xs
xsm
sm
md
lg

สสปน.อิงรัฐเพิ่มตลาดไมซ์ มุ่งกลุ่มประชุม-อินเซ็นทีฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสปน.ปิ๊งไอเดียเพิ่มยอดตลาดไมซ์ เล็งเกาะภาครัฐดึงงานประชุมระดับใหญ่เข้าไทย พร้อมอัด 80 ล้านบาท มุ่งทำตลาดประชุมและอินเซนทีฟ ระบุการเมืองไทยชัดเจนแล้ว มั่นใจสิ้นปีโกยรายได้ 6.5 หมื่นล้านบาท

นายณัฐวุฒิ อมรวิวัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. เปิดเผยว่า แผนงานปีนี้ที่จะทำเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นให้ตลาดไมซ์เติบโตมากขึ้น ล่าสุดจึงได้เตรียมหารือกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม เป็นต้น ในการช่วยยกมือสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมและสัมมนา(ไมซ์) ในระดับนานาประเทศ เพราะเชื่อว่าทุกหน่วยงานภาครัฐจะต้องมีการออกไปประชุมกับประเทศต่างๆ ในเวทีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่กระทรวงของตัวเองรับผิดชอบอยู่ ดังนั้น หากมีการโหวตการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งต่อไป ก็ขอให้ยกมือสนับสนุนให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ ซึ่ง สสปน. จะเริ่มขอข้อมูลงานทั้งหมดของแต่ละกระทรวงมาศึกษาพิจารณา พร้อมออกไปเสนองาน ให้ได้มาจัดในประเทศไทย

นอกจากนั้นในส่วนของตลาด ประชุม และ การเที่ยวเพื่อให้รางวัลหรืออินเซนทีฟ ซึ่งจะอยู่ในหมดตัว M และตัวI นั้น ในปีงบประมาณ 2551 ได้จัดสรรงบการตลาดสำหรับ 2 กลุ่มนี้ไว้ 80 ล้านบาท โดยกว่า 40 ล้านบาท จะใช้เพื่อร่วมออกงานเทรดโชว์ และ โรดโชว์ในต่างประเทศ อย่างน้อย 18 งาน โดยบางงานจะออกไปร่วม ททท. หรือบางงานจะดึง ททท.มาร่วมด้วย เป็นต้น ซึ่งตรงนี้จะแสดงถึงการทำงานบูรณาการแบบไทยทีมที่เป้นรูปธรรม เพราะ แต่ละงาน จะเชิญภาคเอกชนไปร่วมออกงานด้วย โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม และ บริษัทนำเที่ยว ที่สนใจลุกค้าในกลุ่มประชุมสัมมนา และ ที่สำคัญ ปีนี้ สสปน. จะมีพื้นที่พิเศษให้แก่ภาคเอกชนระดับเอสเอ็มอี ที่ยังไม่เคยไม่ร่วมงานประเภทตลาดไมซ์ ให้เดินทางไปด้วยกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการช่วยเปิดตลาดใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ เพิ่มทางเลือกให้ผู้ซื้อ  ขณะที่งาน ITCMA ที่จะมีขึ้นที่ประเทศไทย ก็ยังจัดพื้นที่ให้เอสเอ็มอีได้ออกบูธฟรีเช่นกัน
  
 “เราจะจัดแคมเปญสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวกลุ่มประชุม และ อินเซนทีฟ เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระยะใกล้ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 6 ชั่วโมงบิน ซึ่งขณะนี้ไทยได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นที่สองรองจากประเทศมาเลเซีย โดยตั้งเป้าหมายว่า ปีหน้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก“

อย่างไรก็ตามธุรกิจไมซ์ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่า 20% สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า  6.5 หมื่นล้านบาท โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว 9.4  แสนคน  ปัจจัยที่จะส่งให้บรรลุเป้าหมาย คือ สถานการณ์การเมืองของไทยเริ่มชัดเจน นักท่องเที่ยวจะเกิดความมั่นใจ ประกอบกับประเทศไทย มีชื่อเสียงในตลาดโลก ที่ทุกคนยังต้องการที่จะเดินทางเข้ามาเมื่อมีโอกาส และ เทรนด์การท่องเที่ยวโลกก็เปลี่ยนหันมานิยมเดินทางเข้ามาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น  
กำลังโหลดความคิดเห็น