00 ไม่รู้เป็นเพราะ “เจ้าของพรรค” ตัวจริงกลับมาทวงสิทธิ์ หรืออาจมาจากอาการ “ปลาร้าน้องลาวเป็นพิษ” จนทำให้ “นอมินีหมัก” ต้องหยุดพักการประชุมคณะรัฐมนตรี แถมไม่ต้องตอบคำถามสื่อให้แสลงหัวใจ ที่สำคัญยังได้ถือโอกาส “เบี้ยว” ประชุมพรรคในช่วงบ่ายวันเดียวกันไปโดยปริยาย นี่แหละบางครั้งท้องเสีย ต้องหยอดน้ำเกลือมันก็มีผลดีบ้างเหมือนกัน
00 ที่เห็นๆอย่างน้อยสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกลิ่วล้อปลายแถวลุกขึ้นมา “ถอนหงอก” กลางวงที่ประชุมพรรคที่ร่ำๆตั้งท่าลุยกันมาตั้งแต่เมื่อวันสองวันก่อน ทำแต้มต้อนรับ “นายใหญ่” กันพอดี
00 หลายคนสังเกตกรณี “มหากุเทพ” ดีกรีแค่โฆษกฯพรรคออกโรงให้สัมภาษณ์ตำหนิ วิจารณ์พุ่งเป้าไปที่ “ลุงหมัก” เป็นหลักหรือถ้าพูดให้ตรงไปตรงมาก็คือ “ด่าเต็มๆ” นั่นแหละ รับรองว่างานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเด็กๆระดับปลายแถวจะลุกขึ้นมาชี้หน้าด่า หัวหน้าพรรค ที่เป็นถึงนายกฯ แม้ว่าในความเป็นจะเป็นแค่ “หุ่นเชิด” ก็เถอะ แต่ถ้าไม่ได้รับไฟเขียวหรือคำสั่งโดยตรงจาก “ขาใหญ่” ซึ่งต้องขอย้ำกันกันหลายทีว่า “ใหญ่จริงๆ” เท่านั้น
00 อย่างไรก็ดีก่อนมาถึงวันนี้ก็ต้องมองย้อนอดีตของ นอมินีหมักเปรียบเทียบอีกครั้งก่อนว่าที่ผ่านมาหลังจากขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศคนที่ 25 สมหวังในตอนแก่แล้ว ในช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมาได้สร้างแต่ “ความเครียด” เพิ่มเติมรายวัน แถมความเครียดดังกล่าวยังทำท่าลุกลามเข้าไปในพรรคมากขึ้นเรื่อยๆ ทำนอง “มิตรไม่มี มีแต่เพาะศัตรูใหม่รายวัน”
00 ทำยักท่าบังอาจทำเป็นบ่นวิจารณ์หน้าตารัฐมนตรี “ขี้เหร่” เปิดช่องให้สื่อ ฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลถล่มตามน้ำกันสนุกปาก เท่านั้นยังไม่พอไป “อี๋อ๋อ” กับบิ๊กกองทัพเออออห่อหมกกันเป็นปี่ขลุ่ยเสียอีก ในช่วงโยกย้ายกลางปีบรรดาเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 แม้จะได้เลื่อนยศ แต่ตำแหน่งโดยทั่วไปถือว่ายังไม่แฮปปี้ ไม่ยอมออกแรงกดดันให้มากกว่านี้
00 และที่สำคัญก็คือบังอาจไปขวางทางไม่ยอมหนุนแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้บรรดาขาใหญ่กลับคืนเวที คืนทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไปเสียอีก สรุปแล้วไม่ได้ดังใจสักอย่าง อารมณ์ถึงได้ปรี๊ดแตก
00 ถ้าย้อนกลับไปถอดเทปฟังคำพูดของ “มหากุเทพ” ในช่วงเวลาเดียวกันอีกครั้งก็พอจับใจความได้ว่า นอกจากพุ่งเป้าถล่มโดยตรงไปยังหัวหน้าพรรคหุ่นเชิดแล้ว ยังมีลูกแถมยันไปโดน ด็อกเตอร์ด้านกฎหมายที่ไต่เต้ามาจากอดีตนักเรียนนายสิบทหารบก อย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง” เข้าไปเต็มหน้าอกอีกคน
00 เรื่องของเรื่องถ้าแกะรอยมาตั้งแต่ต้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเรื่อง “หมั่นใส้” ประเภทคนอื่นเขาลงทุนลงแรงสู้กันมาแทบเป็นแทบตาย ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มตัวเองกลับทำเฉยแทงกั๊กแถมยังมีข่าวแว่วมาว่าในอดีตยังทำ “แอ๊กอาร์ต” กับ “นายใหญ่” เสียอีก แต่พอเดาทางออกว่าจะชนะแน่ก็รีบมาเสนอหน้า “เชลียร์” หนักข้อขึ้นทุกวันทำท่าเกินหน้าเกินตา “หมอผีบุรีรัมย์” ซะแล้ว
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งยังใช้บ้านใหม่ที่ตัวเองไม่ได้ร่วมลงทุน ร่วมสร้างสักบาท แต่กลับสร้างศัตรู “ล่อเป้า” รายวัน อาการ “ชุบมือเปิบ” แบบนี้เป็นใครก็ต้องโมโห เป็นธรรมดา
00 ดังนั้นถ้าให้พิจารณาจากสัญญาณผ่าน “นอมินีตัวจริง” อย่าง มหากุเทพก็ต้องตอกย้ำกันอีกทีว่า ได้เวลานับถอยหลังหมักแล้ว ส่วนคนอย่างเหลิมนั้นเห็นทีจะไต่อันดับลำบาก เพราะคนเขารู้ทัน ไม่เชื่อลองหันกลับไปมองอารมณ์ “หมอเลี้ยบ” ตัวจริงที่เก็บอาการยืนดูอยู่ข้างหลังทุกฝีเก้าว่าคิดอย่างไร กับ “หมัก-เหลิม” แต่ถ้าให้เดางานนี้เสียงนกหวีดเริ่มดังแล้ว !!
00 ที่เห็นๆอย่างน้อยสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกลิ่วล้อปลายแถวลุกขึ้นมา “ถอนหงอก” กลางวงที่ประชุมพรรคที่ร่ำๆตั้งท่าลุยกันมาตั้งแต่เมื่อวันสองวันก่อน ทำแต้มต้อนรับ “นายใหญ่” กันพอดี
00 หลายคนสังเกตกรณี “มหากุเทพ” ดีกรีแค่โฆษกฯพรรคออกโรงให้สัมภาษณ์ตำหนิ วิจารณ์พุ่งเป้าไปที่ “ลุงหมัก” เป็นหลักหรือถ้าพูดให้ตรงไปตรงมาก็คือ “ด่าเต็มๆ” นั่นแหละ รับรองว่างานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเด็กๆระดับปลายแถวจะลุกขึ้นมาชี้หน้าด่า หัวหน้าพรรค ที่เป็นถึงนายกฯ แม้ว่าในความเป็นจะเป็นแค่ “หุ่นเชิด” ก็เถอะ แต่ถ้าไม่ได้รับไฟเขียวหรือคำสั่งโดยตรงจาก “ขาใหญ่” ซึ่งต้องขอย้ำกันกันหลายทีว่า “ใหญ่จริงๆ” เท่านั้น
00 อย่างไรก็ดีก่อนมาถึงวันนี้ก็ต้องมองย้อนอดีตของ นอมินีหมักเปรียบเทียบอีกครั้งก่อนว่าที่ผ่านมาหลังจากขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศคนที่ 25 สมหวังในตอนแก่แล้ว ในช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมาได้สร้างแต่ “ความเครียด” เพิ่มเติมรายวัน แถมความเครียดดังกล่าวยังทำท่าลุกลามเข้าไปในพรรคมากขึ้นเรื่อยๆ ทำนอง “มิตรไม่มี มีแต่เพาะศัตรูใหม่รายวัน”
00 ทำยักท่าบังอาจทำเป็นบ่นวิจารณ์หน้าตารัฐมนตรี “ขี้เหร่” เปิดช่องให้สื่อ ฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลถล่มตามน้ำกันสนุกปาก เท่านั้นยังไม่พอไป “อี๋อ๋อ” กับบิ๊กกองทัพเออออห่อหมกกันเป็นปี่ขลุ่ยเสียอีก ในช่วงโยกย้ายกลางปีบรรดาเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 แม้จะได้เลื่อนยศ แต่ตำแหน่งโดยทั่วไปถือว่ายังไม่แฮปปี้ ไม่ยอมออกแรงกดดันให้มากกว่านี้
00 และที่สำคัญก็คือบังอาจไปขวางทางไม่ยอมหนุนแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้บรรดาขาใหญ่กลับคืนเวที คืนทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไปเสียอีก สรุปแล้วไม่ได้ดังใจสักอย่าง อารมณ์ถึงได้ปรี๊ดแตก
00 ถ้าย้อนกลับไปถอดเทปฟังคำพูดของ “มหากุเทพ” ในช่วงเวลาเดียวกันอีกครั้งก็พอจับใจความได้ว่า นอกจากพุ่งเป้าถล่มโดยตรงไปยังหัวหน้าพรรคหุ่นเชิดแล้ว ยังมีลูกแถมยันไปโดน ด็อกเตอร์ด้านกฎหมายที่ไต่เต้ามาจากอดีตนักเรียนนายสิบทหารบก อย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง” เข้าไปเต็มหน้าอกอีกคน
00 เรื่องของเรื่องถ้าแกะรอยมาตั้งแต่ต้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเรื่อง “หมั่นใส้” ประเภทคนอื่นเขาลงทุนลงแรงสู้กันมาแทบเป็นแทบตาย ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มตัวเองกลับทำเฉยแทงกั๊กแถมยังมีข่าวแว่วมาว่าในอดีตยังทำ “แอ๊กอาร์ต” กับ “นายใหญ่” เสียอีก แต่พอเดาทางออกว่าจะชนะแน่ก็รีบมาเสนอหน้า “เชลียร์” หนักข้อขึ้นทุกวันทำท่าเกินหน้าเกินตา “หมอผีบุรีรัมย์” ซะแล้ว
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งยังใช้บ้านใหม่ที่ตัวเองไม่ได้ร่วมลงทุน ร่วมสร้างสักบาท แต่กลับสร้างศัตรู “ล่อเป้า” รายวัน อาการ “ชุบมือเปิบ” แบบนี้เป็นใครก็ต้องโมโห เป็นธรรมดา
00 ดังนั้นถ้าให้พิจารณาจากสัญญาณผ่าน “นอมินีตัวจริง” อย่าง มหากุเทพก็ต้องตอกย้ำกันอีกทีว่า ได้เวลานับถอยหลังหมักแล้ว ส่วนคนอย่างเหลิมนั้นเห็นทีจะไต่อันดับลำบาก เพราะคนเขารู้ทัน ไม่เชื่อลองหันกลับไปมองอารมณ์ “หมอเลี้ยบ” ตัวจริงที่เก็บอาการยืนดูอยู่ข้างหลังทุกฝีเก้าว่าคิดอย่างไร กับ “หมัก-เหลิม” แต่ถ้าให้เดางานนี้เสียงนกหวีดเริ่มดังแล้ว !!