ผู้จัดการรายวัน-จากความชื่นชอบในเรื่องของกระดาษเป็นการส่วนตัว ทำให้มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานด้านการตลาดมาจนถึงอายุ 30 ปี เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับงานประจำ คิดอยากลาออกจากงาน มาเป็นเถ้าแก่ โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่ตนเองชื่นชอบคือ “กระดาษ”
ในบรรดากระดาษที่มีอยู่ในเมืองไทย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะกระดาษทำมือ คงหนีไม่พ้น “กระดาษสา” ที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาช้านาน และมีเสน่ห์ในตัวเอง ทำให้ “สินี ดำรงค์กิจการ” กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีนิท เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เลือกที่จะหยิบกระดาษเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจ ประกอบกับในช่วงนั้นเพื่อนต่างชาติสนใจ กระดาษทำมือของไทยซึ่งก็คือกระดาษสานั่นเอง
ทำให้สินี ต้องเริ่มออกสำรวจแหล่งผลิตกระดาษสาที่ดีที่สุดของไทย คือที่ภาคเหนือ ซึ่งได้มีการผลิตกระดาษชนิดนี้มาช้านาน โดยคนส่วนใหญ่นิยมนำไปเป็นกระดาษห่อของเท่านั้น ต่อมาสินี จึงได้พัฒนากระดาษสาและทำตลาดส่งออกกระดาษสาอย่างจริงจัง และถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ของไทย ที่ส่งออกกระดาษสาอย่างจริงจังภายใต้แบรนด์ “Zeni Craft” ซึ่งปัจจุบันมีดรงงานผลิตกระดาษสาอยู่ที่จังหวัดแพร่
“การที่เราได้เป็นผู้ริเริ่มธุรกิจการส่งออกกระดาษมานานกว่า 20 ปี ซึ่งในปีแรกที่ทำการส่งออกเป็นกระดาษแผ่นอย่างเดียว ก็ประสบความสำเร็จชาวต่างชาติให้การตอบรับเป็นจำนวนมากจนผลิตไม่ทัน ขณะเดียวกันบริษัทฯก็ต้องคิดผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับการต่อยอดจากกระดาษสาแผ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เช่น สมุดโน้ต อัลบั้ม และกรอบรูป เป็นต้น โดยในช่วงแรกสัดส่วนการส่งออกกระดาษสาแผ่นประมาณ 70% และผลิตภัณฑ์อีก 30% แต่ในช่วงหลังสินค้าประเภทสมุดโน้ต และสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑอื่นๆ ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้สัดส่วนการส่งออกกลับกัน”
สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทฯ ได้ยึดถือเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ แต่ในขณะเดียวกันต้องมีความเป็นสากลควบคู่กันไปด้วย เพราะสินค้าของทางบริษัทฯ เป็นการออกแบบเพื่อให้ชาวต่างชาติเอาสินค้าไปขาย ดังนั้นต้องออกแบบสินค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่เป็นของฝาก
ต่อมาเมื่อคู่แข่งในตลาดเริ่มมากขึ้น ทำให้ทางบริษัท ซีนิธฯ ต้องสร้างจุดขายให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น โดยใช้จุดแข็งเดิมพัฒนาสินค้าเข้าสู่ฐานลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยที่ไม่ได้จำกัดอยู่ที่วัตถุดิบกระดาษสาเท่านั้น แต่ได้นำวัสดุอื่น เช่น หนัง, หนังเทียม และผ้าชนิดต่างๆมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าภายใต้แบรนด์ “Zeni Tocuh” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และวัตถุประสงค์การใช้งานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสินค้าที่เป็นที่นิยมได้แก่ สมุดโน้ตประเภทต่างๆ, ออร์แกไนเซอร์, อัลบั้ม ตลอดจนแพลนเนอร์สำหรับงานแต่งงานและเด็กแรกเกิด
แม้ว่าที่ผ่านมาทางบริษัทฯ จะผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกเต็ม 100% แต่เมื่อหลังจากออกงานแสดงสินค้าในไทย กลับมีคนไทยสนใจมาก จึงได้ทดลองจำหน่ายสินค้าในงาน ก็ได้รับการตอบรับเป้นอย่างดี ทำให้ในปี 2551 นี้ ทางบริษัทฯ จะเริ่มรุกตลาดในไทยอย่างจริงจัง จากเดิมที่ได้ทดลองวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปมาบ้างแล้ว
“ในปี 51 นี้ เราจะเริ่มทำตลาดในประเทศอย่างจริงจังจากความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า ที่คาดว่าจะสามารถมัดใจผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องเจอคู่แข่งหลายรายในขณะนี้ แต่ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่มีความประณีต เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยดีไซน์ที่มีความเอกลักษณ์ และทันสมัย บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ที่นำไปใช้งาน โดยจะนำวัสดุใหม่ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมมาใช้มากขึ้น เนื่องจากกระดาษสาไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยนัก”
ล่าสุดบริษัท ซีนิธ เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้ออกคอลเลคชั่นใหม่รับโลกร้อน ด้วยสมุดโน้ตและอัลบั้มแบบต่างๆจากกระดาษรีไซเคิล พร้อมออกแบบปกที่สื่อถึงสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน หวังช่วยกระตุ้นจิตสำนึกคนให้ตระหนักถึงการช่วยรักษาสภาพแวดล้อม
สนใจติดต่อ 02-726-7764, 02-726-8805
ในบรรดากระดาษที่มีอยู่ในเมืองไทย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะกระดาษทำมือ คงหนีไม่พ้น “กระดาษสา” ที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาช้านาน และมีเสน่ห์ในตัวเอง ทำให้ “สินี ดำรงค์กิจการ” กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีนิท เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เลือกที่จะหยิบกระดาษเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจ ประกอบกับในช่วงนั้นเพื่อนต่างชาติสนใจ กระดาษทำมือของไทยซึ่งก็คือกระดาษสานั่นเอง
ทำให้สินี ต้องเริ่มออกสำรวจแหล่งผลิตกระดาษสาที่ดีที่สุดของไทย คือที่ภาคเหนือ ซึ่งได้มีการผลิตกระดาษชนิดนี้มาช้านาน โดยคนส่วนใหญ่นิยมนำไปเป็นกระดาษห่อของเท่านั้น ต่อมาสินี จึงได้พัฒนากระดาษสาและทำตลาดส่งออกกระดาษสาอย่างจริงจัง และถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ของไทย ที่ส่งออกกระดาษสาอย่างจริงจังภายใต้แบรนด์ “Zeni Craft” ซึ่งปัจจุบันมีดรงงานผลิตกระดาษสาอยู่ที่จังหวัดแพร่
“การที่เราได้เป็นผู้ริเริ่มธุรกิจการส่งออกกระดาษมานานกว่า 20 ปี ซึ่งในปีแรกที่ทำการส่งออกเป็นกระดาษแผ่นอย่างเดียว ก็ประสบความสำเร็จชาวต่างชาติให้การตอบรับเป็นจำนวนมากจนผลิตไม่ทัน ขณะเดียวกันบริษัทฯก็ต้องคิดผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับการต่อยอดจากกระดาษสาแผ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เช่น สมุดโน้ต อัลบั้ม และกรอบรูป เป็นต้น โดยในช่วงแรกสัดส่วนการส่งออกกระดาษสาแผ่นประมาณ 70% และผลิตภัณฑ์อีก 30% แต่ในช่วงหลังสินค้าประเภทสมุดโน้ต และสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑอื่นๆ ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้สัดส่วนการส่งออกกลับกัน”
สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทฯ ได้ยึดถือเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ แต่ในขณะเดียวกันต้องมีความเป็นสากลควบคู่กันไปด้วย เพราะสินค้าของทางบริษัทฯ เป็นการออกแบบเพื่อให้ชาวต่างชาติเอาสินค้าไปขาย ดังนั้นต้องออกแบบสินค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่เป็นของฝาก
ต่อมาเมื่อคู่แข่งในตลาดเริ่มมากขึ้น ทำให้ทางบริษัท ซีนิธฯ ต้องสร้างจุดขายให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น โดยใช้จุดแข็งเดิมพัฒนาสินค้าเข้าสู่ฐานลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยที่ไม่ได้จำกัดอยู่ที่วัตถุดิบกระดาษสาเท่านั้น แต่ได้นำวัสดุอื่น เช่น หนัง, หนังเทียม และผ้าชนิดต่างๆมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าภายใต้แบรนด์ “Zeni Tocuh” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และวัตถุประสงค์การใช้งานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสินค้าที่เป็นที่นิยมได้แก่ สมุดโน้ตประเภทต่างๆ, ออร์แกไนเซอร์, อัลบั้ม ตลอดจนแพลนเนอร์สำหรับงานแต่งงานและเด็กแรกเกิด
แม้ว่าที่ผ่านมาทางบริษัทฯ จะผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกเต็ม 100% แต่เมื่อหลังจากออกงานแสดงสินค้าในไทย กลับมีคนไทยสนใจมาก จึงได้ทดลองจำหน่ายสินค้าในงาน ก็ได้รับการตอบรับเป้นอย่างดี ทำให้ในปี 2551 นี้ ทางบริษัทฯ จะเริ่มรุกตลาดในไทยอย่างจริงจัง จากเดิมที่ได้ทดลองวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปมาบ้างแล้ว
“ในปี 51 นี้ เราจะเริ่มทำตลาดในประเทศอย่างจริงจังจากความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า ที่คาดว่าจะสามารถมัดใจผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องเจอคู่แข่งหลายรายในขณะนี้ แต่ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่มีความประณีต เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยดีไซน์ที่มีความเอกลักษณ์ และทันสมัย บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ที่นำไปใช้งาน โดยจะนำวัสดุใหม่ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมมาใช้มากขึ้น เนื่องจากกระดาษสาไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยนัก”
ล่าสุดบริษัท ซีนิธ เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้ออกคอลเลคชั่นใหม่รับโลกร้อน ด้วยสมุดโน้ตและอัลบั้มแบบต่างๆจากกระดาษรีไซเคิล พร้อมออกแบบปกที่สื่อถึงสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน หวังช่วยกระตุ้นจิตสำนึกคนให้ตระหนักถึงการช่วยรักษาสภาพแวดล้อม
สนใจติดต่อ 02-726-7764, 02-726-8805