xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ปรับดีเซลเชลล์ขยับ 50 สต. โรงงานปลาจ่อปิดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ปตท.-บางจาก" ขึ้นราคาน้ำมันดีเซลตามค่ายอื่นๆ หลังอั้นได้ไม่กี่วัน ส่วน “เชลล์” ขยับหนีขึ้นราคาดีเซลอีก 50 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาแตะ 31.44 บาทต่อลิตร เมินลูกค้าแห่ไปเติมดีเซลที่ปั๊ม ปตท.-บางจาก ขณะที่โรงงานปลาป่น ปลากระป๋องส่อวิกฤติเริ่มปิดกิจการปัญหาปิดน่านน้ำผสมโรงดีเซลแพง “มิ่งขวัญ” เตรียมเรียประชุม กกร.ออกระเบียบห้ามส่งออกหมู 19 มี.ค.นี้ ผู้เลี้ยงสุกรค้านนโยบายเพราะมีการทำสัญญาไว้ล่วงหน้า ส่วนห้างค้าปลีกแจงขายสินค้าลดราคาไม่จำเป็นต้องโชว์ธงฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 มี.ค.) ปตท.และบางจากฯ ได้ตัดสินใจประกาศปรับขึ้นราคาดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันนี้ (18 มี.ค.) เพื่อหวังให้ราคาน้ำมันขายปลีกเท่ากับบริษัทน้ำมันค่ายอื่นๆ ที่ได้มีการปรับขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้ โดยราคาดีเซลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 30.94 บาท/ลิตร ส่วนไบโอดีเซล บี 5 อยู่ที่ 30.24 บาท/ลิตร

สาเหตุหลักที่ทั้ง ปตท.และบางจากปรับขึ้นเนื่องจากราคาต่ำกว่ารายอื่นๆ อยู่ 50 สตางค์ต่อลิตรมีผลให้ประชาชนหันไปเติมดีเซลของทั้งสองปั๊มจำนวนมากโดยเฉพาะของ ปตท.ที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ จนทำให้ปริมาณน้ำมันไม่เพียงพอ โดยยอดขายของปตท.เพิ่มขึ้นจาก 15 ล้านลิตร เป็น 30 ล้านลิตรต่อวัน นอกจากนี้ จากที่ราคาดีเซลสิงคโปร์ที่ปิดตลาดวันศุกร์ ที่ 131.64 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือเพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ก็ทำให้ค่าการตลาดดีเซลติดลบเกือบ 2 บาทต่อลิตร และการซื้อขายในช่วงเช้าของวันที่ 18 มี.ค.น้ำมันดิบตลาดเอเชียยังคงเพิ่มขึ้นอีก

รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัทเชลล์ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์มีผลวันนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกของเชลล์สูงกว่า ปตท.และบางจากอยู่ลิตรละ 50 สตางค์ มาอยู่ที่ลิตรละ 31.44 บาท เนื่องจากค่าการตลาดที่ต่ำทำให้ต้องปรับราคาขายปลีกไป ซึ่งการปรับราคาของเชลล์ครั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้รถยังคงแห่เติมน้ำมันดีเซลของค่ายปตท.และบางจากมากเช่นเดิม เนื่องจากถูกกว่าบริษัทน้ำมันค่ายอื่นๆอยู่ลิตรละ 50 สตางค์

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า แนวโน้มดีเซลสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสปรับขึ้นอีกสูงเพราะเฉลี่ยค่าการตลาดยังติดลบ 50-60 สตางค์ต่อลิตรขณะที่ทิศทางน้ำมันดิบตลาดเอเชียวันที่ 17 มี.ค.ก็ยังสูงเหนือระดับ 110 เหรียญต่อบาร์เรล ดังนั้นน้ำมันโลกยังคงไม่ปรับลดลงง่ายนักเพราะต้องรอดูทิศทางเฟดปรับลดดอกเบี้ยในวันที่ 18 มี.ค.นี้เป็นสำคัญ

รง.ปลาป่นวิกฤติทยอยปิดอื้อ

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากปัญหาการปิดน่านน้ำของอินโดนีเซียและราคาดีเซลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ขณะนี้ส.อ.ท.ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ผลิตปลาป่นว่ากำลังประสบภาวะวิกฤติอย่างหนักในการขาดแคลนปลาที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตทำให้โรงานปลาป่นที่เดิมมีกำลังการผลิต 1,240 ตันต่อวันเหลือเพียง 150-200 ตันต่อวันเท่านั้นทำให้โรงงานจำนวนมากได้หยุดผลิตแล้วขณะเดียวกันปัญหาดังกล่าวกำลังจะลามไปยังผู้ผลิตปลากระป๋องด้วยซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมรายละเอียดปัญหาอยู่และคาดว่าจะนำปัญหาดังกล่าวหารือในระหว่างการเข้าพบของคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบันหรือกกร.กับนายกรัฐมนตรีวันที่ 25 มี.ค.นี้

วิตกดีเซลพุ่งดันราคาสินค้า

สำหรับปัญหาราคาน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลที่ราคาสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรที่เป็นต้นทุนการผลิตและขนส่ง รวมถึงผลกระทบทางอ้อมต่อวัตถุดิบหลายรายการเช่นแพคเกจจิ้ง จะมีผลกระทบต่อต้นทุนรวมของภาคการผลิตและจะมีผลให้ต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มอีกได้แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามดูแลราคาสินค้าแล้วแต่เอกชนเองก็คงไม่สามารถการันตีได้ว่าจะรับภาระได้นานเพียงใดดังนั้นผู้บริโภคเองก็ควรจะต้องระมัดระวังการใช้จ่ายในภาวะของแพง

“ที่ผ่านมาผลสำรวจส่วนใหญ่ 39 กลุ่มอุตสาหกรรมส.อ.ท.มองว่าดีเซล 30 บาทต่อลิตรก็แย่แล้วแต่นี่เลยไปแล้วก็ต้องมาดูว่าจะเป็นอย่างไรเร็วๆ นี้คงจะต้องทำการสำรวจใหม่ว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไรบ้าง”นายสันติ กล่าว

“มิ่งขวัญ” ห้ามส่งออกหมู 19 มี.ค.นี้

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วานนี้ (17 มี.ค.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ยังไม่ได้มีการลงนามคำสั่งและออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งออกสุกรไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากนายมิ่งขวัญต้องการให้มีกฎหมายรองรับ จึงนัดประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อให้กกร.เห็นชอบและประกาศใช้ระเบียบดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายมิ่งขวัญจะยังไม่ได้ออกประกาศห้ามส่งออกหมู แต่รายงานข่าวแจ้งว่า นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามและดูแลการเคลื่อนย้ายสุกรโดยเฉพาะจังหวัดชายแดน 26 จังหวัดอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้ขอความร่วมมือกรมปศุสัตว์และพื้นที่ต่างๆ เฝ้าติดตาม เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบนำสุกรเป็นส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า หลัง กกร. มีมติเห็นชอบห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกพื้นที่โดยเฉพาะการส่งออกจะมีผลทันที รวมถึงกรณีที่จะมีการเคลื่อนย้ายสุกรจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง จะต้องทำเรื่องแจ้งให้พาณิชย์จังหวัดทราบก่อน โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อให้สถานการณ์สุกรในประเทศมีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคและไม่ให้เกิดการขาดแคลน

ผู้เลี้ยงหมูค้านนโยบายห้ามส่งออก

แหล่งข่าวจากผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดชลบุรี กล่าวกล่าวถึงนโยบายการห้ามส่งออกหมูไปยังประเทศเพื่อนบ้านว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีเกษตรกรบางรายที่ได้ทำสัญญาที่จะส่งหมูออกไปจำหน่าย ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อคู่สัญญาและผู้เลี้ยงที่ได้ตกลงกันไว้ สำหรับการมาแทรกแซงกลไกตลาด ด้วยการบังคับให้ลดราคาหมูนั้นผู้เลี้ยงต้องแบกรับภาระต้นทุนอาหารสัตว์ และต้นทุนลูกหมูที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาตามราคาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคเองมีทางเลือกเสมอ ซึ่งหากเนื้อหมูมีราคาแพง ผู้บริโภคก็จะเปลี่ยนไปซื้อเนื้อไก่หรือปลาแทนได้

“การแก้ปัญหาด้วยการเข้ามาแทรกแซงราคานั้นไม่ถูก กรมการค้าภายในควรมี แผนระยะยาว ไม่เคยมองภาพรวมของการค้าทั้งระบบ สนใจเฉพาะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น” แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

ห้างค้าปลีกชี้ขายสินค้าถูกไม่ต้องมีธงฟ้า

แหล่งข่าวจากห้างค้าบิ๊กซี เปิดเผยว่าขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ให้จำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับผู้บริโภค ซึ่งห้างค้าปลีกส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือในการจำหน่ายสินค้าจำเป็น รวมทั้งหมูตามราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ถึงแม้กรมการค้าภายในไม่ได้ขอความร่วมมือมา ทางห้างค้าปลีกส่วนใหญ่ก็ขายต่ำกว่าราคาป้ายสินค้าอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีการปักธงฟ้า เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่จะพิจารณาจากราคาป้ายสินค้าหรือดูจากการส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาของห้างค้าปลีกอยู่แล้ว

“กระทรวงพาณิชย์อย่างไปคำนึงถึงว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ต้องปักธงฟ้า ซึ่งเป็นการมุ่งประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ขอให้มุ่งเรื่องการกระจายสินค้าราคาประหยัดให้ผู้บริโภคอย่างทั่วถึง และพยายามลดพ่อค้าคนกลางลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนราคาสินค้าได้ “แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น