ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้ดูแลพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เผย ในหลวงทรงห่วงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันเมืองเชียงใหม่ พร้อมให้รายงานสถานการณ์ทุกวันผ่านสำนักราชเลขาธิการฯ หากปัญหายังไม่ทุเลาเตรียมทำฝนหลวงช่วย ด้านผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังปัญหา จัดเครื่องบิน 2 ลำบินตรวจการณ์ทุกวันต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ในพื้นที่เสี่ยงระงับการเผา ขณะเดียวกันเตรียมทำหนังสือแจงสถานกงสุลทุกแห่ง ยันสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง เพื่อป้องกันเข้าใจผิดและกระทบท่องเที่ยว
วานนี้(25 มี.ค.51) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโครงการ “ดอยสุเทพปลอดไฟป่า ทุกคนร่วมใจรักษาป่า” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประจำปี 2551 โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
นอกจากการติดตามความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวแล้ว ในที่ประชุมยังได้มีการหารือกันถึงสถานการณ์หมอกควันและคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ด้วย เนื่องจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมากรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กปนเปื้อนในอากาศเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
นายอำนาจ เดชะ ผู้ดูแลพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและคุณภาพอากาศที่เกิดขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงเวลานี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแสดงความห่วงใย ทั้งนี้ให้จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานสถานการณ์ให้สำนักราชเลขาธิการทราบเป็นประจำทุกวัน โดยหากสถานการณ์หมอกควันและคุณภาพอากาศที่ตรวจวัด ยังคงมีฝุ่นละอองและสารปนเปื้อนเกินกว่าค่ามาตรฐานต่อเนื่องกันหลายวัน จะทรงพระราชทานฝนหลวงเพื่อมาแก้ไขและบรรเทาปัญหาให้ต่อไป
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เวลานี้เป็นผลมาจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งความกดอากาศและทิศทางลมที่พัดพาเอาควันไฟจากจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้านมากระจุกอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ
ทั้งนี้ จังหวัดได้พยายามที่จะแก้ไขและบรรเทาความรุนแรงของปัญหาอย่างเต็มที่ ด้วยการสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เข้มงวดไม่ให้มีการเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาดและมีการดูแลไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติมโดยจะมีการจัดเครื่องบินจำนวน 2 ลำ บินตรวจการณ์เป็นประจำทุกวัน เน้นพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ได้แก่ อำเภออมก๋อย อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่อาย โดยหากพบมีการเผาหรือไฟป่าในจุดได้ก็จะได้สามารถแจ้งประสานให้มีการระงับเหตุได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ซึ่งเครื่องบินตรวจการณ์ดังกล่าวจะเริ่มทำการบินตั้งแต่วันนี้(26 มี.ค.51) เป็นต้นไป ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2 สัปดาห์ เชื่อว่าจะได้ผลดีในระดับหนึ่ง
สำหรับสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ในเวลานี้ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ยืนยันว่า ในภาพรวมถือว่าคุณภาพอากาศยังคงอยู่ในระดับที่ดี และไม่เป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไป ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก
ด้านนายภุชงค์ อินสมพันธ์ หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการดำเนินการมาตรการ เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งก็สามารถลดการเผาในที่โล่งและการเกิดไฟป่าลงได้กว่าครึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลจากการที่จังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ยังมีการเผาอยู่มากจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้การบรรเทาปัญหาเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งให้ช่วยกันระดมฉีดน้ำตามท้องถนน และในพื้นที่ เพื่อชะล้างฝุ่นละอองในอากาศ เชื่อว่าจะได้ผลในระดับหนึ่ง
ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ได้มีความรุนแรงแต่อย่างใด จึงอยากให้ทุกฝ่ายคลายความกังวล แต่ยอมรับว่ายังคงต้องมีการดำเนินการมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้จะมีการทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นส่งไปยังสถานกงสุลประเทศต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้อง รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
ในส่วนของรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ของกรมควบคุมมลพิษค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วานนี้ (25 มี.ค.51) พบว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยทั้งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ กลับมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ ที่สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีค่าฝุ่นละออง 86.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 79
ขณะที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีค่าฝุ่นละออง 81.1ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 76 ส่วนที่สถานีพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีค่าฝุ่นละออง 119.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 100 โดยค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 100 ตามลำดับ