นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้กรมขนส่งทางบกจะรายงานสถานการณ์ราคาแอลพีจี ต่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนื่องจากราคาก๊าซสูงขึ้น แม้ว่าปัจจุบันกระทรวงพลังงานจะสั่งให้ชะลอการปรับขึ้นราคาออกไปจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ โดยที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการรถแท็กซี่ได้ทำหนังสือเรียกร้องให้กรมขนส่งทางบกปรับขึ้นราคาเป็น 2 แนวทาง คือ ปรับราคาเริ่มต้นจาก 35 บาท เป็น 40 บาท และหลังจากนั้นเพิ่มราคาจากเดิมกิโลเมตรละ 2 บาท อีก 1 บาท และอีกแนวทางคือให้คงอัตราเริ่มต้นเดิมที่ 35 บาท แต่ให้ปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มกิโลเมตรต่อไปที่กิโลเมตรละ 2 บาท
นายศิลปชัย กล่าวว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบกอยู่ระหว่างศึกษาต้นทุนการเดินรถของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ เพื่อกำหนดต้นทุนเฉลี่ยการเดินรถแต่ละคันเป็นเท่าไหร่ เพื่อจะได้นำไปสู่การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมที่สุด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวกรมการขนส่งทางบกไม่สามารถดำเนินการเองได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการรอคำตอบจากกรมการขนส่งทางบก ว่าจะอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้กรมฯ ปรับขึ้นราคา แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เพราะการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารนั้นถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ราคาที่ขึ้นไปกระทบกับผู้โดยสารจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับต้นทุนด้านพลังงานของผู้ขับรถแท็กซี่ ปัจจุบันสำหรับรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจีจะมีต้นทุน 1.35 บาท/กิโลเมตร หากใช้ก๊าซเอ็นจีวีจะมีต้นทุน 90 สตางค์/กิโลเมตร ส่วนรถที่ใช้น้ำมันเบนซินจะมีต้นทุน 2 บาท/กิโลเมตร และรถที่ใช้น้ำมันดีเซลจะมีต้นทุน 3 บาท/กิโลเมตร โดยแต่ละวันผู้ขับรถแท็กซี่จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารเป็นระยะทางเฉลี่ย 200 กิโลเมตร
นายศิลปชัย กล่าวว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบกอยู่ระหว่างศึกษาต้นทุนการเดินรถของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ เพื่อกำหนดต้นทุนเฉลี่ยการเดินรถแต่ละคันเป็นเท่าไหร่ เพื่อจะได้นำไปสู่การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมที่สุด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวกรมการขนส่งทางบกไม่สามารถดำเนินการเองได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการรอคำตอบจากกรมการขนส่งทางบก ว่าจะอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้กรมฯ ปรับขึ้นราคา แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เพราะการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารนั้นถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ราคาที่ขึ้นไปกระทบกับผู้โดยสารจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับต้นทุนด้านพลังงานของผู้ขับรถแท็กซี่ ปัจจุบันสำหรับรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจีจะมีต้นทุน 1.35 บาท/กิโลเมตร หากใช้ก๊าซเอ็นจีวีจะมีต้นทุน 90 สตางค์/กิโลเมตร ส่วนรถที่ใช้น้ำมันเบนซินจะมีต้นทุน 2 บาท/กิโลเมตร และรถที่ใช้น้ำมันดีเซลจะมีต้นทุน 3 บาท/กิโลเมตร โดยแต่ละวันผู้ขับรถแท็กซี่จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารเป็นระยะทางเฉลี่ย 200 กิโลเมตร