อสมท.จับมือสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดงานสัมมนาหัวข้อ “สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ (New Media) สำหรับธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการ” เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความสามรถในการแข่งขันของธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการของไทยในเวทีโลก ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ตลาดไมซ์หรือ MICE นั้นย่อมาจาก Meeting, Incentive, Convention, Exhibition หมายถึงตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อร่วมการประชุมนานาชาติ ที่จะนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจนสร้างเงินหมุนเวียนในประเทศไทยได้มหาศาล การหนุนตลาดไมซ์จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของ สสปน. ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดึงงานประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า หรืออุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลก เข้ามาจัดในประเทศไทยโดยเฉพาะ
การประชุมครั้งนี้ สสปน.ระบุว่าได้เพิ่มงบการตลาดผ่านนิวมีเดียหรือสื่อใหม่บนโลกดิจิตอลอีกราว 40% โดยเน้นการตลาดบนเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คกิ้งอย่าง เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ บล็อก และยูทูบ จากเดิมที่ สสปน. ไม่มีงบประมาณการตลาดด้านนี้เลย
อุตสาหกรรมไมซ์มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10-25 ต่อปี แต่ละปีมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์มายังประเทศไทยประมาณ 500,000 คน โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหัว 70,000-100,000 บาท สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000–50,000 ล้านบาท จึงเป็นธุรกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของอุตสาหกรรมไมซ์ในระดับโลก
เหตุที่สสปน.ดึง อสมท. มาเป็นพันธมิตรหลัก คือบมจ. อสมท นั้นเป็นบริษัทสื่อสารมวลชนรายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ทีวี ช่อง 9 อสมท.ยังมีกิจการวิทยุกระจายเสียง 63 สถานีทั่วประเทศ สำนักข่าวไทย และบริการสื่อผ่านเว็ปไซด์ www.mcot.net การดูคลิปรายการย้อนหลัง HiPTV และบริการอื่นๆ บนออนไลน์อีกมากมาย ทั้งข่าวด่วนผ่านมือถือ MCOT Xpress ในระบบ SMS ช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MCOT 1 ช่อง MCOT 2 รวมทั้งช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อชาวอาเซียน ASEAN TV
สสปน.เชื่อว่า สื่อสมัยใหม่จะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ขยายตัวในประเทศไทยได้มากกว่าเดิมราว 25% ในปี 2553