xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่เตรียมประกาศเตือนอากาศวิกฤต-สารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อากาศเชียงใหม่ส่อเค้าวิกฤต หลังรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานี 3 แห่งของกรมควบคุมมลพิษ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก และค่าดัชนีคุณภาพค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงเช้าวันนี้ (6 มี.ค.) เกินมาตรฐานเป็นครั้งแรกในรอบปี 2551 และอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่จังหวัดเตรียมออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ ให้ประชาชนรับทราบ เพื่อป้องกันตัวและเกิดความตระหนักช่วยกันป้องกันปัญหา

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า แม้ว่าตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่จะได้มีการรณรงค์ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการป้องกันการเกิดปัญหาหมอกควันและวิกฤตคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการประกาศให้ปัญหาหมอกควันและมลพิษอากาศเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ มีการตั้งเป้าหมายด้วยว่าในปี 2551 นี้ จะไม่ให้มีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้น โดยมีหนึ่งในตัวชี้วัดคือจะไม่ให้มีวันใดที่มีสารปนเปื้อน โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ในอากาศที่ตรวจวัดได้เกินค่ามาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ของกรมควบคุมมลพิษ ที่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบถาวรจำนวน 2 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย รวมทั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ ที่เพิ่งจะมีการนำมาติดตั้งอยู่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และเริ่มใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่าค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ ที่ตรวจวัดจากทั้ง 3 สถานี ณ เวลา 09.00 น.วันนี้เกินกว่าค่ามาตรฐานทั้งสิ้น

ที่สถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่า AQI เท่ากับ 104 ส่วนที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 144.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่า AQI เท่ากับ 111

ด้านสถานพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 126.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่า AQI เท่ากับ 103 ขณะที่สภาพทั่วไปของตัวเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (6 มี.ค.) นั้น เมื่อมองด้วยตาเปล่าเห็นได้ชัดว่า ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจนมองไม่เห็นยอดดอยสุเทพเหมือนปกติ

ทั้งนี้ ตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษนั้น มีการกำหนดว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ว่าจะต้องมีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ มีค่ามาตรฐานไม่เกิน 100

ค่าคุณภาพอากาศที่ตรวจวัดได้นั้น หากสูงเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้มากเท่าใด ย่อมหมายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพที่มากขึ้น โดยค่า AQI ที่อยู่ระหว่าง 101-200 ตามการกำหนดความหมายของกรมควบคุมมลพิษ หมายถึงระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีการระบุแนวทางป้องกันผลกระทบว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังภายนอกอาคาร บุคคลทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน

ด้านนายสัญญา ทุมตะขบ นักวิชาการสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่า AQI ที่ตรวจวัด ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) เป็นครั้งแรกในปี 2551 ที่ตรวจพบว่ามีค่าเกินมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ โดยสาเหตุที่ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินมาตรฐานและสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันนั้น มาจากความกดอากาศสูงที่ปกคลุมพื้นที่

ประกอบกับมีลมจากทางด้านทิศใต้พัดพาเอาควันไฟจากการเผาในจังหวัดใกล้เคียงขึ้นมาสะสมอยู่ภายในแอ่งเชียงใหม่-ลำพูนด้วย ทั้งนี้ล่าสุดได้มีการร่างประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์คุณภาพอากาศให้ประชาชนรับทราบ เพื่อป้องกันตัวเองและมีความตื่นตัวที่ช่วยกันลดการเผา รวมทั้งลดการก่อมลพิษอากาศทุกชนิด โดยจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ลงนาม ซึ่งหากไม่มีสิ่งใดขัดข้องน่าจะมีการประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบภายในวันนี้ (6 มี.ค.) เลย

นอกจากนี้ จะมีการประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้ระดมรถบรรทุกน้ำทำการฉีดพ่นเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง และควบคุมไม่ให้มีการเผาทุกชนิด ส่วนผู้ที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งเดกและคนชรา แนะนำว่าในช่วงนี้ควรงดออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่แย่ลง

อนึ่ง สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นั้น เคยประสบกับปัญหาวิกฤตหมอกควันและมลพิษอากาศอย่างหนักมาแล้วในช่วงเดือนมีนาคม 2550 ที่ผ่านมา โดยเกือบตลอดทั้งเดือนดังกล่าวตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ปนเปื้อนในอากาศเกินค่ามาตรฐานเกือบทุกวัน และมีหลายวันที่ตรวจพบว่ามีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินกว่าค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ 2-3 เท่าตัว โดยเฉพาะในวันที่ 14 มี.ค.50 ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กปนเปื้อนในอากาศได้สูงสุดถึง 303.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากปัญหาหมอกควันและคุณภาพอากาศที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นมีความรุนแรงจนเข้าขั้นวิกฤต และทำให้จังหวัดเชียงใหม่ต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหมอกควัน
กำลังโหลดความคิดเห็น