ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดรณรงค์ลดการเผาในที่โล่งลดภาวะโลกร้อน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ระบุสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองดีขึ้นจากปีก่อน แต่ยังต้องรณรงค์ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยืนยันองค์การสวนสัตว์มีความพร้อมเต็มที่ในการดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
วันนี้ (21 มี.ค.) นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการเผาในที่โล่งเพื่อลดภาวะโลกร้อนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อสร้างความตระหนักในการร่วมกันลดการเผาในที่โล่งเพื่อลดปัญหาหมอกควันและลดภาวะโลกร้อน ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัด วิทยุชุมชน หอกระจายข่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 1,000 คน ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและจังหวัดเชียงใหม่ ถือว่ามีความรุนแรงมาก โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการเผาในที่โล่งและไอเสียรถยนต์ รวมทั้งสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดปัญหาขึ้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะการรณรงค์ลดการเผาในที่โล่งทุกชนิด ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เห็นได้จากการที่สถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการจัดสัมมนาในครั้งนี้ก้เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้ผลเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีการถ่ายโอนภารกิจของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้มาอยู่ในความดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ทางกระทรวง โดยองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์มีความพร้อมอย่างเต็มที่อยู่แล้วในการจะเข้าไปดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
โดยเฉพาะองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น ก็มีความชำนาญในการดูแลสัตว์อยู่แล้ว หากการถ่ายโอนความรับผิดชอบเมื่อใดก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที ซึ่งหากได้เข้าไปดูแล ในเบื้องต้นคงจะต้องมีการสำรวจตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่ยังขาดตกบกพร่องหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น
สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการจะเป็นอย่างไรนั้น ที่ผ่านมาได้มีการปรึกษาหารือและพิจารณาความเหมาะสมมาตลอด แต่คงต้องรอให้การถ่ายโอนเรียบร้อยเสียก่อนทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจนขึ้น ในส่วนกรณีที่กลุ่ม ส.ส.เชียงใหม่ จะร่วมลงชื่อเพื่อขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ถ่ายเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมาอยู่ในความดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น เห็นว่าการตัดสินใจในเรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี
นอกจากนี้ นางอนงค์วรรณกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบที่ดินเขายายเที่ยงว่า ที่ผ่านมากว่า 1 ปี ได้มีการรวบรวมข้อมูลมาโดยตลอด ซึ่งน่าจะมีข้อมูลมากในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากนี้ก็คงจะมีการดำเนินการต่อยอดจากข้อมูลดังกล่าว คาดว่าทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆ นี้
ส่วนกรณีการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำลังให้ความสำคัญอยู่นั้นในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ในความรับผิดชอบของตัวเองเช่นกัน หากพบมีการบุกรุกก็ให้ดำเนินการทันที
ด้าน นายอภิวัฒน์ คุณารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 (เชียงใหม่ ) กล่าวว่า แม้สภาพโดยทั่วไปของตัวเมืองเชียงใหม่ในเวลานี้จะถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน แต่จากข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบว่า คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานและอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
โดยที่ล่าสุดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 นั้น อยู่ในระดับประมาณ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้สภาพหมอกควันที่เป็นอยู่ในเวลานี้นั้นน่าจะเป็นเพราะการหักเหของแสงมากกว่า ส่วนการรณรงค์ลดการเผาในที่โล่งนั้น ยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น