักเก็บไว้เพราะกลัวว่าจะไม่มีข้าวกิน ก็ยิ่งทำให้ปริมาณข้าวหดหายลงไปอีก แล้วราคาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก

ประมาณการว่าในไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้านี้ข้าวจะขาดแคลน ราคาจะพุ่งสูงขึ้นไปที่ถังละ 600 บาท

ประชาชนจะพึ่งพารัฐบาลนี้ไม่ได้เพราะดูทีท่าของผู้บริหารในกระทรวงพาณิชย์แล้วยังสับสนวุ่นวายไม่รู้จะเอาอย่างไรกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือมีการแอบส่งข้าวออกไปต่างประเทศจนไม่แน่ว่าข้าวที่เหลือในประเทศจะพอกินหรือไม่เพียงใด

เคยเตือนไว้แล้วว่าถ้าคนไม่มีข้าวกินก็ยุ่งแน่ เพราะคนหิวข้าวนั้นย่อมมีความไม่พอใจแล้วอาจออกมากระทืบคนที่ไม่แก้ไขปัญหาให้กับราษฎรก็ได้

จากเรื่องข้าวก็มาถึงเรื่องปุ๋ย ประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตร แต่เป็นประเทศเกษตรที่ไม่มีโรงงานผลิตปุ๋ยเป็นของตนเอง ต้องซื้อหานำเข้าจากต่างประเทศทั้งนั้น

และยังมีการโกงกินแอบแฝงอยู่กับการค้าปุ๋ยกว่าเท่าตัวของราคาปุ๋ยที่แท้จริง ซึ่งหมายความว่าราคาปุ๋ยที่แท้จริง 100 บาท เกษตรกรไทยจะต้องแบกภาระเพิ่มเติมขึ้นอีกอย่างน้อย 150 บาท สำหรับเป็นค่าอาหารสุนัขของพวกนักการเมือง

มันน่าเจ็บใจตรงที่คนยากจนถึงเพียงนี้ คนบางพวกยังบ้าบอคอแตกไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องร่วมชาติของตนเอง กลับไปอุ้มชูคนรวยที่โกงบ้านกินเมืองให้ก่อกรรมทำเข็ญให้กับชาติบ้านเมืองต่อไปเสียอีก

ในปีการผลิตใหม่นี้ประเทศไทยกำลังขาดแคลนปุ๋ยอย่างรุนแรง ดังที่เคยพยากรณ์ไว้ในประกาศสงกรานต์ 2551 คือนอกจากปุ๋ยขาดแคลนแล้ว ราคาปุ๋ยยังสูงอีกด้วย และคงจะสูงกว่าปีก่อนเกือบเท่าตัว

หมายความว่าเกษตรกรจะต้องมีรายจ่ายต้นทุนเฉพาะเรื่องปุ๋ยเรื่องเดียวก็สูงกว่าปีก่อนถึงเท่าตัวแล้ว

ปีนี้ประเทศไทยยังขาดแคลนปุ๋ยประมาณ 4 ล้านตัน และยังไม่รู้ว่าจะซื้อหามาจากที่ไหน แม้หากซื้อมาแล้วใครจะแน่ใจได้ว่าเกษตรกรจะมีปัญญาซื้อปุ๋ยไปใช้ เพราะเมื่อปุ๋ยมีราคาแพง บวกกับค่าน้ำมันแพง บวกกับค่าข้าวสารแพง ก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อปุ๋ยไปใช้

เมื่อเงินมีจำกัดก็ต้องใช้เงินเพื่อซื้อข้าวมากินก่อน ดังนั้นปัญหาการผลิตทางการเกษตรในปีนี้ที่จะส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรในปีหน้าจึงหนักหนาสาหัสยิ่งนัก เห็นทีว่าคำพยากรณ์สงกรานต์ 2551 ที่ว่าพืชผลจะขาดแคลนคงจะเป็นจริงแท้แน่นอนเสียเป็นมั่นคงแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องน้ำ ปีนี้เป็นปีที่ภัยร้อนกำลังคุกคามโลกหนักหนาสาหัสกว่าทุกปีที่ผ่านมา วันเวลาฤดูกาลความหนาวร้อนแห่งอากาศผันแปรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย

ประเทศไทยกำลังขาดน้ำและขาดรุนแรงกว่าทุกปี เพราะเพียงแค่ต้นเดือนเมษายน หากในปีก่อน ๆ ก็ยังพอมีน้ำให้วัวได้กิน ให้คนได้ใช้ แล้วยังพอมีฝนต้นฤดูแทรกตกลงมาบ้าง แต่ปีนี้แทบไม่มีเลย

ห้วยหนองคลองบึงลำธารละหานต่างๆ แห้งขอดจนท้องน้ำแตกระแหง ปูปลาสัตว์น้ำจืดพากันตายเรียบ

ฝนหลงฤดูมาบ้างก็ห่างกว่าปีก่อน ๆ แม้หลงมาบ้างก็ตกเพียงไม่กี่หยดก็หมดห่าแล้ว ดังนี้น้ำจึงขาดแคลน เป็นผลให้การปลูกข้าวนาปรังโดยทั่วไปทำไม่ได้ ที่ทำไปก็ไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อยจนไม่คุ้มกับต้นทุน

สี่เรื่องนี้เป็นเรื่องปากท้องของคนไทยทุกคน เป็นเรื่องผีซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น และหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายเท่านัก

แต่การที่ผีซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็นมากเรื่องมากราวประดังประดามาพร้อมๆ กันนี้เห็นทีจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว แต่คงเป็นอาเพศเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และอาเพศเหตุใหญ่นั้นก็คงไม่ไกลไปจากสาเหตุที่คนจัญไรครองเมืองเป็นแน่แท้.
กำลังโหลดความคิดเห็น