ผู้จัดการรายวัน - ไออาร์พีซีชี้ค่าการกลั่นเฉลี่ยปีนี้ต่ำกว่า 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ผลพวงจากตรึงราคาแอลพีจีและดีเซลต่ำกว่าตลาดโลก ขณะที่โรงกลั่นธรรมดาได้น้ำมันเตาสูงฉุดมาร์จินยิ่งหด จับตาไตรมาส 2 สหรัฐฯลดการนำเข้าเบนซินในภูมิภาคนี้ ทำให้น้ำมันเบนซินท่วมตลาดเอเชียสวนทางน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 เหรียญ
นายสุพล ทับทิมจรูญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหารและแผนธุรกิจ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการกลั่น(GRM)เฉลี่ยของธุรกิจโรงกลั่นในไทยปีนี้น่าจะต่ำกว่า 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากรัฐมีนโยบายตรึงราคาขายก๊าซหุงต้มไว้ที่ 320 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ตลาดโลกสูงถึง 822 เหรียญสหรัฐ/ตัน และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการไว้ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงถึง 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นอกจากนี้ ในกระบวนการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันแบบSimple Refinery จะได้น้ำมันเตาสัดส่วนที่สูง ซึ่งราคาน้ำมันเตาต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบค่อนข้างมาก ทำให้โรงกลั่นประเภทนี้ได้น้ำมันเตามากฉุดค่าการกลั่นต่ำ โดยล่าสุดราคาน้ำมันเตาต่ำกว่าน้ำมันดิบถึง 17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สิ่งที่น่าวิตกคือในช่วงไตรมาส 2 นี้ ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯจะหดตัวลง เนื่องจากปัญหาซับไพร์มทำให้การท่องเที่ยวหดตัวลง ทำให้ไม่ต้องนำเข้าเบนซินจากภูมิภาคเอเชียขณะเดียวกันโรงกลั่นอินเดียจะมีกำลังการกลั่นใหม่เข้ามาเพื่อป้อนในประเทศ ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียล้นตลาดได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกของจีนหลังพ้นงานกีฬาโอลิมปิคจะเปลี่ยนแปลงลดลงหรือไม่อย่างไร คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมรับมือจากเหตุการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว โดยหันไปส่งออกเม็ดพลาสติกที่สหภาพยุโรป อเมริกาใต้และแอฟริกาใต้มากขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ได้จากการผลิตก็ป้อนให้ปตท.
นายสุพล กล่าวต่อไปว่า จากค่าการกลั่นที่ปรับตัวลดลงนี้ในช่วงนี้ ทำให้บริษัทฯไม่มั่นใจว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA)ได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วตามนโยบายคณะกรรมการบริษัทฯที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายใต้สถานการณ์ความผันผวนด้านพลังงานโลก ในปีที่แล้ว ค่าการกลั่นของบริษัทฯอยู่ที่ระดับ 11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ล่าสุดราคาเอทิลีนในตลาดจรได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากมีปริมาณเอทิลีนจากโรงโอเลฟินส์ในอิหร่านทะลักเข้ามาในตลาดทำให้ราคาลดลงจาก 1,300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลงมาเหลือ 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ราคาเม็ดพลาสติกยังดีอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเอทิลีนที่ผลิตได้นำมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกแล้วจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ขณะนี้ บริษัทฯกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์จากที่ดินเปล่าของบริษัทฯที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมองถึงการทำนิคมอุตสาหกรรมแบบคลัสเตอร์ อินดัสตรี เหมือนนิคมฯแหลมฉบัง รวมทั้งปัดฝุ่นโครงการเอทานอล เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
นายสุพล ทับทิมจรูญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหารและแผนธุรกิจ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการกลั่น(GRM)เฉลี่ยของธุรกิจโรงกลั่นในไทยปีนี้น่าจะต่ำกว่า 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากรัฐมีนโยบายตรึงราคาขายก๊าซหุงต้มไว้ที่ 320 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ตลาดโลกสูงถึง 822 เหรียญสหรัฐ/ตัน และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการไว้ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงถึง 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นอกจากนี้ ในกระบวนการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันแบบSimple Refinery จะได้น้ำมันเตาสัดส่วนที่สูง ซึ่งราคาน้ำมันเตาต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบค่อนข้างมาก ทำให้โรงกลั่นประเภทนี้ได้น้ำมันเตามากฉุดค่าการกลั่นต่ำ โดยล่าสุดราคาน้ำมันเตาต่ำกว่าน้ำมันดิบถึง 17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สิ่งที่น่าวิตกคือในช่วงไตรมาส 2 นี้ ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯจะหดตัวลง เนื่องจากปัญหาซับไพร์มทำให้การท่องเที่ยวหดตัวลง ทำให้ไม่ต้องนำเข้าเบนซินจากภูมิภาคเอเชียขณะเดียวกันโรงกลั่นอินเดียจะมีกำลังการกลั่นใหม่เข้ามาเพื่อป้อนในประเทศ ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียล้นตลาดได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกของจีนหลังพ้นงานกีฬาโอลิมปิคจะเปลี่ยนแปลงลดลงหรือไม่อย่างไร คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมรับมือจากเหตุการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว โดยหันไปส่งออกเม็ดพลาสติกที่สหภาพยุโรป อเมริกาใต้และแอฟริกาใต้มากขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ได้จากการผลิตก็ป้อนให้ปตท.
นายสุพล กล่าวต่อไปว่า จากค่าการกลั่นที่ปรับตัวลดลงนี้ในช่วงนี้ ทำให้บริษัทฯไม่มั่นใจว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA)ได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วตามนโยบายคณะกรรมการบริษัทฯที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายใต้สถานการณ์ความผันผวนด้านพลังงานโลก ในปีที่แล้ว ค่าการกลั่นของบริษัทฯอยู่ที่ระดับ 11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ล่าสุดราคาเอทิลีนในตลาดจรได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากมีปริมาณเอทิลีนจากโรงโอเลฟินส์ในอิหร่านทะลักเข้ามาในตลาดทำให้ราคาลดลงจาก 1,300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลงมาเหลือ 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ราคาเม็ดพลาสติกยังดีอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเอทิลีนที่ผลิตได้นำมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกแล้วจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ขณะนี้ บริษัทฯกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์จากที่ดินเปล่าของบริษัทฯที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมองถึงการทำนิคมอุตสาหกรรมแบบคลัสเตอร์ อินดัสตรี เหมือนนิคมฯแหลมฉบัง รวมทั้งปัดฝุ่นโครงการเอทานอล เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
