ประเทศจีนนั้นเมื่อเป็นหนึ่งใน “มหาอำนาจ” ก็ต้องมีกองทัพใหญ่โตและก็ต้องมีอาวุธยุทธภัณฑ์มาใช้มาก
แต่ประเทศจีนพึ่งตนเอง และพัฒนาอาวุธด้วยตัวเอง โดยอาวุธหลายชนิดไม่แพ้ใคร
ทำให้งบประมาณการทหารเติบโตมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้จากตารางที่ผมนำมาจาก นสพ.วอลสตรีท เจอร์นัล เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ซึ่งเปรียบเทียบเป็นเงินหยวนว่าเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2502-2508
เช่น ปีนี้เพิ่ม 18 เปอร์เซ็นต์ครับ
การเพิ่มแค่นี้ผมว่าไม่มากนะครับ ถ้าเราพิจารณาถึงการเติบโตด้านเศรษฐกิจของจีนที่โตเร็วอย่างสม่ำเสมอ
จริงอยู่ที่ว่าจีนมีการพัฒนาอาวุธของตัวเองไม่แพ้ใคร
แต่ก็ใช่ว่าอาวุธทุกอย่างจะทันสมัยหมด
ดังนั้นเท่าที่ผมดูจากข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็ทราบว่าการเพิ่มงบประมาณทหารนั้น จำนวนไม่น้อยเลยมุ่งไปให้กับการพัฒนาวงการทหารและอาวุธ
แน่นอนละครับ พวกมหาอำนาจชาติอื่น ย่อมหวั่นวิตก และก็ไม่อยากเห็นกองทัพจีนทันสมัยเกินหน้าเกินตาพวกเขา
แต่โฆษกของสภาประชาชนจีน ได้ออกมาชี้ว่าที่งบประมาณทหารมีความจำเป็นต้องเพิ่มนั้น นับกันจริงๆ แล้ว ต้องเอาไว้ไปเทียบกับมหาอำนาจอื่นๆ ด้วย
เขาชี้ว่าการเพิ่มงบทหารของจีนเทียบกับอเมริกาแล้วของจีนนั้นจิ๊บจ๊อยมาก คือเป็นแค่เศษส่วนเท่านั้นแหละ
เช่นเดียวเมื่อเทียบกับอังกฤษก็น้อยมากเช่นกัน
จีนย้ำว่า กองทัพจีนไม่ใช้กองทัพไปข่มเหงใคร
เงินที่เพิ่มมานี้ จะนำมาซื้ออุปกรณ์ประเภทเทคโนโลยีสูงและทันสมัย รวมทั้งจะเพิ่มเงินเดือนให้กับทหารด้วย เพราะเป็นกำลังใจให้รักกองทัพ นอกจากนี้จีนบอกว่าราคาน้ำมันเวลานี้สูง เงินที่เพิ่มขึ้นก็เพราะต้องมาชดเชยราคาน้ำมันที่แพงนี่แหละ
โฆษกกล่าวปิดท้ายว่า มันเป็นเรื่องของการทดแทนสิ่งที่กองทัพยังขาดอยู่โดยธรรมชาติเท่านั้น เพื่อเสริมหรือเข้ามาสมทบส่วนที่เรายังอ่อนอยู่ในระดับพื้นฐาน
โดยนัยก็คือ ส่วนที่เพิ่มไม่ได้เพิ่มในเชิงสัมพัทธ์กับการเพิ่มเพื่อขยายตัวด้านการทหารแต่อย่างไรไม่
และก็หาได้เพิ่มเพื่อเตรียมการจะรุกรานใครด้วย
กองทัพจีนมีกำลังพลมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ คือมีทหารประจำการถึง 2 ล้าน 3 แสนคน โดยมีรากฐานมาจากพวกชาวนาที่เคยนำพรรคคอมมิวนิสต์พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน จนยึดอำนาจรัฐสำเร็จมาแล้ว เมื่อ ค.ศ.1949
เวลานี้กองทัพและกำลังพลของจีนทันสมัยขึ้นมากแล้วครับ
เรียกว่าพร้อมรบในสงครามสมัยใหม่อย่างสบายมือ ไม่ใช่แบบกองโจรที่ใช้พลั่ว จอบ เสียม แม้กระทั่งมือเปล่าในยุคแรกๆ
จีนนั้นมีขีปนาวุธที่พัฒนาขีดความสามารถ มีศักยภาพสูง ยิงข้ามทวีปยังได้และมีเรือรบขนาดใหญ่เป็นกองเรือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในภูมิภาคและมีเรือดำน้ำไปได้ทั่วโลก รวมทั้งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินเจ็ตบินเร็วกว่าเสียงที่ทำเองซึ่งจีนภูมิใจ
ผมเคยเห็นครับ ตอนไปร่วมฉลองวันชาติ บินเร็ว และคล่องแคล่วมาก ไม่แพ้เอฟ-16
ยิ่งจีนผูกการพัฒนาเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดเท่าไร ก็ยิ่งต้องพร้อมในการป้องกันประเทศมากขึ้นเท่านั้น
เหตุผลก็เพราะผลประโยชน์ของชาติมีอยู่ทั่วโลกและจีนต้องปกป้องการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิง ดังนั้นกองทัพต้องระวังไม่ให้โดนปิดล้อมเส้นทางลำเลียงน้ำมันที่สำคัญ
โฆษกสภาประชาชนยังอธิบายต่อไปด้วย คือเขาชี้ว่า งบประมาณสำหรับปี 2008 นั้นเท่ากับ 417.77 พันล้านหยวนหรือเท่ากับ 58.8 เพิ่มล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น
เท่ากับเพิ่มจากปี 2007 18 เปอร์เซ็นต์
และสภารับรองงบประมาณจำนวนดังกล่าวนี้เรียบร้อยแล้ว โดยเห็นถึงความจำเป็นและรู้ว่ากองทัพต้องใช้เงินนี้เพื่อการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมขวัญกำลังใจของกำลังพล
แต่พวกนักวิเคราะห์จากต่างประเทศ เห็นว่าการเพิ่มงบคราวนี้ต้องไปแยกดูรายการต่างๆ ที่ใช้จริงๆ ด้วย เพราะตัวเลขที่เปิดเผยกับตัวเลขที่ใช้จริงอาจแตกต่างกัน และตัวเลขที่เปิดเผยมักจะน้อยกว่าที่ใช้จริง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับแรงกระตุ้นเรื่องการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยของจีน และเรียกร้องให้ผู้นำจีนทำความกระจ่างในเรื่องนี้ โดยให้บอกในรายละเอียด รวมทั้งให้ระบุวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
นักวิเคราะห์จากกระทรวงกลาโหมในอเมริกัน เชื่อว่าจีนต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อต้องการไม่ให้ไต้หวันเรียกร้องเอกราช และอาจเตรียมพร้อมไว้ หากในภูมิภาคเอเชียมีความขัดแย้ง
เมื่อต้นสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมนี้ ทางกระทรวงกลาโหมอเมริกัน ได้เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานะของกองทัพจีน โดยระบุว่า ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจีนมีวัตถุในการพัฒนากองทัพทำไม
ครับ... แม้ว่าจีนจะยืนยันและเปิดเผยทุกอย่าง แต่ดูเหมือนมหาอำนาจชาติอื่น จะต้องการรู้ไส้รู้พุง และอยากเข้าถึงข้อมูลตลอดจนรายละเอียดมากกว่านี้
ที่แน่ๆ ก็คืออยากรู้ว่า “อุปกรณ์และเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่จีนจัดหาจัดซื้อนั้นคืออะไรกันแน่”
แต่ประเทศจีนพึ่งตนเอง และพัฒนาอาวุธด้วยตัวเอง โดยอาวุธหลายชนิดไม่แพ้ใคร
ทำให้งบประมาณการทหารเติบโตมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้จากตารางที่ผมนำมาจาก นสพ.วอลสตรีท เจอร์นัล เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ซึ่งเปรียบเทียบเป็นเงินหยวนว่าเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2502-2508
เช่น ปีนี้เพิ่ม 18 เปอร์เซ็นต์ครับ
การเพิ่มแค่นี้ผมว่าไม่มากนะครับ ถ้าเราพิจารณาถึงการเติบโตด้านเศรษฐกิจของจีนที่โตเร็วอย่างสม่ำเสมอ
จริงอยู่ที่ว่าจีนมีการพัฒนาอาวุธของตัวเองไม่แพ้ใคร
แต่ก็ใช่ว่าอาวุธทุกอย่างจะทันสมัยหมด
ดังนั้นเท่าที่ผมดูจากข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็ทราบว่าการเพิ่มงบประมาณทหารนั้น จำนวนไม่น้อยเลยมุ่งไปให้กับการพัฒนาวงการทหารและอาวุธ
แน่นอนละครับ พวกมหาอำนาจชาติอื่น ย่อมหวั่นวิตก และก็ไม่อยากเห็นกองทัพจีนทันสมัยเกินหน้าเกินตาพวกเขา
แต่โฆษกของสภาประชาชนจีน ได้ออกมาชี้ว่าที่งบประมาณทหารมีความจำเป็นต้องเพิ่มนั้น นับกันจริงๆ แล้ว ต้องเอาไว้ไปเทียบกับมหาอำนาจอื่นๆ ด้วย
เขาชี้ว่าการเพิ่มงบทหารของจีนเทียบกับอเมริกาแล้วของจีนนั้นจิ๊บจ๊อยมาก คือเป็นแค่เศษส่วนเท่านั้นแหละ
เช่นเดียวเมื่อเทียบกับอังกฤษก็น้อยมากเช่นกัน
จีนย้ำว่า กองทัพจีนไม่ใช้กองทัพไปข่มเหงใคร
เงินที่เพิ่มมานี้ จะนำมาซื้ออุปกรณ์ประเภทเทคโนโลยีสูงและทันสมัย รวมทั้งจะเพิ่มเงินเดือนให้กับทหารด้วย เพราะเป็นกำลังใจให้รักกองทัพ นอกจากนี้จีนบอกว่าราคาน้ำมันเวลานี้สูง เงินที่เพิ่มขึ้นก็เพราะต้องมาชดเชยราคาน้ำมันที่แพงนี่แหละ
โฆษกกล่าวปิดท้ายว่า มันเป็นเรื่องของการทดแทนสิ่งที่กองทัพยังขาดอยู่โดยธรรมชาติเท่านั้น เพื่อเสริมหรือเข้ามาสมทบส่วนที่เรายังอ่อนอยู่ในระดับพื้นฐาน
โดยนัยก็คือ ส่วนที่เพิ่มไม่ได้เพิ่มในเชิงสัมพัทธ์กับการเพิ่มเพื่อขยายตัวด้านการทหารแต่อย่างไรไม่
และก็หาได้เพิ่มเพื่อเตรียมการจะรุกรานใครด้วย
กองทัพจีนมีกำลังพลมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ คือมีทหารประจำการถึง 2 ล้าน 3 แสนคน โดยมีรากฐานมาจากพวกชาวนาที่เคยนำพรรคคอมมิวนิสต์พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน จนยึดอำนาจรัฐสำเร็จมาแล้ว เมื่อ ค.ศ.1949
เวลานี้กองทัพและกำลังพลของจีนทันสมัยขึ้นมากแล้วครับ
เรียกว่าพร้อมรบในสงครามสมัยใหม่อย่างสบายมือ ไม่ใช่แบบกองโจรที่ใช้พลั่ว จอบ เสียม แม้กระทั่งมือเปล่าในยุคแรกๆ
จีนนั้นมีขีปนาวุธที่พัฒนาขีดความสามารถ มีศักยภาพสูง ยิงข้ามทวีปยังได้และมีเรือรบขนาดใหญ่เป็นกองเรือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในภูมิภาคและมีเรือดำน้ำไปได้ทั่วโลก รวมทั้งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินเจ็ตบินเร็วกว่าเสียงที่ทำเองซึ่งจีนภูมิใจ
ผมเคยเห็นครับ ตอนไปร่วมฉลองวันชาติ บินเร็ว และคล่องแคล่วมาก ไม่แพ้เอฟ-16
ยิ่งจีนผูกการพัฒนาเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดเท่าไร ก็ยิ่งต้องพร้อมในการป้องกันประเทศมากขึ้นเท่านั้น
เหตุผลก็เพราะผลประโยชน์ของชาติมีอยู่ทั่วโลกและจีนต้องปกป้องการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิง ดังนั้นกองทัพต้องระวังไม่ให้โดนปิดล้อมเส้นทางลำเลียงน้ำมันที่สำคัญ
โฆษกสภาประชาชนยังอธิบายต่อไปด้วย คือเขาชี้ว่า งบประมาณสำหรับปี 2008 นั้นเท่ากับ 417.77 พันล้านหยวนหรือเท่ากับ 58.8 เพิ่มล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น
เท่ากับเพิ่มจากปี 2007 18 เปอร์เซ็นต์
และสภารับรองงบประมาณจำนวนดังกล่าวนี้เรียบร้อยแล้ว โดยเห็นถึงความจำเป็นและรู้ว่ากองทัพต้องใช้เงินนี้เพื่อการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมขวัญกำลังใจของกำลังพล
แต่พวกนักวิเคราะห์จากต่างประเทศ เห็นว่าการเพิ่มงบคราวนี้ต้องไปแยกดูรายการต่างๆ ที่ใช้จริงๆ ด้วย เพราะตัวเลขที่เปิดเผยกับตัวเลขที่ใช้จริงอาจแตกต่างกัน และตัวเลขที่เปิดเผยมักจะน้อยกว่าที่ใช้จริง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับแรงกระตุ้นเรื่องการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยของจีน และเรียกร้องให้ผู้นำจีนทำความกระจ่างในเรื่องนี้ โดยให้บอกในรายละเอียด รวมทั้งให้ระบุวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
นักวิเคราะห์จากกระทรวงกลาโหมในอเมริกัน เชื่อว่าจีนต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อต้องการไม่ให้ไต้หวันเรียกร้องเอกราช และอาจเตรียมพร้อมไว้ หากในภูมิภาคเอเชียมีความขัดแย้ง
เมื่อต้นสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมนี้ ทางกระทรวงกลาโหมอเมริกัน ได้เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานะของกองทัพจีน โดยระบุว่า ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจีนมีวัตถุในการพัฒนากองทัพทำไม
ครับ... แม้ว่าจีนจะยืนยันและเปิดเผยทุกอย่าง แต่ดูเหมือนมหาอำนาจชาติอื่น จะต้องการรู้ไส้รู้พุง และอยากเข้าถึงข้อมูลตลอดจนรายละเอียดมากกว่านี้
ที่แน่ๆ ก็คืออยากรู้ว่า “อุปกรณ์และเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่จีนจัดหาจัดซื้อนั้นคืออะไรกันแน่”