xs
xsm
sm
md
lg

กสอ.ชี้คนรุ่นใหม่สนใจทำธุรกิจส่วนตัวกว่า 70%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กสอ. เผยคนรุ่นใหม่ที่จบระดับป.ตรี สนใจอยากทำธุรกิจส่วนตัวมากกว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนกว่าร้อยละ 70 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจทรุด การจ้างลดลง และรายได้ยังน้อยกว่า เตือนควรทำธุรกิจที่มีความชำนาญ อย่าหลงทำตามแฟชั่น แนะใช้นวัตกรรมเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวในพิธีเปิดกิจกรรมเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (NEC) สาขาอุตสาหกรรม เกษตร แปรรูปอาหารและสมุนไพรว่า ปัจจุบันคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเทียบอัตราส่วน นักศึกษาจบใหม่ 100 คน มความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจถึง 70 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 เนื่องจาก ปัจจุบันสภาพเศรษฐ กิจอยู่ในภาวะซบเซา การจ้างงานลดลง ประชาชนตกงานมากขึ้น ทำให้นักศึกษาจบใหม่ หางานได้ยากขึ้น รวมถึง คนรุ่นใหม่ ปรับแนวคิดอยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง และต้องการความเป็นอิสระในการทำงานมากขึ้น อีกทั้ง อยากใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง แทนที่จะต้องไปเป็นมนุษย์เงินเดือน

นอกจากนี้ ยังมีการเปรียบเทียบรายได้ประจำ เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนด้วยว่า ผู้ประกอบการธุรกิจ จะมีรายได้อยู่ที่ 2.86 หมื่นบาท/เดือน นักบริหาร และนักวิชาการ มีรายได้รองลงมาอยู่ที่ 2.25 หมื่นบาท/เดือน ส่วนพนักงานประจำบริษัทในส่วนภาคการผลิตและคนงานทั่วไป มีรายได้ 8.46 พันบาท/เดือน

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย อยากจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง เพราะนอกจากจะมีรายได้ดีแล้ว ยังไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร สามารถบริหารงานของตัวเองได้อย่างอิสระ ทว่า ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าสนใจ หรือถนัดงานในด้านใดอย่างแท้จริง ไม่ควรทำธุรกิจตามกระแสแฟชั่น เพราะโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตแบบยั่งยืนเป็นไปได้ยาก

“ยุคนี้ต้องตีโจทย์ให้แตกว่า ธุรกิจที่จะเกิดขึ้น มีอะไรเป็นจุดขาย มีข้อได้เปรียบหรือดีกว่ารายเดิมในตลาดอย่างไร เพื่อให้แข่งขันกับรายอื่นให้ได้ เพราะรายใหม่ที่เข้ามา ถ้าไม่เก่งจริงก็อยู่ไม่ได้” นายปราโมทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลยังเผยว่า ผู้ประกอบการใหม่ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีมีอัตราอยู่รอดมากกว่า 70% ส่วนอีก 30% ต้องเลิกกิจการไป เนื่องจากทำธุรกิจเหมือนรายเดิมทั้งสินค้าและการบริการ ทำให้ไม่มีจุดแข็งจนต้องเลิกกิจการไปในที่สุด โดยปัจจุบันทั้งประเทศ มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่ทั้งสิ้น จำนวน 2.16 ล้านราย ดังนั้น หนทางที่เอสเอ็มอีจะอยู่รอดได้ ต้องนำนวัตกรรมและการเพิ่มผลิตภาพการผลิตมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

อย่างไรก็ดี ปัญหาพื้นฐานของเอสเอ็มอีไทยอยู่ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขาดข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยี ขาดบุคลากรที่มีทักษะและขาดทักษะการจัดการสมัยใหม่ รวมทั้งบริการของรัฐและเอกชนไม่เพียงพอ จุดนี้รัฐบาลคงต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น