00 แม้ว่าหลายคดีเริ่มทยอยขึ้นสู่ศาล สร้างความปั่นป่วนในหัวใจ “เฮียแม้ว” ไม่น้อย เพราะถ้าพิจารณากันตามเนื้อผ้าแล้วนอกเหนือจากคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกที่ไปค้างคาอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยังมีอีกคดีที่กำลังจ่อคิวตามมาติดๆก็น่าจะเป็นคดี “เงินกู้พม่า” ผ่านเอ็กซิมแบงก์จำนวนเงินกว่า 4 พันล้านบาท
00 เรื่องรายละเอียดไม่ต้องไปพูดถึงกันมาก เดี๋ยวจะเวียนหัวในเรื่องตัวเลขกันเปล่าๆ แต่รับรองว่า ถ้าพิจารณาตั้งแต่ต้นจนจบดูแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายนัก ถูกกล่าวหาทำนองโยกเงินหลวงมาซื้อสินค้าของบริษัทครอบครัวอะไรประมาณนี้แหละ
00 ฟังจากการแถลงของ “สัก กองแสงเรือง” ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนคนคุมคดีโดยตรงออกมาแถลงชวนขนลุกว่าจะชงเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่คตส.ในวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.นี้เพื่อพิจารณาส่งอัยการสูงสุดฟ้องศาลฎีกาฯต่อไป
00 ที่สำคัญผู้ต้องหามีเพียงคนเดียวเท่านั้น เอ่ยชื่อขึ้นมาต้องร้องอ๋อกันทั้งบ้านทั้งเมือง เป็นใครไปไม่ได้หรอกท่านผู้ชมหวยออกที่ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง และน่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือมีการใช้เอกสารของกระทรวงการต่างประเทศว่ากันว่าลงนามโดย “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” ที่คัดค้านการปล่อยกู้มาตั้งแต่ต้น โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวจะ”ไม่งาม” ชาวบ้านเขาจะนินทาเอาได้ว่าครอบครัวผู้นำทำธุรกิจสื่อสารแต่ปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลเพื่อไปดำเนินการในโครงการดังกล่าว
00 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคำให้การมัดอีกว่าทั่นผู้นำยังสั่งการรับปากด้วยวาจาถึง 2 ครั้งว่าจะปล่อยกู้ให้งวดแรก 3 พันล้านไปก่อนและต่อไปจะปล่อยอีกพันล้านรับประกันความชัวร์ไว้ล่วงหน้า ดังนั้นถ้าหลักฐานเป็นอย่างว่าจริงมันก็ชวน “หัวเสีย” ไม่น้อย ถึงว่าคนที่อยู่ใน “บัญชีแค้น” อันดับต้นๆของใครบางคนมีชื่อของอดีตรมต. “บัวแก้ว”คนนี้รวมอยู่ด้วย
00 ไม่เชื่อลองจับสัญญาณจากการแถลงช่วงที่เดินทางกลับประเทศไทยทำนองตัดพ้อออกมาว่า อุตส่าห์ไปช่วยหาเสียงให้ได้เป็นเลขายูเอ็น แต่ดันมายึดอำนาจกันเสียได้ ทำดีแต่ไม่มีใครเข้าใจ ว่าเข้าไปนั่น
00 เห็นรายชื่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญชุดใหม่ในสายผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ฝ่ายละ 2 คน ที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกมาหมาดๆแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บางพรรคต้องวิ่งกันพล่านขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ “ตัดตอน” ถูกยุบพรรคหรือเปล่า เพราะถ้าดูรายชื่อ 2 ใน 4 คน คือ “จรัญ ภักดีธนากุล” กับ “วสันต์ สร้อยพิสุทธ์” แค่นี้ก็ต้อง “หนาว” กันไปตามๆกัน โดยเฉพาะพวกสันหลังหวะเท่านั้น แม้ที่ผ่านมาถึงขั้นเตะตัดขากันในสภามาแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อมีชื่อโผล่เข้าวินมันก็ยิ่งป่วนหนักเข้าไปอีก
00 เห็นแค่นี้ยังปวดหัวแล้ว ยังไม่นับตุลาการฯที่จะมาจากศาลปกครองสูงสุดอีก 2 คน และจากศาลฎีกาอีก 3 คน มาสมทบอีก แค่นึกหัวใจก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เพราะมันควบคุมอะไรไม่ได้ ถึงได้บอกแล้วไงว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต ผลจากการหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ของ “ยุทธ ตู้เย็น” หนึ่งในกรรมการสรรหาฯนี่มันสะเทือนไปไกลจริงๆ ขอบอก !!
00 เรื่องรายละเอียดไม่ต้องไปพูดถึงกันมาก เดี๋ยวจะเวียนหัวในเรื่องตัวเลขกันเปล่าๆ แต่รับรองว่า ถ้าพิจารณาตั้งแต่ต้นจนจบดูแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายนัก ถูกกล่าวหาทำนองโยกเงินหลวงมาซื้อสินค้าของบริษัทครอบครัวอะไรประมาณนี้แหละ
00 ฟังจากการแถลงของ “สัก กองแสงเรือง” ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนคนคุมคดีโดยตรงออกมาแถลงชวนขนลุกว่าจะชงเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่คตส.ในวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.นี้เพื่อพิจารณาส่งอัยการสูงสุดฟ้องศาลฎีกาฯต่อไป
00 ที่สำคัญผู้ต้องหามีเพียงคนเดียวเท่านั้น เอ่ยชื่อขึ้นมาต้องร้องอ๋อกันทั้งบ้านทั้งเมือง เป็นใครไปไม่ได้หรอกท่านผู้ชมหวยออกที่ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง และน่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือมีการใช้เอกสารของกระทรวงการต่างประเทศว่ากันว่าลงนามโดย “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” ที่คัดค้านการปล่อยกู้มาตั้งแต่ต้น โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวจะ”ไม่งาม” ชาวบ้านเขาจะนินทาเอาได้ว่าครอบครัวผู้นำทำธุรกิจสื่อสารแต่ปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลเพื่อไปดำเนินการในโครงการดังกล่าว
00 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคำให้การมัดอีกว่าทั่นผู้นำยังสั่งการรับปากด้วยวาจาถึง 2 ครั้งว่าจะปล่อยกู้ให้งวดแรก 3 พันล้านไปก่อนและต่อไปจะปล่อยอีกพันล้านรับประกันความชัวร์ไว้ล่วงหน้า ดังนั้นถ้าหลักฐานเป็นอย่างว่าจริงมันก็ชวน “หัวเสีย” ไม่น้อย ถึงว่าคนที่อยู่ใน “บัญชีแค้น” อันดับต้นๆของใครบางคนมีชื่อของอดีตรมต. “บัวแก้ว”คนนี้รวมอยู่ด้วย
00 ไม่เชื่อลองจับสัญญาณจากการแถลงช่วงที่เดินทางกลับประเทศไทยทำนองตัดพ้อออกมาว่า อุตส่าห์ไปช่วยหาเสียงให้ได้เป็นเลขายูเอ็น แต่ดันมายึดอำนาจกันเสียได้ ทำดีแต่ไม่มีใครเข้าใจ ว่าเข้าไปนั่น
00 เห็นรายชื่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญชุดใหม่ในสายผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ฝ่ายละ 2 คน ที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกมาหมาดๆแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บางพรรคต้องวิ่งกันพล่านขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ “ตัดตอน” ถูกยุบพรรคหรือเปล่า เพราะถ้าดูรายชื่อ 2 ใน 4 คน คือ “จรัญ ภักดีธนากุล” กับ “วสันต์ สร้อยพิสุทธ์” แค่นี้ก็ต้อง “หนาว” กันไปตามๆกัน โดยเฉพาะพวกสันหลังหวะเท่านั้น แม้ที่ผ่านมาถึงขั้นเตะตัดขากันในสภามาแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อมีชื่อโผล่เข้าวินมันก็ยิ่งป่วนหนักเข้าไปอีก
00 เห็นแค่นี้ยังปวดหัวแล้ว ยังไม่นับตุลาการฯที่จะมาจากศาลปกครองสูงสุดอีก 2 คน และจากศาลฎีกาอีก 3 คน มาสมทบอีก แค่นึกหัวใจก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เพราะมันควบคุมอะไรไม่ได้ ถึงได้บอกแล้วไงว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต ผลจากการหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ของ “ยุทธ ตู้เย็น” หนึ่งในกรรมการสรรหาฯนี่มันสะเทือนไปไกลจริงๆ ขอบอก !!