ททท. งัดโครงการเก่ามาปัดฝุ่น หลังราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง จับมือสมาคมด้านการท่องเที่ยวในประเทศ จัดเส้นทาง พร้อมโปรโมตให้เดินทางเที่ยวเป็นหมู่คณะแทนการขับรถท่องเที่ยวเอง เพื่อประหยัดน้ำมัน นายก สทน. ระบุ ททท.ต้องช่วยกระตุ้นด้วยการประชาสัมพันธ์ และสร้างแคมเปญกระตุ้นตลาดให้คึกคัก สร้างบรรยากาศให้คนไทยเที่ยว
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากภาวะราคาน้ำมันแพง ททท.จึงได้หารือกับสมาคมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ อาทิ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เป็นต้น เพื่อหารือแนวทางการกระตุ้นตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ให้หันมาเดินทางท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะ โดยใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งจะช่วยให้คนคนไทยประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันก็ช่วยบริษัทนำเที่ยวมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นของการหารือ ทางสมาคมท่องเที่ยวจะไปจัดเส้นทางการท่องเที่ยว เป็นรูปแบบแพกเกจทัวร์นำเที่ยวในราคาสมเหตุสมผล มานำเสนอแก่นักท่องเที่ยว คาดว่าหลังวันที่ 18 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 48 ปี ททท. จะสามารถเปิดเผยได้ว่า มีเส้นทางใดบ้าง พร้อมเริ่มจำหน่ายผ่านบริษัทนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคม
สำหรับเส้นทางนำเที่ยว จะรวบรวมจาก เส้นทางท่องเที่ยวที่ ททท.ได้จัดทำไว้ในโครงการต่างๆ เช่น 48 เส้นทางความสุข , 108 เส้นทางออมบุญ และ 101 หมู่บ้านอีสาน เป็นต้น กลุ่มเป้าหมาย จะกระจายให้หลากหลาย ทั้ง ครอบครัว วัยทำงาน และผู้สูงวัย
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า การโปรโมตให้เดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ผ่านบริษัทนำเที่ยว ททท.ได้เคยดำเนินการมาแล้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อน ช่วงที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นในช่วงแรกๆ ซึ่งได้ผลบ้าง ในบางกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่ตลาดคนไทยก็ยังนิยมขับขี่รถยนต์เที่ยวด้วยตัวเองมากกว่า โดยเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเที่ยวในระยะทางใกล้ แบบเช้าไปเย็นกลับ เพราะมองว่าการเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวก็ยังมีราคาสูงกว่า ดังนั้น หาก นำโครงการนี้กลับมาใช้ จะต้องเป็นราคาที่จูงใจมากพอสมควร ในภาวะ ที่ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นขณะนี้
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ภาวะราคาน้ำมันแพง จะกระทบตลาดนักท่องเที่ยวตลาดระดับกลางลงมา อาจทำให้การขับรถเพื่อท่องเที่ยวชะลอลงไปบ้าง ซึ่งโครงการขับรถไปเป็นหมู่คณะ หรือ แบบกรุ๊ปทัวร์ ขนาดไม่ใหญ่มาก น่าจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวได้มากกว่า ซึ่ง สทน. ได้หารือเบื้องต้นกับ ททท.แล้ว แต่คงต้องคุยในรายละเอียดอีกครั้ง ว่าจะมีเส้นทางใดบ้าง และ ททท. จะช่วยสนับสนุนในส่วนใด เช่น เรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือแคมเปญ อื่นๆ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้โครงการนี้
สำหรับการโปรโมตให้ปี 2551-2553 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสาน ที่ ททท.เตรียมจัดทำขึ้นนั้น เชื่อว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะปัจจุบัน การไปภาคอีสานก็จะสามารถต่อเลยไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในคราวเดียวกัน เพราะถนนที่เชื่อมต่อสร้างเสร็จหลายเส้นทางแล้ว ทั้งอีสานเหนือและอีสานใต้ ขณะเดียวกัน ในสภาพอากาศที่ไม่ร้อนมาก สลับกับมีฝนตก จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวสบายขึ้น นักท่องเที่ยวไม่เหนื่อยมาก
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากภาวะราคาน้ำมันแพง ททท.จึงได้หารือกับสมาคมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ อาทิ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เป็นต้น เพื่อหารือแนวทางการกระตุ้นตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ให้หันมาเดินทางท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะ โดยใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งจะช่วยให้คนคนไทยประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันก็ช่วยบริษัทนำเที่ยวมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นของการหารือ ทางสมาคมท่องเที่ยวจะไปจัดเส้นทางการท่องเที่ยว เป็นรูปแบบแพกเกจทัวร์นำเที่ยวในราคาสมเหตุสมผล มานำเสนอแก่นักท่องเที่ยว คาดว่าหลังวันที่ 18 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 48 ปี ททท. จะสามารถเปิดเผยได้ว่า มีเส้นทางใดบ้าง พร้อมเริ่มจำหน่ายผ่านบริษัทนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคม
สำหรับเส้นทางนำเที่ยว จะรวบรวมจาก เส้นทางท่องเที่ยวที่ ททท.ได้จัดทำไว้ในโครงการต่างๆ เช่น 48 เส้นทางความสุข , 108 เส้นทางออมบุญ และ 101 หมู่บ้านอีสาน เป็นต้น กลุ่มเป้าหมาย จะกระจายให้หลากหลาย ทั้ง ครอบครัว วัยทำงาน และผู้สูงวัย
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า การโปรโมตให้เดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ผ่านบริษัทนำเที่ยว ททท.ได้เคยดำเนินการมาแล้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อน ช่วงที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นในช่วงแรกๆ ซึ่งได้ผลบ้าง ในบางกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่ตลาดคนไทยก็ยังนิยมขับขี่รถยนต์เที่ยวด้วยตัวเองมากกว่า โดยเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเที่ยวในระยะทางใกล้ แบบเช้าไปเย็นกลับ เพราะมองว่าการเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวก็ยังมีราคาสูงกว่า ดังนั้น หาก นำโครงการนี้กลับมาใช้ จะต้องเป็นราคาที่จูงใจมากพอสมควร ในภาวะ ที่ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นขณะนี้
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ภาวะราคาน้ำมันแพง จะกระทบตลาดนักท่องเที่ยวตลาดระดับกลางลงมา อาจทำให้การขับรถเพื่อท่องเที่ยวชะลอลงไปบ้าง ซึ่งโครงการขับรถไปเป็นหมู่คณะ หรือ แบบกรุ๊ปทัวร์ ขนาดไม่ใหญ่มาก น่าจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวได้มากกว่า ซึ่ง สทน. ได้หารือเบื้องต้นกับ ททท.แล้ว แต่คงต้องคุยในรายละเอียดอีกครั้ง ว่าจะมีเส้นทางใดบ้าง และ ททท. จะช่วยสนับสนุนในส่วนใด เช่น เรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือแคมเปญ อื่นๆ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้โครงการนี้
สำหรับการโปรโมตให้ปี 2551-2553 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสาน ที่ ททท.เตรียมจัดทำขึ้นนั้น เชื่อว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะปัจจุบัน การไปภาคอีสานก็จะสามารถต่อเลยไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในคราวเดียวกัน เพราะถนนที่เชื่อมต่อสร้างเสร็จหลายเส้นทางแล้ว ทั้งอีสานเหนือและอีสานใต้ ขณะเดียวกัน ในสภาพอากาศที่ไม่ร้อนมาก สลับกับมีฝนตก จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวสบายขึ้น นักท่องเที่ยวไม่เหนื่อยมาก