xs
xsm
sm
md
lg

แก้รัฐธรรมนูญ:เหตุเกิดวิกฤตศรัทธาเร็วขึ้น

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

ไม่ว่าที่ไหนและกาลเวลาใด เมื่อมีคนมาอยู่ร่วมกันก็จะเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้คนในสังคมนั้น และเหตุที่ให้เกิดความขัดแย้งไม่ว่าจะเป็นปัจเจกบุคคลกับปัจเจกบุคคล หรือกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล ส่วนใหญ่แล้วหนีไม่พ้นพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบแก่งแย่งผลประโยชน์ จนทำให้ผู้คนในสังคมรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม และลุกขึ้นมาต่อสู้และป้องกันมิให้พฤติกรรมที่ว่านี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ด้วยการกำหนดกติกาทางสังคมเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม และกติกาทางสังคมที่ว่านี้ จะมีปรากฏในหลายรูปแบบตั้งแต่จารีตประเพณี วิถีประชาไปจนถึงกฎหมาย

ในบรรดากติกาทางสังคมดังกล่าวข้างต้น กฎหมายถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมมิให้บุคคล และกลุ่มบุคคลใดๆ ก่อความเดือดร้อนแก่บุคคล และกลุ่มบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่เจริญแล้ว ส่วนในประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือแม้กระทั่งประเทศกำลังพัฒนา กฎหมายก็ยังมิอาจถือได้ว่าเป็นเครื่องมือบริหารบ้านเมืองให้เกิดประสิทธิภาพได้ เมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว ถึงแม้ว่ากฎหมายที่ประเทศเหล่านี้นำมาใช้ส่วนหนึ่งหรืออาจพูดได้ว่าส่วนใหญ่ก็ว่าได้ ได้มีการลอกเลียนมาจากรูปแบบของประเทศเจริญแล้วก็ตาม ทั้งนี้น่าจะเกิดจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. กฎหมายที่นำมาใช้เป็นกฎหมายในแนวดิ่งคือ มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกัน แต่ใช้กับผู้คนที่มีภาวะแวดล้อมต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมทุติยภูมิที่ผู้คนในสังคมมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การศึกษา และฐานะทางเศรษฐกิจ

ดังนั้นกฎหมายที่ลอกเลียนมาจากประเทศที่ผู้คนมีสภาวะแวดล้อมเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน จึงยากที่จะมีผลในการบังคับใช้ให้เกิดประสิทธิผลในทางปฏิบัติ ยกตัวอย่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ออกมาเพื่อป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง โดยรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ถ้าดูจากเนื้อหาแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครหรือพรรคใดกล้ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ว่านี้

แต่ในความเป็นจริง จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา ปรากฏมีผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย

2. ผู้รักษากฎหมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทั้งก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการตุลาการ และหลังจากที่เข้าสู่กระบวนการตุลาการแล้ว ก็ยังปรากฏข้อบกพร่องและผิดพลาดชนิดที่พูดได้ว่า ค้านความรู้สึกของผู้คนที่รักความเป็นธรรมก็มีปรากฏให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ รวมไปถึงภาคส่วนของราชการที่เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานของฝ่ายบริหารเดินไปในทิศทางเดียวกัน ในรูปแบบของการประสานประโยชน์ร่วมกัน โดยมีฝ่ายบริหารเป็นผู้จัดสรรให้ ดังที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2544-2549 และกำลังจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาถึงใน พ.ศ. 2550

3. ประชาชนโดยทั่วไปไม่ยอมรับรู้ และไม่ยอมเข้าใจถึงภาระหน้าที่ที่ทุกคนจะกระทำ และไม่กระทำในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย จึงเป็นช่องว่างให้ผู้ที่มีเจตนาแสวงหาประโยชน์โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย และความเฉยเมยของคนในสังคมกระทำความผิดได้

ด้วยเหตุ 3 ประการนี้เอง กฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศไทยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง โดยการยกเลิกและมีการร่างใหม่หลายครั้ง จึงยังมีข้อบกพร่องให้คนหาประโยชน์ในทางมิชอบได้ จะเห็นได้ชัดเจนจากการเลือกตั้ง ส.ส.ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นรัฐูธรรมนูญที่ดี และได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไป

แต่เมื่อมีการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2548 ปรากฏว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กลายเป็นช่องว่างให้บรรดานักการเมืองที่ลงเลือกตั้งด้วยหวังชนะอย่างเดียว โดยไม่เคารพกติกาการเลือกตั้งได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นเหตุให้ตุลาการรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองขนาดเล็ก และพรรคการเมืองใหญ่ 1 พรรคคือ พรรคไทยรักไทยมีผลให้กรรมการบริหารพรรค 111 คนต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขในข้อแก้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ม. 226, 237 และ 309 ซึ่งล้วนแล้วแต่มีเงื่อนไขโยงใยไปถึงความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากปมแห่งปัญหาการกระทำผิดของกลุ่มการเมืองกลุ่มเดิม ภายใต้พรรคการเมืองใหญ่ที่ใครต่อใครพูดกันว่าเป็นพรรคตัวแทน

แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนในขณะนี้ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับจากประชาชน และสามารถผ่านพ้นไปได้โดยง่าย ทั้งนี้อนุมานได้จากเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้

1. รัฐบาลชุดนี้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 และได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในฐานะรัฐบาลมาได้ไม่ถึง 3 เดือน และยังไม่มีเหตุใดส่อเค้าว่าจะมีอุปสรรคในการทำงานอันเกิดจากกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 237 และ 309

ดังนั้น จึงไม่น่ามีเหตุผลใดที่จะต้องทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มการเมืองเก่าที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำผิด และกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้เท่านั้น

2. ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ก็ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามีการพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรม ที่สำคัญในการแถลงนโยบายทางด้านการเมือง ก็ไม่ปรากฏว่ามีการระบุไว้เป็นนโยบายว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญใน 3 มาตรานี้

ดังนั้น เมื่อถึงวันนี้และเวลานี้รัฐบาลต่างออกมาประสานเสียงกันว่า จะมีการแก้ไขก็ทำให้เกิดข้อกังขาว่า แนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่งจะเกิดขึ้น หรือได้เกิดขึ้นมานานแล้วแต่ปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้ รอเวลาและจังหวะเท่านั้น ทั้งนี้จะเห็นได้จากการขอแก้มาตรา 237 หลังจากที่พรรคพลังประชาชนมีแนวโน้มว่าจะถูกยุบพรรค ถ้าหากพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาฯ ถูกยุบ

3. ในวันที่ข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญแพร่สะพัดออกไป กระแสการรวมและต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ออกมาเคลื่อนไหวเริ่มด้วยการแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ และล่าสุดได้มีการจัดสัมมนาที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้เข้าร่วมฟังการสัมมนาเป็นจำนวนหมื่น ซึ่งเป็นการวัดกระแสการคัดค้านทางการเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่ง

ด้วยเหตุ 3 ประการดังกล่าวแล้วข้างต้น เชื่อได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้กระทำได้ยาก

จากเหตุปัจจัยทางการเมืองแล้ว เหตุปัจจัยทางสังคมก็เป็นอีกประการหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้กระทำการใดๆ เพื่อแก้ปัญหาตัวเอง และแก้ปัญหาพวกพ้องกระทำได้ยาก ถ้ามองจากเหตุปัจจัยทางสังคมดังต่อไปนี้

1. ในขณะนี้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลในสายตาชาวบ้านติดลบ เนื่องจากรัฐมนตรีบางคนหรืออย่างน้อย 3 คน รวมทั้งนายกฯ ด้วยได้ออกมาแสดงอาการตอบโต้ทางการเมืองมากกว่าที่จะเอาเวลาไปทำงานให้แก่สังคม ในฐานะฝ่ายบริหารที่ได้รับเลือกจากประชาชน และแต่ละครั้งที่ออกมาแสดงเต็มไปด้วยกิริยาท่าทีที่คนทั่วๆ ไปเขารับไม่ได้ว่า นี่คือผู้นำประเทศที่พวกเขาอยากเห็น และอยากให้เป็น

2. ในขณะนี้สังคมเดือดร้อนด้วยปัญหาข้าวของแพง เรียนจบมาแล้วหางานทำไม่ได้ โจรผู้ร้ายชุกชุม ขนาดลักขโมยข้าวในนากันแล้ว

แต่รัฐมนตรีมหาดไทยยังมีเวลามาตอบโต้คนที่คิดว่าเป็นศัตรูทางการเมือง โดยลืมว่าตนเองเป็นบุคคลสาธารณะ และได้มาจากการเลือกตั้งซึ่งประชาชนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้

ด้วยเหตุ 2 ประการนี้ เมื่อรวบรวมกับปัจจัยอื่นดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงทำให้เชื่อได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรลุผลได้ยาก
กำลังโหลดความคิดเห็น