อดีต รก.ปธ.คมช. มั่นใจรัฐบาลจะเข้าใจดีถึงความจำเป็นในการจัดซื้ออาวุธคงจะไม่ตัดงบประมาณในส่วนของกองทัพพร้อมระบุจะได้มีการนัดพูดคุยกับนายกฯ ในฐานะ รมว.กห. เร็วๆ นี้
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ในฐานะ อดีต รก.ปธ.คมช. แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลโดยเฉพาะตัวนายกฯ จะมีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับกองทัพ แม้จะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลบางคนออกมาทักท้วง แต่ก็เชื่อว่า ทั้งรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะทราบดี เพราะการบริหารประเทศสิ่งสำคัญจะต้องให้ประชาชนกินดีอยู่ดี
แต่ทั้งนี้ประเทศชาติก็จะต้องมีความมั่นคง ซึ่งงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมจะได้รับมาไม่ถึง 2% ของจีดีพี หากเปรียบเทียบกับกระทรวงอื่นๆ ดังนั้นเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้-พล.อ.อ.ชลิต ยังกล่าวด้วยว่า ในฐานะ ผบ.ทอ.เชื่อว่าการเมืองคงจะไม่เข้ามาแทรกแซงการทำงานของกองทัพ โดยเฉพาะตัวนายกฯ มีความเข้าใจ และอยู่ในการเมืองมานาน ดังนั้นคงจะได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกฯ ในฐานะ รมว.กห. เร็วๆ นี้ เพราะยังพูดคุยกันไม่ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ผบ.ทอ.ระบุว่า ก่อนเดินทางไปประเทศสวีเดนได้เรียนให้นายกฯ ทราบแล้วถึงการเดินทางไปร่วมลงนามในข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบินกริพเพน 39 กับรัฐบาลสวีเดน ซึ่งนายกฯ ก็เข้าใจ เพราะว่าเป็นโครงการที่ได้ทำมานานถึง 4-5ปีแล้ว
และในวันนี้ ผบ.ทอ.ได้เปิดแถลงข่าวการลงนามข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินกริพเพน 39 กับรัฐบาลสวีเดน เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติให้ความเห็นชอบ เพื่อให้กองทัพอากาศดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ 5 ที่กำลังจะปลดประจำการ โดยกองทัพอากาศได้ลงนามในข้อตกลงจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน 39 จำนวน 6 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์อะไหล่ รวมไปถึงการฝึกอบรม การปรับปรุงสถานที่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น19,000 ล้านบาท
นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้รับข้อเสนอจากรัฐบาลสวีเดนที่จะมอบเครื่องบินติดตั้งอุปกรณ์เรด้าควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศจำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบินลำเลียงแบบซาร์บ 340 สำหรับการฝึกอีก 1 เครื่องด้วย โดยรัฐบาลสวีเดนจะส่งมอบเครื่องบินขับไล่กริพเพน 39 ให้กับกองทัพอากาศไทยภายหลังการลงนาม 36 เดือน หรือ ประมาณเดือนมกราคม 2554 จำนวน3 เครื่อง และในเดือนมีนาคม 2554 อีก 3 เครื่อง