ผู้จัดการรายวัน – อิมแพ็คฯ เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ ทุ่ม 30 ล้านบาท ผุดบริการขายตั๋วครบวงจร ยึดลูกค้ากลุ่มเดียวกับไทยทิกเก็ตโดยตรง มั่นใจศักยภาพด้านเซอร์วิสสู้ได้ พร้อมชูกลยุทธ์ด้านเมมเบอร์เข้าช่วย คาดสิ้นปีทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจรับจัดงานซึ่งมีสถานที่จัดงานเป็นของตัวเอง ล่าสุดทางบริษัทฯมีความต้องการที่จะเพิ่มบริการที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวชมงาน หรือดูคอนเสิร์ตที่อิมแพ็คฯมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการเป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรแบบครบวงจรขึ้นมา เรียกว่า โทเทิ่ล เรสเซอร์เวชั่น เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายทั่วไปด้วย โดยหวังว่าบริการดังกล่าวจะช่วยต่อยอดให้ลูกค้าเลือกใช้บริการการจองด้านอื่นๆอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจองที่จอดรถ หรือร้านอาหาร เชื่อว่าบริการนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาทในสิ้นปี ซึ่งถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งที่สำคัญของทางอิมแพ็คฯ
“บริการขายตั๋วนี้ จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชอบดูคอนเสิร์ตเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เล่นที่อยู่ในตลาดนี้ก่อนแล้ว คือ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ แต่ทั้งนี้มองว่า การบริการที่ทางอิมแพ็คได้เตรียมไว้ เช่น กลยุทธ์เมมเบอร์ สะสมแต้มเพื่อใช้เป็นส่วนลดและรับสิทธิพิเศษในการใช้บริการครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีเมมเบอร์ในปีแรกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน รวมถึงบริการพริ้นท์ตั๋วได้เองที่บ้าน และการประชาสัมพันธ์ทีใช้งบกว่า 10 ล้านบาท จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญที่จะทำให้แข่งขันในตลาดนี้ได้”
บริษัทฯใช้งบประมาณลงทุนตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท เช่น ด้านระบบฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ที่ซื้อมาจากประเทศแคนาดา มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และเคาน์เตอร์บริการ อีก 10 สาขา ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และเดอะมอลล์ รวมถึงเอาท์เลทอีก 2 สาขา คือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต และอนุสาวรีย์ฯ
ยังมีแผนขยายเคาน์เตอร์เพิ่มในลักษณะร่วมกับพาร์ทเนอร์ ขณะนี้เจรจาอยู่ 1 ราย เป็นกลุ่มธุรกิจสเตชั่นเนอรี ที่มีสาขาอยู่ในโมเดิร์นเทรดกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เริ่มจากกรุงเทพฯเป็นหลักและตามหัวเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการในรูปแบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.totalreservation.com โดยลูกค้าจะเสียค่าบริการเพิ่มจากราคาจำหน่ายบัตรปกติอีก 20 บาท เชื่อว่าจะสามารถคืนทุนได้ใน 5 ปี
สำหรับรายละเอียดรูปแบบการให้บริการจำหน่ายบัตรครบวงจรครั้งนี้ ประกอบด้วย 6 บริการ คือ จำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินทั่วโลก, บริการสำรองที่พักโรงแรม รีสอร์ตทั่วโลก, บริการสำรองรถโดยสาร ลีมูซีน รถเช่า รถโคช, บริการจำหน่ายแพ็คเก็จทัวร์ ท่องเที่ยว, บริการจำหน่ายบัตรชมการแสดงทุกประเภท และบริการจำหน่ายบัตรเข้างานต่างๆ
ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวบริการ โทเทิ่ล เรสเซอร์เวชั่น อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตถึง 4 งาน โดยก่อนหน้านี้ได้ทดลองเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนส.ค.2550 ในกลุ่มท่องเที่ยวทั่วไป
นายพอลล์ กล่าวต่อว่า รูปแบบบริการจำหน่ายบัตรนี้ น่าจะมีการเติบโตแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่ให้บริษัทฯดูแลการจำหน่ายบัตรให้ โดยเฉพาะกลุ่มคอนเสิร์ต และท่องเที่ยวซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ รวมทั้งงานในระดับประเทศ ล่าสุดกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ที่ประเทศสิงคโปร์ในปีนี้ หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศจีน ซึ่งทางบริษัทฯกำลังดูอยู่ว่าจะสามารถเข้าไปร่วมจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันเช่นกัน
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจรับจัดงานซึ่งมีสถานที่จัดงานเป็นของตัวเอง ล่าสุดทางบริษัทฯมีความต้องการที่จะเพิ่มบริการที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวชมงาน หรือดูคอนเสิร์ตที่อิมแพ็คฯมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการเป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรแบบครบวงจรขึ้นมา เรียกว่า โทเทิ่ล เรสเซอร์เวชั่น เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายทั่วไปด้วย โดยหวังว่าบริการดังกล่าวจะช่วยต่อยอดให้ลูกค้าเลือกใช้บริการการจองด้านอื่นๆอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจองที่จอดรถ หรือร้านอาหาร เชื่อว่าบริการนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาทในสิ้นปี ซึ่งถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งที่สำคัญของทางอิมแพ็คฯ
“บริการขายตั๋วนี้ จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชอบดูคอนเสิร์ตเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เล่นที่อยู่ในตลาดนี้ก่อนแล้ว คือ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ แต่ทั้งนี้มองว่า การบริการที่ทางอิมแพ็คได้เตรียมไว้ เช่น กลยุทธ์เมมเบอร์ สะสมแต้มเพื่อใช้เป็นส่วนลดและรับสิทธิพิเศษในการใช้บริการครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีเมมเบอร์ในปีแรกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน รวมถึงบริการพริ้นท์ตั๋วได้เองที่บ้าน และการประชาสัมพันธ์ทีใช้งบกว่า 10 ล้านบาท จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญที่จะทำให้แข่งขันในตลาดนี้ได้”
บริษัทฯใช้งบประมาณลงทุนตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท เช่น ด้านระบบฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ที่ซื้อมาจากประเทศแคนาดา มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และเคาน์เตอร์บริการ อีก 10 สาขา ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และเดอะมอลล์ รวมถึงเอาท์เลทอีก 2 สาขา คือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต และอนุสาวรีย์ฯ
ยังมีแผนขยายเคาน์เตอร์เพิ่มในลักษณะร่วมกับพาร์ทเนอร์ ขณะนี้เจรจาอยู่ 1 ราย เป็นกลุ่มธุรกิจสเตชั่นเนอรี ที่มีสาขาอยู่ในโมเดิร์นเทรดกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เริ่มจากกรุงเทพฯเป็นหลักและตามหัวเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการในรูปแบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.totalreservation.com โดยลูกค้าจะเสียค่าบริการเพิ่มจากราคาจำหน่ายบัตรปกติอีก 20 บาท เชื่อว่าจะสามารถคืนทุนได้ใน 5 ปี
สำหรับรายละเอียดรูปแบบการให้บริการจำหน่ายบัตรครบวงจรครั้งนี้ ประกอบด้วย 6 บริการ คือ จำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินทั่วโลก, บริการสำรองที่พักโรงแรม รีสอร์ตทั่วโลก, บริการสำรองรถโดยสาร ลีมูซีน รถเช่า รถโคช, บริการจำหน่ายแพ็คเก็จทัวร์ ท่องเที่ยว, บริการจำหน่ายบัตรชมการแสดงทุกประเภท และบริการจำหน่ายบัตรเข้างานต่างๆ
ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวบริการ โทเทิ่ล เรสเซอร์เวชั่น อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตถึง 4 งาน โดยก่อนหน้านี้ได้ทดลองเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนส.ค.2550 ในกลุ่มท่องเที่ยวทั่วไป
นายพอลล์ กล่าวต่อว่า รูปแบบบริการจำหน่ายบัตรนี้ น่าจะมีการเติบโตแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่ให้บริษัทฯดูแลการจำหน่ายบัตรให้ โดยเฉพาะกลุ่มคอนเสิร์ต และท่องเที่ยวซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ รวมทั้งงานในระดับประเทศ ล่าสุดกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ที่ประเทศสิงคโปร์ในปีนี้ หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศจีน ซึ่งทางบริษัทฯกำลังดูอยู่ว่าจะสามารถเข้าไปร่วมจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันเช่นกัน