ก.พลังงานเต้น ควง ปตท.แจงปัญหา NGV รถสิบล้อระเบิด โบ้ยใช้ถังมือ 2 ไม่ได้มาตรฐาน เหตุมีแค่เหล็กไร้ไฟเบอร์หุ้มป้องกันแรงดัน เล็งล้อมคอกส่งให้กรมการค้าต่างประเทศกำหนดสเปกถัง NGV มือ 2 นำเข้าต้องเจาะรูป้องกันนำมาติดตั้งในรถยนต์ใหม่ ผวาปัญหานี้กระทบเชื่อมั่นผู้กำลังคิดติดตั้ง ยันหากติดตั้งกับอู่ที่ผ่านผู้ตรวจสอบที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ช่างติดตั้งผ่านฝึกอบรมจาก ธพ.เท่านี้ก็ไร้ปัญหา
วานนี้ (31 มี.ค.) กระทรวงพลังงานได้เปิดเวทีชี้แจงปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุกหัวลากสิบล้อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ทะเบียน 84-4156 ชลบุรี ถังก๊าซระเบิดขณะเติมก๊าซ แต่ไม่เกิดไฟลุกไหม้ เมื่อคืนวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. นาคสวัสดิ์ ถนนบางนา-ตราด กม.29
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงานได้สั่งให้เร่งดูแลประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ 7 คนเร่งด่วนซึ่งสามารถกลับบ้านได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่เย็นวานนี้ รวมไปถึงเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งปตท.ได้ทำประกันภัยไว้แล้วก็จะรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ตามส่วนของรถบรรทุกที่เป็นปัญหาจากการตรวจสอบพบมีการใช้ถังไม่ได้มาตรฐานโดยเป็นถังมือ 2 มาติดตั้งดังนั้นเร็ว ๆนี้จะเสนอกรมการค้าต่างประเทศให้กำหนดการนำเข้าถัง NGV มือ 2 ต้องทำการเจาะรูถังเพื่อป้องกันนำมาติดตั้งในรถยนต์ใหม่
“คนที่ผิดคงต้องลงโทษสูงสุด หากดัดแปลงเอง ผิดกฎหมายของกรมขนส่งทางบกอีกหนึ่งกระทง ซึ่ง ขณะนี้ยังติดต่อเจ้าของรถยนต์ไม่ได้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นห่วงว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะทำให้คนที่คิดจะติดตั้ง NGVอาจชะลอออกไป แต่ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ปตท.และกระทรวงพลังงานดูแลการติดตั้งอย่างดี หากผู้ที่สนใจจะไปติดตั้งต้องตรวจสอบว่าอู่นั้นขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ช่างที่ติดตั้งผ่านการฝึกอบรมจากกรมธุรกิจพลังงานหรือไม่ และผู้ที่ตรวจสอบรับรอง ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ถ้ามีทั้ง 3 อย่างครบ ไม่มีปัญหา”นายเมตตา กล่าว
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบสาเหตุเกิดจากรถคันดังกล่าวใชัถัง NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยการนำถัง NGV ใช้งานแล้ว ชนิดที่ 2 (ถังเหล็กหุ้มด้วยไฟเบอร์) มาดัดแปลงโดยถอดไฟเบอร์ออก ซึ่งทำให้ถังชุดดังกล่าวไม่สามารถรองรับแรงดันใช้งานตามปกติได้ และรถคันดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย
“เป็นการนำถังมือ 2 มาดัดแปลงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งมูลค่าเสียหายชัดเจนจะได้ประเมินกันอีกครั้งและการนำผู้กระทำผิดทางตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมอยู่”นายจิตรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปตท.จะเร่งการตรวจสอบต่อไปว่ามีรถยนต์ของบริษัทดังกล่าวติดตั้ง NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานอีกกี่คัน และจะสั่งให้หยุดใช้ทันที โดยถังมือ 2 ขณะนี้มีราคาถูกเพียง 6,000-8,000 บาท/ถัง จากราคาถังเอ็นจีวีปกติขายอยู่ 30,000 บาท/ถัง ซึ่งจะเกิดอันตรายหากจะซื้อถังดังกล่าวแล้วมาดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีกันเอาเอง แต่ผู้ที่จะติดตั้งเอ็นจีวีหากได้รับการติดตั้งจากอู่ที่มีมาตรฐานได้รับการรองรับจากกรมธุรกิจพลังงานรับรองได้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น
“ปตท.จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบถังในตลาดว่ามีถังที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือถังมือ 2 มากน้อยแค่ไหน ถ้าตรวจพบจะอายัดถังที่ตรวจพบ ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่ต้องแสดงบัตรทอง หรือบัตรสินเชื่อก่อนเติมน้ำมัน NGV ทุกครั้ง”นายจิตรพงษ์ กล่าว
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่รถบรรทุกเกิดระเบิดระหว่างการเติมก๊าซเอ็นจีวีว่า คมนาคมได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกใช้ความเข้มงวดกับบริษัทและผู้ประกอบการที่รับติดตั้งถังก๊าซและเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้เอ็นจีวีและแอลพีจี โดยหากพบผู้ประกอบการรายใด นำวิศวกรเครื่องยนต์มาขออนุญาตออกใบขอดัดแปลงเครื่องยนต์ในลักษณะขอใบอนุญาตลอยโดยไม่มีวิศวกรตรวจและคุมงานขณะดัดแปลงเครื่องยนต์ จะมีโทษหนักโดยการเพิกถอนใบอนุญาตทันที
ยันรถเมล์สาย 99 ไม่ใช่ NGV
ส่วนกรณีที่มีข่าวรถเมล์ร่วมบริการสาย 99 เทเวศร์-รามคำแหง ที่ติดตั้ง NGV ระเบิดแล้วมีชิ้นส่วนไปถูกผู้โดยสารเมื่อวันที่ 30 มี.ค.จากการตรวจสอบพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากการใช้ หรือติดตั้ง NGV แต่รถเมล์คันดังกล่าวเบรกแตกแล้วเกียร์หลุดกระเด็นมาโดนผู้โดยสาร
นายจิตรพงษ์ ยังกล่าวถึง การชี้แจงปัญหาก๊าซแหล่งอาทิตย์ล่าช้าต่อนายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานวันนี้ (1 เม.ย.) ซึ่งล่าสุดส่งก๊าซได้ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและจะเพิ่มเป็น 330 ล้านลบ.ฟุตต่อวันกลางเดือนเมษายนนี้หรือช้าไปกว่าแผน 15 วันซึ่งต้องหารือถึงความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็เตรียมแผนรองรับแล้วคือ 1 เลื่อนหยุดซ่อมโรงแยกก๊าซ 5 เร็วขึ้นจาก 21-28 เม.ย.มาเป็น 17 -24 เม.ย.ซึ่งจะส่งก๊าซส่วนนี้เพิ่มอีก 60-70 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน 2. สั่งให้โรงกลั่นไทยออยล์และโรงกลั่น PTTAR ใช้น้ำมันแทนก๊าซฯ
ส่วนปัญหาก๊าซพม่าที่วางแผนล่วงหน้าจะหยุดซ่อม 11-21 เม.ย.นี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้นับปีแล้ว ซึ่งจะทำให้ก๊าซส่วนนี้หายไป 1,000 ล้านลบ.ฟุตต่อวันก็จะกระทบโรงไฟฟ้าราชบุรีและไตรเอ็นเนอร์ยี่ต้องหยุดแต่การใช้ไฟช่วงนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรดังนั้นจึงไม่จำเป็นเลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงอะไร
วานนี้ (31 มี.ค.) กระทรวงพลังงานได้เปิดเวทีชี้แจงปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุกหัวลากสิบล้อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ทะเบียน 84-4156 ชลบุรี ถังก๊าซระเบิดขณะเติมก๊าซ แต่ไม่เกิดไฟลุกไหม้ เมื่อคืนวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. นาคสวัสดิ์ ถนนบางนา-ตราด กม.29
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงานได้สั่งให้เร่งดูแลประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ 7 คนเร่งด่วนซึ่งสามารถกลับบ้านได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่เย็นวานนี้ รวมไปถึงเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งปตท.ได้ทำประกันภัยไว้แล้วก็จะรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ตามส่วนของรถบรรทุกที่เป็นปัญหาจากการตรวจสอบพบมีการใช้ถังไม่ได้มาตรฐานโดยเป็นถังมือ 2 มาติดตั้งดังนั้นเร็ว ๆนี้จะเสนอกรมการค้าต่างประเทศให้กำหนดการนำเข้าถัง NGV มือ 2 ต้องทำการเจาะรูถังเพื่อป้องกันนำมาติดตั้งในรถยนต์ใหม่
“คนที่ผิดคงต้องลงโทษสูงสุด หากดัดแปลงเอง ผิดกฎหมายของกรมขนส่งทางบกอีกหนึ่งกระทง ซึ่ง ขณะนี้ยังติดต่อเจ้าของรถยนต์ไม่ได้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นห่วงว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะทำให้คนที่คิดจะติดตั้ง NGVอาจชะลอออกไป แต่ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ปตท.และกระทรวงพลังงานดูแลการติดตั้งอย่างดี หากผู้ที่สนใจจะไปติดตั้งต้องตรวจสอบว่าอู่นั้นขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ช่างที่ติดตั้งผ่านการฝึกอบรมจากกรมธุรกิจพลังงานหรือไม่ และผู้ที่ตรวจสอบรับรอง ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ถ้ามีทั้ง 3 อย่างครบ ไม่มีปัญหา”นายเมตตา กล่าว
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบสาเหตุเกิดจากรถคันดังกล่าวใชัถัง NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยการนำถัง NGV ใช้งานแล้ว ชนิดที่ 2 (ถังเหล็กหุ้มด้วยไฟเบอร์) มาดัดแปลงโดยถอดไฟเบอร์ออก ซึ่งทำให้ถังชุดดังกล่าวไม่สามารถรองรับแรงดันใช้งานตามปกติได้ และรถคันดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย
“เป็นการนำถังมือ 2 มาดัดแปลงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งมูลค่าเสียหายชัดเจนจะได้ประเมินกันอีกครั้งและการนำผู้กระทำผิดทางตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมอยู่”นายจิตรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปตท.จะเร่งการตรวจสอบต่อไปว่ามีรถยนต์ของบริษัทดังกล่าวติดตั้ง NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานอีกกี่คัน และจะสั่งให้หยุดใช้ทันที โดยถังมือ 2 ขณะนี้มีราคาถูกเพียง 6,000-8,000 บาท/ถัง จากราคาถังเอ็นจีวีปกติขายอยู่ 30,000 บาท/ถัง ซึ่งจะเกิดอันตรายหากจะซื้อถังดังกล่าวแล้วมาดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีกันเอาเอง แต่ผู้ที่จะติดตั้งเอ็นจีวีหากได้รับการติดตั้งจากอู่ที่มีมาตรฐานได้รับการรองรับจากกรมธุรกิจพลังงานรับรองได้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น
“ปตท.จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบถังในตลาดว่ามีถังที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือถังมือ 2 มากน้อยแค่ไหน ถ้าตรวจพบจะอายัดถังที่ตรวจพบ ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่ต้องแสดงบัตรทอง หรือบัตรสินเชื่อก่อนเติมน้ำมัน NGV ทุกครั้ง”นายจิตรพงษ์ กล่าว
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่รถบรรทุกเกิดระเบิดระหว่างการเติมก๊าซเอ็นจีวีว่า คมนาคมได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกใช้ความเข้มงวดกับบริษัทและผู้ประกอบการที่รับติดตั้งถังก๊าซและเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้เอ็นจีวีและแอลพีจี โดยหากพบผู้ประกอบการรายใด นำวิศวกรเครื่องยนต์มาขออนุญาตออกใบขอดัดแปลงเครื่องยนต์ในลักษณะขอใบอนุญาตลอยโดยไม่มีวิศวกรตรวจและคุมงานขณะดัดแปลงเครื่องยนต์ จะมีโทษหนักโดยการเพิกถอนใบอนุญาตทันที
ยันรถเมล์สาย 99 ไม่ใช่ NGV
ส่วนกรณีที่มีข่าวรถเมล์ร่วมบริการสาย 99 เทเวศร์-รามคำแหง ที่ติดตั้ง NGV ระเบิดแล้วมีชิ้นส่วนไปถูกผู้โดยสารเมื่อวันที่ 30 มี.ค.จากการตรวจสอบพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากการใช้ หรือติดตั้ง NGV แต่รถเมล์คันดังกล่าวเบรกแตกแล้วเกียร์หลุดกระเด็นมาโดนผู้โดยสาร
นายจิตรพงษ์ ยังกล่าวถึง การชี้แจงปัญหาก๊าซแหล่งอาทิตย์ล่าช้าต่อนายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานวันนี้ (1 เม.ย.) ซึ่งล่าสุดส่งก๊าซได้ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและจะเพิ่มเป็น 330 ล้านลบ.ฟุตต่อวันกลางเดือนเมษายนนี้หรือช้าไปกว่าแผน 15 วันซึ่งต้องหารือถึงความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็เตรียมแผนรองรับแล้วคือ 1 เลื่อนหยุดซ่อมโรงแยกก๊าซ 5 เร็วขึ้นจาก 21-28 เม.ย.มาเป็น 17 -24 เม.ย.ซึ่งจะส่งก๊าซส่วนนี้เพิ่มอีก 60-70 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน 2. สั่งให้โรงกลั่นไทยออยล์และโรงกลั่น PTTAR ใช้น้ำมันแทนก๊าซฯ
ส่วนปัญหาก๊าซพม่าที่วางแผนล่วงหน้าจะหยุดซ่อม 11-21 เม.ย.นี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้นับปีแล้ว ซึ่งจะทำให้ก๊าซส่วนนี้หายไป 1,000 ล้านลบ.ฟุตต่อวันก็จะกระทบโรงไฟฟ้าราชบุรีและไตรเอ็นเนอร์ยี่ต้องหยุดแต่การใช้ไฟช่วงนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรดังนั้นจึงไม่จำเป็นเลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงอะไร