“ป๋าเปรม” ปฎิเสธเอี่ยวปฎิวัติ รวมทั้งเรื่องการเมืองทั้งหมด เผยที่ผ่านมาไม่ได้หายไปไหน แต่ไม่ยอมตอบกลัวถูกเช็คบิลหรือไม่ ด้าน “ชลิต” โต้หนังสือ “ลับ ลวง พรางฯ” ไม่เชื่อ “สนธิ” หรือใครให้สัมภาษณ์แค่วิเคราะห์เองของคนเขียน ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับ “บิ๊กบัง” เพราะไม่มีปัญหาอะไรกัน แจงเหตุร่วมรัฐประหารเพราะสถานการณ์บังคับ หวังยุติสถานการณ์ เนื่องจากรัฐบาล “ทักษิณ” ทำในสิ่งที่ไม่เป็นธรรม
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 8 ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ถึงกรณีที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าไม่ขอตอบ เพราะมีความรู้ในเรื่องนี้น้อยมาก ส่วนที่ผ่านมาหลายคนเป็นห่วงว่าตนหายไปไหน ตนไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ทุกวัน แต่อยู่เงียบๆ ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว และอาจเกิดผลกระทบต่อตัวเอง เพราะถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร พล.อ.เปรม กล่าวว่า “พวกคุณคิดกันไปเอง ผมไม่ได้ไปทำอะไร” เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะรู้ดีว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ทุกคนต้องรู้อย่างนั้น ว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้อง “ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง หรือเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าคนจะเข้าใจผิดและถูกเช็คบิลภายหลัง พล.อ.เปรม ได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามอื่นๆ ของผู้สื่อข่าวอีก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. อดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับหนังสือ "ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย" ที่มีการระบุถึงการซื้อเครื่องบินของกองทัพอากาศจากที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้ซื้อเครื่องบิน ซู 30 (ZU30) ของประเทศรัสเซีย แต่กองทัพอากาศตัดสินใจซื้อเครื่องกริพเพนของสวีเดน ว่า สงสัยว่าผู้เขียนไปสัมภาษณ์ใครมา และได้ข้อมูลมาจากไหน นั่งเขียนเองหรืออย่างไร ไม่คิดว่าจะมีใครให้สัมภาษณ์ เพราะฉะนั้นเรื่องความน่าเชื่อถือจึงไม่ทราบ
“ไม่ทราบว่าหนังสือดังกล่าวเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่คิดว่าเป็นเรื่องของ การวิเคราะห์จากอะไรต่างๆ ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ ประธาน คมช. หรืออดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์ คงเป็นการประมวลแล้วคิดเอง ผมจะไม่อ่านหนังสือดังกล่าว เพราะคิดว่าเขียนขึ้นมาเอง แล้วไม่จำเป็นต้องชี้แจงข้อมูลอะไรที่อยู่ในหนังสือ เพราะไม่คิดว่าใครจะให้สัมภาษณ์ น่าจะเป็นการเขียนโดยการประมวลจากสื่อต่างๆ” พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
พล.อ.อ.ชลิต ยังกล่าวถึงการเข้าร่วมการทำรัฐประหารว่า ด้วยสถานการณ์ที่ บีบบังคับ จึงเป็นความจำเป็นที่กองทัพอากาศต้องร่วมกับกองทัพอื่นๆ ในการยุติสถานการณ์ เพราะผู้บริหารประเทศช่วงนั้นไม่ดำเนินการในสิ่งที่ควรจะทำ ทำให้สะสมมาเรื่อยๆ และช่วงการดำเนินการที่เป็นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คมช. และในนามของ กองทัพอากาศ เราพยายามทำสิ่งที่เป็นงานปกติ พัฒนากองทัพไปตามลำดับขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะมีการเคลียร์กับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.หรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ได้คุยกันบ่อย แต่เจอกันในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นไม่จำเป็นต้องเคลียร์อะไร และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 มีวิจารณญาณ สามารถกลั่นกรองได้ ยืนยันได้ทุกวันนี้ยังรักกันดี ทุกคนมีภารกิจทำงานเพื่อประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในหนังสือระบุว่า พล.อ.สนธิ ไม่พอใจการทำงานของพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อชลิต กล่าวว่า ไม่เคยไม่พอใจ การทำงาน มีสิ่งแวดล้อมแต่ละจุดแต่ละหน้าที่ที่แตกต่างกันไป มีสิ่งกีดกั้นเยอะแยะ และจะไม่อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 8 ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ถึงกรณีที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าไม่ขอตอบ เพราะมีความรู้ในเรื่องนี้น้อยมาก ส่วนที่ผ่านมาหลายคนเป็นห่วงว่าตนหายไปไหน ตนไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ทุกวัน แต่อยู่เงียบๆ ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว และอาจเกิดผลกระทบต่อตัวเอง เพราะถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร พล.อ.เปรม กล่าวว่า “พวกคุณคิดกันไปเอง ผมไม่ได้ไปทำอะไร” เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะรู้ดีว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ทุกคนต้องรู้อย่างนั้น ว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้อง “ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง หรือเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าคนจะเข้าใจผิดและถูกเช็คบิลภายหลัง พล.อ.เปรม ได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามอื่นๆ ของผู้สื่อข่าวอีก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. อดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับหนังสือ "ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย" ที่มีการระบุถึงการซื้อเครื่องบินของกองทัพอากาศจากที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้ซื้อเครื่องบิน ซู 30 (ZU30) ของประเทศรัสเซีย แต่กองทัพอากาศตัดสินใจซื้อเครื่องกริพเพนของสวีเดน ว่า สงสัยว่าผู้เขียนไปสัมภาษณ์ใครมา และได้ข้อมูลมาจากไหน นั่งเขียนเองหรืออย่างไร ไม่คิดว่าจะมีใครให้สัมภาษณ์ เพราะฉะนั้นเรื่องความน่าเชื่อถือจึงไม่ทราบ
“ไม่ทราบว่าหนังสือดังกล่าวเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่คิดว่าเป็นเรื่องของ การวิเคราะห์จากอะไรต่างๆ ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ ประธาน คมช. หรืออดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์ คงเป็นการประมวลแล้วคิดเอง ผมจะไม่อ่านหนังสือดังกล่าว เพราะคิดว่าเขียนขึ้นมาเอง แล้วไม่จำเป็นต้องชี้แจงข้อมูลอะไรที่อยู่ในหนังสือ เพราะไม่คิดว่าใครจะให้สัมภาษณ์ น่าจะเป็นการเขียนโดยการประมวลจากสื่อต่างๆ” พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
พล.อ.อ.ชลิต ยังกล่าวถึงการเข้าร่วมการทำรัฐประหารว่า ด้วยสถานการณ์ที่ บีบบังคับ จึงเป็นความจำเป็นที่กองทัพอากาศต้องร่วมกับกองทัพอื่นๆ ในการยุติสถานการณ์ เพราะผู้บริหารประเทศช่วงนั้นไม่ดำเนินการในสิ่งที่ควรจะทำ ทำให้สะสมมาเรื่อยๆ และช่วงการดำเนินการที่เป็นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คมช. และในนามของ กองทัพอากาศ เราพยายามทำสิ่งที่เป็นงานปกติ พัฒนากองทัพไปตามลำดับขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะมีการเคลียร์กับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.หรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ได้คุยกันบ่อย แต่เจอกันในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นไม่จำเป็นต้องเคลียร์อะไร และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 มีวิจารณญาณ สามารถกลั่นกรองได้ ยืนยันได้ทุกวันนี้ยังรักกันดี ทุกคนมีภารกิจทำงานเพื่อประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในหนังสือระบุว่า พล.อ.สนธิ ไม่พอใจการทำงานของพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อชลิต กล่าวว่า ไม่เคยไม่พอใจ การทำงาน มีสิ่งแวดล้อมแต่ละจุดแต่ละหน้าที่ที่แตกต่างกันไป มีสิ่งกีดกั้นเยอะแยะ และจะไม่อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
