ผู้จัดการรายวัน - ผลตอบแทนกองทุนหุ้นเตรียมขยายตัวเพิ่ม รับฤดูกาลปันผลบริษัทจดทะเบียนรวม 245 บริษัท ประเดิมมีนาคมนี้ 101 บริษัท "ปตท"จูงบริษัทในเครือทยอยปันผล ขณะที่เมษายนคิวกลุ่มแบงก์และสื่อสาร ส่วนพฤษภาคมบริษัทขนาดกลาง -เล็ก ด้านผู้จัดการกองทุนระบุแทยทุกกองมีเครือปตท.ในพอร์ต แต่มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับนโยบายกองทุน
แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุนรายหนึ่งกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคมนี้ จะเป็นช่วงที่บริษัทจัดทะเบีบน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัททำการประกาศจ่ายปันผล โดยเฉพาะบจ.ขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงาน หรือเครือปตท. ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลให้กองทุนรวมตราสารทุนภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการลงทุนต่างๆ ที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะช่วยสร้างผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนให้เติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน
"หุ้นในกลุ่มปตท. เป็นหุ้นที่กองทุนหุ้นเกือบ 100% มีสะสมเก็บไว้ในพอร์ต ไม่ว่าจะเป็น PTT เอง หรืออาจจะเป็น PTTCH , PTTAR รวมทั้ง TOP เป็นต้น อีกทั้งในช่วงนี้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นยิ่งช่วยหุ้นให้ราคาหุ้นดีดตัว ดังนั้นถือว่ากองทุนหุ้นจะได้อานิสงส์จากเรื่องนี้รวมถึงการปันผลด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ จากบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีฟิท จำกัด ระบุว่า ในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี มักจะเป็นเทศกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนซึ่งในปี 2551 มีบริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายเงินปันผล (Dividend) รวมประมาณ 245 บริษัท โดยจะมีอยู่ 5บริษัทที่มีการให้หุ้นปันผล (Stock Dividend) นั่นก็คือ TEAM, MILL, EVER, VARO, MINT และหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลพิเศษ ก็คือ SHIN
ดังนั้นเมื่อคำนวณผลกระทบของการจ่ายเงินปันผล และหุ้นปันผลของหุ้นทั้งหมด จะพบว่า ส่งผลกระทบต่อ SET Index เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็คือ -16.93 จุด (คำนวณโดยเปรียบเทียบจากราคาปิด ณ วันที่ 7มีนาคม 2551) โดยสามารถแยกเป็นผลกระทบรายเดือนได้คือ เดือนมีนาคม ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -8.55 จุด ขณะที่เดือนเมษายน ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -7.92 จุด และเดือนพฤษภาคม ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -0.46 จุด แต่ในเชิงกลยุทธ์ มองว่า ผลกระทบจากการจ่ายปันผล และหุ้นปันผล ไม่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index มากนักเมื่อเทียบกับปัจจัยลบทางการเมือง และเศรษฐกิจ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเป็นปัจจัยบวก ด้วยมุมมองนี้ จึงยังคงแนะนำว่า “การลุ้นซื้อหุ้นที่จ่ายเงินปันผล อาจจะไม่คุ้มกับส่วนต่างราคาหุ้นที่อาจจะปรับตัวลงมา ด้วยเหตุนี้ จึงยังเน้นการถือเงินสด และรอดูสถานการณ์
สำหรับ การจ่ายเงินปันผล เดือน มีนาคม 2551 จะ มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 101 บริษัท และในนี้ยังมีบริษัทที่จ่ายหุ้นปันผลอีก 1 บริษัท ก็คือ TEAM สำหรับหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณมากก็คือ PTT, PTTEP, PTTAR, PTTCH, TOP และ IRPC ส่วนการจ่ายเงินปันผล เดือน เมษายน 2551 มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 125 บริษัท และมีบริษัทที่จ่ายหุ้นปันผลอีก 3 บริษัท คือ MILL ,EVER และ VARO นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่จ่ายเงินปันผลพิเศษของ SHIN โดยหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณมาก ๆ ก็คือ SCC, BBL,KBANK, SCB, ADVANC และ SHIN
ขณะที่เดือนพฤษภาคม 2551 มีบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 19 บริษัท โดยบริษัททีมีการจ่ายหุ้นปันผล ก็คือ MINT โดยมีอัตราการจ่ายหุ้นปันผลคือ อย่างไรก็ตามสำหรับเดือนนี้ ไม่ค่อยมีหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณ SETIndex จึงดูแล้วแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเลย
ทุกบลจ.เก็บหุ้นเครือปตท.
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า ในส่วนของหุ้นกลุ่มปตท.นั้นบริษัทได้เข้าไปลงทุนค่อนข้างเยอะ แต่การเข้าไปลงทุนนั้นขึ้นอยู่ว่าแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร ซึ่งถ้ากองทุนนั้นมีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล บริษัทจะไม่เลือกเข้าไปลงทุนในกลุ่มปตท.เนื่องจากหุ้นกลุ่มปตท. ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะสามารถให้ปันผลที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มปตท. ในขณะนี้ถือว่ายังมีความน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะ ปตท. สผ. ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวขึ้นทะลุไปกว่า 100 แล้ว ซึ่งถือว่าเกินคาดการณ์ที่นักวิเคราะห์ได้ทำการประเมินไว้
ขณะที่นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับหุ้นในเครือของ ปตท. นั้นถือว่าเป็นหุ้นตัวหลักในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ในส่วนของกองทุนตราสารทุนของบริษัทได้เลือกเข้าไปลงทุนในเครือ ปตท. ด้วย แต่เน้นการลงทุนในระยะยาวมากว่าที่จะหวังกำไรจากการปันผลของหุ้นกลุ่มปตท.เท่านั้น เพราะมองว่าการลงทุนในระยะยาวจะสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
ทั้งนี้บริษัทมองว่าการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีความน่าสนใจอยู่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อีกทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานยังถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มหลัก ๆ หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมจะเข้ามาลงทุน
ด้านนายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของหุ้นปตท. นั้น บริษัทได้ให้น้ำหนักในการเข้าลงทุนเกือบทุกหุ้นผ่านกองทุนตราสารทุนของบริษัท โดยบริษัทจะเข้าไปลงทุนทั้งแบบระยะยาวและแบบที่รอในการจ่ายเงินปันผลของหุ้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ต้องลงทุนทั้งสองแบบนี้ เพราะเมื่อสถาวะ
ตลาดหลักทรัพย์เริ่มนิ่ง ราคาหุ้นไม่ปรับขึ้น บริษัทยังคงได้ผลตอบแทนในรูปแบบของการจ่ายเงินปันผล แต่ถ้าหุ้นนั้นมีการปรับราคาที่สูงขึ้น ทำให้การถือหุ้นดังกล่าวไว้ในระยะยาวจะสามารถได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการจ่ายเงินปันผลของหุ้นกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย
"บริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังเป็นหุ้นตัวหลักของตลาดหลักทรัพย์ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องเลือกเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะหุ้นปตท. ถือว่าเป็นหุ้นตัวหลักของประเทศเลยทีเดียว" นายเจิดพันธุ์ กล่าว
แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุนรายหนึ่งกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคมนี้ จะเป็นช่วงที่บริษัทจัดทะเบีบน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัททำการประกาศจ่ายปันผล โดยเฉพาะบจ.ขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงาน หรือเครือปตท. ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลให้กองทุนรวมตราสารทุนภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการลงทุนต่างๆ ที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะช่วยสร้างผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนให้เติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน
"หุ้นในกลุ่มปตท. เป็นหุ้นที่กองทุนหุ้นเกือบ 100% มีสะสมเก็บไว้ในพอร์ต ไม่ว่าจะเป็น PTT เอง หรืออาจจะเป็น PTTCH , PTTAR รวมทั้ง TOP เป็นต้น อีกทั้งในช่วงนี้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นยิ่งช่วยหุ้นให้ราคาหุ้นดีดตัว ดังนั้นถือว่ากองทุนหุ้นจะได้อานิสงส์จากเรื่องนี้รวมถึงการปันผลด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ จากบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีฟิท จำกัด ระบุว่า ในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี มักจะเป็นเทศกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนซึ่งในปี 2551 มีบริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายเงินปันผล (Dividend) รวมประมาณ 245 บริษัท โดยจะมีอยู่ 5บริษัทที่มีการให้หุ้นปันผล (Stock Dividend) นั่นก็คือ TEAM, MILL, EVER, VARO, MINT และหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลพิเศษ ก็คือ SHIN
ดังนั้นเมื่อคำนวณผลกระทบของการจ่ายเงินปันผล และหุ้นปันผลของหุ้นทั้งหมด จะพบว่า ส่งผลกระทบต่อ SET Index เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็คือ -16.93 จุด (คำนวณโดยเปรียบเทียบจากราคาปิด ณ วันที่ 7มีนาคม 2551) โดยสามารถแยกเป็นผลกระทบรายเดือนได้คือ เดือนมีนาคม ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -8.55 จุด ขณะที่เดือนเมษายน ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -7.92 จุด และเดือนพฤษภาคม ส่งผลกระทบต่อ SET Index ประมาณ -0.46 จุด แต่ในเชิงกลยุทธ์ มองว่า ผลกระทบจากการจ่ายปันผล และหุ้นปันผล ไม่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index มากนักเมื่อเทียบกับปัจจัยลบทางการเมือง และเศรษฐกิจ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเป็นปัจจัยบวก ด้วยมุมมองนี้ จึงยังคงแนะนำว่า “การลุ้นซื้อหุ้นที่จ่ายเงินปันผล อาจจะไม่คุ้มกับส่วนต่างราคาหุ้นที่อาจจะปรับตัวลงมา ด้วยเหตุนี้ จึงยังเน้นการถือเงินสด และรอดูสถานการณ์
สำหรับ การจ่ายเงินปันผล เดือน มีนาคม 2551 จะ มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 101 บริษัท และในนี้ยังมีบริษัทที่จ่ายหุ้นปันผลอีก 1 บริษัท ก็คือ TEAM สำหรับหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณมากก็คือ PTT, PTTEP, PTTAR, PTTCH, TOP และ IRPC ส่วนการจ่ายเงินปันผล เดือน เมษายน 2551 มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 125 บริษัท และมีบริษัทที่จ่ายหุ้นปันผลอีก 3 บริษัท คือ MILL ,EVER และ VARO นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่จ่ายเงินปันผลพิเศษของ SHIN โดยหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณมาก ๆ ก็คือ SCC, BBL,KBANK, SCB, ADVANC และ SHIN
ขณะที่เดือนพฤษภาคม 2551 มีบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล จำนวน 19 บริษัท โดยบริษัททีมีการจ่ายหุ้นปันผล ก็คือ MINT โดยมีอัตราการจ่ายหุ้นปันผลคือ อย่างไรก็ตามสำหรับเดือนนี้ ไม่ค่อยมีหุ้นที่มีนัยสำคัญต่อการคำนวณ SETIndex จึงดูแล้วแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเลย
ทุกบลจ.เก็บหุ้นเครือปตท.
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า ในส่วนของหุ้นกลุ่มปตท.นั้นบริษัทได้เข้าไปลงทุนค่อนข้างเยอะ แต่การเข้าไปลงทุนนั้นขึ้นอยู่ว่าแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร ซึ่งถ้ากองทุนนั้นมีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล บริษัทจะไม่เลือกเข้าไปลงทุนในกลุ่มปตท.เนื่องจากหุ้นกลุ่มปตท. ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะสามารถให้ปันผลที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มปตท. ในขณะนี้ถือว่ายังมีความน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะ ปตท. สผ. ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวขึ้นทะลุไปกว่า 100 แล้ว ซึ่งถือว่าเกินคาดการณ์ที่นักวิเคราะห์ได้ทำการประเมินไว้
ขณะที่นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับหุ้นในเครือของ ปตท. นั้นถือว่าเป็นหุ้นตัวหลักในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ในส่วนของกองทุนตราสารทุนของบริษัทได้เลือกเข้าไปลงทุนในเครือ ปตท. ด้วย แต่เน้นการลงทุนในระยะยาวมากว่าที่จะหวังกำไรจากการปันผลของหุ้นกลุ่มปตท.เท่านั้น เพราะมองว่าการลงทุนในระยะยาวจะสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
ทั้งนี้บริษัทมองว่าการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีความน่าสนใจอยู่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อีกทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานยังถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มหลัก ๆ หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมจะเข้ามาลงทุน
ด้านนายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของหุ้นปตท. นั้น บริษัทได้ให้น้ำหนักในการเข้าลงทุนเกือบทุกหุ้นผ่านกองทุนตราสารทุนของบริษัท โดยบริษัทจะเข้าไปลงทุนทั้งแบบระยะยาวและแบบที่รอในการจ่ายเงินปันผลของหุ้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ต้องลงทุนทั้งสองแบบนี้ เพราะเมื่อสถาวะ
ตลาดหลักทรัพย์เริ่มนิ่ง ราคาหุ้นไม่ปรับขึ้น บริษัทยังคงได้ผลตอบแทนในรูปแบบของการจ่ายเงินปันผล แต่ถ้าหุ้นนั้นมีการปรับราคาที่สูงขึ้น ทำให้การถือหุ้นดังกล่าวไว้ในระยะยาวจะสามารถได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการจ่ายเงินปันผลของหุ้นกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย
"บริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังเป็นหุ้นตัวหลักของตลาดหลักทรัพย์ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องเลือกเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะหุ้นปตท. ถือว่าเป็นหุ้นตัวหลักของประเทศเลยทีเดียว" นายเจิดพันธุ์ กล่าว