จากการศึกษาวิชา Seminar in Real Estate Management ที่ผ่านมาทำให้ได้รับความรู้ต่างๆมากมาย เช่น การพัฒนาธุรกิจประเภทต่างๆ,Urban Entertainment Center(UEC),ผังเมือง ฯลฯทำให้เกิดความคิดมากมายที่จะมาปรับใช้กับการพัฒนากรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเมือง ได้มีการศึกษาจากหนังสือและการไปดูงาน ณ ประเทศเซี้ยงไฮ้ ได้เห็นการวางผังเมืองที่น่าสนใจและอยากที่จะนำมาพัฒนาเมืองกรุงเทพฯ
แต่เนื่องจากเมืองเซี้ยงไฮ้ทางราชกาลเป็นเจ้าของที่ดิน ทำให้การวางผังเมืองทำได้ง่ายกว่ากรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ของเอกชน จึงพยายามนำสิ่งที่สามารถปรับใช้แก่กรุงเทพฯได้ คือ การสร้างลานอเนกประสงค์ใจกลางเมือง(CITY SQUARE)ที่เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมภายในเมือง เช่น เทศกาลปีใหม่ที่New YorkมีการCount Down ที่จตุรัสTime Square,ที่ปารีสก็มีหอไอเฟล ถ้าเป็นกรุงเทพฯ เราไม่มีCity Squareเราเลยต้องไปCount downที่ศูนย์การค้าCentral World ซึ่งเป็นที่ดินของเอกชน
จริงแล้วกรุงเทพฯก็มีลานคนเมืองที่เป็นที่รวมของกิจกรรมแต่ไม่ค่อยมีคนทราบ เนื่องจากลานคนเมืองนั้นที่อยู่บริเวณศาลาว่าการกรุงเทพฯซึ่งการเดินทางไปค่อยข้างลำบาก ไม่มีการคม นาคมที่สะดวก ที่จอดรถก็หายาก ทั้งพื้นที่ก็เป็นพื้นที่ขนาดเล็กรองรับคนได้น้อย ดังนั้นลานนี้จึงไม่ค่อยมีคนในเมืองเข้าร่วมกิจกรรมเป็นเพียงบุคคลที่อยู่ในบริเวณนั้นมาร่วมงาน
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างCity Squareในกรุงเทพฯแต่ต้องหาที่ที่เหมาะสมมากกว่าปัจจุบันที่มีการคมนาคมสะดวกและใกล้คนเมืองมากกว่านี้
ตามปกติแล้ว City Square มักจะอยู่บริเวณใจกลางเมือง และมีการคมนาคมขนส่งที่เข้าถึงง่าย เพื่อความสะดวกของคนในเมืองที่จะมาใช้ ทั้งยังเป็นที่พักผ่อนคลายเครียดของคนทำงาน จึงได้มองหาที่ดินที่เป็นของกรุงเทพฯ และมีคุณสมบัติครบตามต้องการคือ ต้องเป็นที่พบเห็นได้ง่าย การคมนาคมสะดวก ใกล้คนเมือง เข้าถึงง่าย เป็นลานกว้าง จึงเลือก บริเวณลานพระรูปรัชกาลที่ 6 ซึ่งอยู่บริเวณแยก สีลม ติดกับสวนลุมพินี
ด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่ มีรถไฟฟ้าใต้ดินขึ้นมาบริเวณด้านข้างของที่ตั้งโครงการ และประกอบกับปัจจุบัน เป็นเพียงแค่ลานอนุสาวรีย์ รัชกาลที่6 และบางส่วนเป็นที่จอดรถของประชาชนทั่วไป และรถตู้ซึ่งมีการเก็บค่าจอดรถเป็นรายชั่วโมง จึงคิดว่าลานนี้ควรมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ประชาชนชาวกรุงเทพฯ , รายได้ของกรุงเทพฯและรายได้จากนักท่องเที่ยวด้วย
*******
โดย นางสาว เดือนวาริน ปิงเมือง
นักศึกษา MRE คณะพาณิชย์ฯ ม.ธรรมศาสตร์
ในวิชา Seminar in Real Estate Management
ผู้รับผิดชอบวิชา ผศ.จิตตาภรณ์ ศรีบุญจิตต์ 0-2613-2260
แต่เนื่องจากเมืองเซี้ยงไฮ้ทางราชกาลเป็นเจ้าของที่ดิน ทำให้การวางผังเมืองทำได้ง่ายกว่ากรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ของเอกชน จึงพยายามนำสิ่งที่สามารถปรับใช้แก่กรุงเทพฯได้ คือ การสร้างลานอเนกประสงค์ใจกลางเมือง(CITY SQUARE)ที่เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมภายในเมือง เช่น เทศกาลปีใหม่ที่New YorkมีการCount Down ที่จตุรัสTime Square,ที่ปารีสก็มีหอไอเฟล ถ้าเป็นกรุงเทพฯ เราไม่มีCity Squareเราเลยต้องไปCount downที่ศูนย์การค้าCentral World ซึ่งเป็นที่ดินของเอกชน
จริงแล้วกรุงเทพฯก็มีลานคนเมืองที่เป็นที่รวมของกิจกรรมแต่ไม่ค่อยมีคนทราบ เนื่องจากลานคนเมืองนั้นที่อยู่บริเวณศาลาว่าการกรุงเทพฯซึ่งการเดินทางไปค่อยข้างลำบาก ไม่มีการคม นาคมที่สะดวก ที่จอดรถก็หายาก ทั้งพื้นที่ก็เป็นพื้นที่ขนาดเล็กรองรับคนได้น้อย ดังนั้นลานนี้จึงไม่ค่อยมีคนในเมืองเข้าร่วมกิจกรรมเป็นเพียงบุคคลที่อยู่ในบริเวณนั้นมาร่วมงาน
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างCity Squareในกรุงเทพฯแต่ต้องหาที่ที่เหมาะสมมากกว่าปัจจุบันที่มีการคมนาคมสะดวกและใกล้คนเมืองมากกว่านี้
ตามปกติแล้ว City Square มักจะอยู่บริเวณใจกลางเมือง และมีการคมนาคมขนส่งที่เข้าถึงง่าย เพื่อความสะดวกของคนในเมืองที่จะมาใช้ ทั้งยังเป็นที่พักผ่อนคลายเครียดของคนทำงาน จึงได้มองหาที่ดินที่เป็นของกรุงเทพฯ และมีคุณสมบัติครบตามต้องการคือ ต้องเป็นที่พบเห็นได้ง่าย การคมนาคมสะดวก ใกล้คนเมือง เข้าถึงง่าย เป็นลานกว้าง จึงเลือก บริเวณลานพระรูปรัชกาลที่ 6 ซึ่งอยู่บริเวณแยก สีลม ติดกับสวนลุมพินี
ด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่ มีรถไฟฟ้าใต้ดินขึ้นมาบริเวณด้านข้างของที่ตั้งโครงการ และประกอบกับปัจจุบัน เป็นเพียงแค่ลานอนุสาวรีย์ รัชกาลที่6 และบางส่วนเป็นที่จอดรถของประชาชนทั่วไป และรถตู้ซึ่งมีการเก็บค่าจอดรถเป็นรายชั่วโมง จึงคิดว่าลานนี้ควรมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ประชาชนชาวกรุงเทพฯ , รายได้ของกรุงเทพฯและรายได้จากนักท่องเที่ยวด้วย
*******
โดย นางสาว เดือนวาริน ปิงเมือง
นักศึกษา MRE คณะพาณิชย์ฯ ม.ธรรมศาสตร์
ในวิชา Seminar in Real Estate Management
ผู้รับผิดชอบวิชา ผศ.จิตตาภรณ์ ศรีบุญจิตต์ 0-2613-2260
