สสปน. ยกทีมบุกโรดโชว์ เมืองโรตี และตะวันออกกลาง สบโอกาสช่วงเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้น ตั้งเป้าดึงงานไมซ์เข้าไทยได้ไม่น้อยกว่า 375 ล้านบาท เผยเสร็จงานนี้ เตรียมเดินสายต่ออีก 3 ประเทศ แอฟริกาใต้ เดนมาร์ก และรัสเซีย หวังดันภาพรวมถึงสิ้นปีตลาดไมซ์โต 19%
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ในต้นเดือนเมษายนนี้ สสปน.จะเดินทางไปประเทศอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพื่อประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของ ฝ่ายการประชุม และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดแสดงสินค้านานาชาติ (MI, C, และ E) โดยกิจกรรมโรดโชว์ที่บังกาลอร์ นิวเดลี และดูไบ คาดว่า จะมีกลุ่มผู้ซื้อ เข้าร่วมงานเมืองละไม่ต่ำกว่า 200-300 ราย เพื่อมารับฟังข้อมูลและร่วมแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะระหว่างกัน โดยมีเป้าหมายว่าจะสามารถดึงงานไมซ์เข้ามาจัดในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 375ล้านบาท”
ทั้งนี้เพราะอินเดียและตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียมีภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี 2549-2550 คิด เฉลี่ยร้อยละ 9.6 และในปี 2551 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตอีกเกือบร้อยละ 9 และยังคาดการณ์ว่าปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของอินเดียจะมีมูลค่าประมาณ 5.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2549-2550 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8.7
อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 มีกลุ่มไมซ์จากตลาดอินเดียและตะวันออกกลางคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่เดินทางเข้าประเทศไทย แต่ด้วยความสะดวกเรื่องการเดินทาง และบริการด้านโรงแรมที่พักที่ดีและมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการจัดประชุมในประเทศของเขาเอง ดังนั้นจึงมั่นใจว่า ทั้งสองตลาดนี้ มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวอีกมาก
"ครั้งนี้เป็นมิติใหม่และเป็นครั้งแรกที่สสปน. ระดมทีมงานชุดใหญ่ โดยการนำทีมผู้บริหาร สสปน. ในแต่ละรายสาขา ร่วมเดินทางไปชี้แจงข้อมูลในกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาส และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านธุรกิจไมซ์ กับกลุ่มผู้ซื้อนอกจากจะเป็นการกระตุ้นตลาดไมซ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังเป็นการสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรและภาพรวมของธุรกิจไมซ์ในประเทศไทย โดยการทำงานจะร่วมมือกับหน่วยงานไทยทีม ด้วย เพื่อตอกย้ำ ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายหลักของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย คือ WIN & PROMOTE โดยจะให้ข้อเสนอที่จูงใจ เพื่อเขาจะได้เลือกประเทศไทยในการจัดงาน”
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากสองประเทศดังกล่าว ในปีนี้ จะเดินทางไปโรดโชว์ในตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงอีกหลายแห่ง เช่น แอฟริกาใต้ เดนมาร์ก และรัสเซีย เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยมีอัตราการเจริญเติบโตและทำให้นานาชาติยอมรับประเทศไทยในฐานะประเทศเป้าหมายสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย โดย สสปน. ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 จะมีอัตราการเติบโตของธุรกิจไมซ์อยู่ที่ 19% หรือมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางมาประเทศไทยประมาณ 940,000 คน สร้างรายได้ เข้าประเทศกว่า 65,000 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ในต้นเดือนเมษายนนี้ สสปน.จะเดินทางไปประเทศอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพื่อประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของ ฝ่ายการประชุม และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดแสดงสินค้านานาชาติ (MI, C, และ E) โดยกิจกรรมโรดโชว์ที่บังกาลอร์ นิวเดลี และดูไบ คาดว่า จะมีกลุ่มผู้ซื้อ เข้าร่วมงานเมืองละไม่ต่ำกว่า 200-300 ราย เพื่อมารับฟังข้อมูลและร่วมแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะระหว่างกัน โดยมีเป้าหมายว่าจะสามารถดึงงานไมซ์เข้ามาจัดในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 375ล้านบาท”
ทั้งนี้เพราะอินเดียและตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียมีภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี 2549-2550 คิด เฉลี่ยร้อยละ 9.6 และในปี 2551 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตอีกเกือบร้อยละ 9 และยังคาดการณ์ว่าปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของอินเดียจะมีมูลค่าประมาณ 5.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2549-2550 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8.7
อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 มีกลุ่มไมซ์จากตลาดอินเดียและตะวันออกกลางคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่เดินทางเข้าประเทศไทย แต่ด้วยความสะดวกเรื่องการเดินทาง และบริการด้านโรงแรมที่พักที่ดีและมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการจัดประชุมในประเทศของเขาเอง ดังนั้นจึงมั่นใจว่า ทั้งสองตลาดนี้ มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวอีกมาก
"ครั้งนี้เป็นมิติใหม่และเป็นครั้งแรกที่สสปน. ระดมทีมงานชุดใหญ่ โดยการนำทีมผู้บริหาร สสปน. ในแต่ละรายสาขา ร่วมเดินทางไปชี้แจงข้อมูลในกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาส และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านธุรกิจไมซ์ กับกลุ่มผู้ซื้อนอกจากจะเป็นการกระตุ้นตลาดไมซ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังเป็นการสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรและภาพรวมของธุรกิจไมซ์ในประเทศไทย โดยการทำงานจะร่วมมือกับหน่วยงานไทยทีม ด้วย เพื่อตอกย้ำ ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายหลักของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย คือ WIN & PROMOTE โดยจะให้ข้อเสนอที่จูงใจ เพื่อเขาจะได้เลือกประเทศไทยในการจัดงาน”
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากสองประเทศดังกล่าว ในปีนี้ จะเดินทางไปโรดโชว์ในตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงอีกหลายแห่ง เช่น แอฟริกาใต้ เดนมาร์ก และรัสเซีย เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยมีอัตราการเจริญเติบโตและทำให้นานาชาติยอมรับประเทศไทยในฐานะประเทศเป้าหมายสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย โดย สสปน. ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 จะมีอัตราการเติบโตของธุรกิจไมซ์อยู่ที่ 19% หรือมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางมาประเทศไทยประมาณ 940,000 คน สร้างรายได้ เข้าประเทศกว่า 65,000 ล้านบาท