เอเอฟพี/รอยเตอร์ - หุ้นมาเลเซียทรุดหนักกว่า 10% ภายในวันเดียว หลังผลการเลือกตั้งมาเลเซียเมื่อวันเสาร์(8)ชี้รัฐบาลชุดปัจจุบันย่ำแย่หนัก สูญที่นั่งมุขมนตรีและส.ส.จำนวนมากให้พรรคฝ่ายค้าน ตลาดหุ้นต้องพักการซื้อขาย 1 ชั่วโมง แต่เมื่อกลับมาซื้อขายหุ้นก็ยังร่วงต่อ โดยหุ้นบริษัทใกล้ชิดกับรัฐบาลหลายแห่งร่วงระนาว หวั่นฝ่ายค้านยุบโครงการขนาดใหญ่ในเมืองสำคัญๆ ด้านนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี เมินเสียงเรียกร้องให้ลาออก เข้าพิธีสาบานตนและเดินหน้าตั้งรัฐบาล
หลังตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดการซื้อขายเมื่อวานนี้(10) ดัชนีคอมโพสิตกัวลาลัมเปอร์ดิ่งลง 10% ส่งผลให้ตลาดต้องพักการซื้อขายตั้งแต่เวลา 13.58 น. - 14.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ทว่า เมื่อตลาดเปิดการซื้อขายอีกครั้ง ดัชนีคอมโพสิตกัวลาลัมเปอร์ก็ยังคงดิ่งลงอีก จนทรุดลง 10.7% อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา มีการกระเตื้องขึ้นบ้างจนปิดตลาดดัชนีดิ่งลง 9.5% กระนั้นก็ถือเป็นการดำดิ่งครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชียเมื่อปี1998 ซึ่งในครั้งนี้ ดัชนีมาเลเซียทรุดหนัก 21% ใน 1 วันทำการ
หุ้นของบริษัทโครงสร้างพื้นฐานที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลร่วงระนาว โดยหุ้นบริษัทมาเลเซียน รีซอร์ซ คอร์ป ร่วงถึง 39% หุ้นยูอีเอ็มเวิลด์ ร่วง 24% และหุ้นบริษัทซิมดาร์บี ร่วง 17% นักลงทุนหวั่นวิตกว่าฝ่ายค้านอาจยกเลิกโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในรัฐที่ฝ่ายค้านมีอำนาจ
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านที่จับมือเป็นพันธมิตรกันอย่างหลวมๆ ชนะเลือกตั้งได้ที่นั่งมุขมนตรีประจำ 5 รัฐ อันได้แก่ เกดะห์ เประ สลังงอร์ ปีนัง และกลันตัน ฝ่ายค้านขู่ว่าอาจจะทบทวนโครงการเมกกะโปรเจกต์พัฒนาเศรษฐกิจ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในรัฐเหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ อับดุลเลาะห์ประกาศโครงการดังกล่าวและพยายามทำให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของตน
เมื่อวานนี้ รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารรัฐปีนัง บ้านเกิดของอับดุลเลาะห์ กล่าวว่าจะทบทวนแผนโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้สนับสนุนรายใหญ่โครงการแห่งนี้คือ บริษัทแห่งหนึ่งที่แพทริก ลิม นักธุรกิจผู้ใกล้ชิดกับลูกของอับดุลเลาะห์ เข้าถือหุ้นบางส่วน
ทางด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็ยังไม่ยอมลงจากตำแหน่ง ตามที่มหาเธร์ โมฮาหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้อง ทั้งนี้ อับดุลเลาะห์เข้าพิธีสาบานตนต่อกษัตริย์มิซัน ไซนัล อาบิดิน แห่งมาเลเซีย ขณะที่บุคคลสำคัญในพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) นำโดยนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ลูกพรรคร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง
อนึ่ง บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ได้ทำลายการเมืองของมาเลเซียที่อิงอยู่กับกลุ่มเชื้อชาติศาสนาบางกลุ่ม โดยกลุ่มชาวจีนและชาวอินเดียซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ได้แปรพักตร์จากรัฐบาลหันไปลงคะแนนให้ฝ่ายค้าน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในอนาคตอาจเกิดระบบการเมืองแบบ 2 พรรค
หลังตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดการซื้อขายเมื่อวานนี้(10) ดัชนีคอมโพสิตกัวลาลัมเปอร์ดิ่งลง 10% ส่งผลให้ตลาดต้องพักการซื้อขายตั้งแต่เวลา 13.58 น. - 14.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ทว่า เมื่อตลาดเปิดการซื้อขายอีกครั้ง ดัชนีคอมโพสิตกัวลาลัมเปอร์ก็ยังคงดิ่งลงอีก จนทรุดลง 10.7% อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา มีการกระเตื้องขึ้นบ้างจนปิดตลาดดัชนีดิ่งลง 9.5% กระนั้นก็ถือเป็นการดำดิ่งครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชียเมื่อปี1998 ซึ่งในครั้งนี้ ดัชนีมาเลเซียทรุดหนัก 21% ใน 1 วันทำการ
หุ้นของบริษัทโครงสร้างพื้นฐานที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลร่วงระนาว โดยหุ้นบริษัทมาเลเซียน รีซอร์ซ คอร์ป ร่วงถึง 39% หุ้นยูอีเอ็มเวิลด์ ร่วง 24% และหุ้นบริษัทซิมดาร์บี ร่วง 17% นักลงทุนหวั่นวิตกว่าฝ่ายค้านอาจยกเลิกโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในรัฐที่ฝ่ายค้านมีอำนาจ
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านที่จับมือเป็นพันธมิตรกันอย่างหลวมๆ ชนะเลือกตั้งได้ที่นั่งมุขมนตรีประจำ 5 รัฐ อันได้แก่ เกดะห์ เประ สลังงอร์ ปีนัง และกลันตัน ฝ่ายค้านขู่ว่าอาจจะทบทวนโครงการเมกกะโปรเจกต์พัฒนาเศรษฐกิจ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในรัฐเหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ อับดุลเลาะห์ประกาศโครงการดังกล่าวและพยายามทำให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของตน
เมื่อวานนี้ รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารรัฐปีนัง บ้านเกิดของอับดุลเลาะห์ กล่าวว่าจะทบทวนแผนโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้สนับสนุนรายใหญ่โครงการแห่งนี้คือ บริษัทแห่งหนึ่งที่แพทริก ลิม นักธุรกิจผู้ใกล้ชิดกับลูกของอับดุลเลาะห์ เข้าถือหุ้นบางส่วน
ทางด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็ยังไม่ยอมลงจากตำแหน่ง ตามที่มหาเธร์ โมฮาหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้อง ทั้งนี้ อับดุลเลาะห์เข้าพิธีสาบานตนต่อกษัตริย์มิซัน ไซนัล อาบิดิน แห่งมาเลเซีย ขณะที่บุคคลสำคัญในพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) นำโดยนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ลูกพรรคร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง
อนึ่ง บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ได้ทำลายการเมืองของมาเลเซียที่อิงอยู่กับกลุ่มเชื้อชาติศาสนาบางกลุ่ม โดยกลุ่มชาวจีนและชาวอินเดียซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ได้แปรพักตร์จากรัฐบาลหันไปลงคะแนนให้ฝ่ายค้าน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในอนาคตอาจเกิดระบบการเมืองแบบ 2 พรรค
