ผู้จัดการรายวัน-น้ำมันปาล์มตีแสกหน้า “มิ่งขวัญ” ขอตบเท้าเข้าพบเพื่อปรับราคาเป็นขวดละ 52 บาทจากเดิม 47.50 บาท เหตุต้นทุนพุ่งกระฉูด ยื่นเงื่อนไขหากไม่ให้ขึ้น ต้องหาวัตถุดิบราคาถูกให้แทน เผยหากรัฐยังดึง หรือถ่วงเวลา ผู้ผลิตเตรียมลดการผลิต ส่อทำสินค้าขาดตลาดแน่
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เปิดเผยว่า สมาคมฯ จะทำหนังสือขอเข้าพบนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์การขาดทุนของผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวด และจะขอให้พิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเป็นขวดละ 52 บาท จากปัจจุบันอยู่ที่ขวดละ 47.50 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้นขวดละ 4.50 บาท แต่หากกระทรวงพาณิชย์ไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา จะต้องหาน้ำมันปาล์มดิบราคาต่ำกว่าตลาดมาให้ผู้ประกอบการผลิตแทน
ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการยังขาดทุนอยู่ แม้ว่ากรมการค้าภายในเพิ่งอนุมัติให้น้ำมันปาล์มขึ้นเป็นขวดละ 47.50 บาท ซึ่งเท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่กก.ละ 30 บาท แต่ราคาน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันอยู่ที่กก.ละ 38 บาท เมื่อนำมากลั่นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้ต้นทุนจริงอยู่ที่ 43 บาท รวมกับค่าบรรจุขวดอีก 5 บาท ต้นทุนปาเข้าไป 48 บาทแล้ว ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อีก
“หากนายมิ่งขวัญยังไม่ให้เข้าพบ ทางกลุ่มก็จะนำเงื่อนไขดังกล่าวเสนอให้กับนายมิ่งขวัญ ในวันที่ 6 มี.ค.2551 ซึ่งเป็นวันที่นายมิ่งขวัญจะเรียกประชุมกลุ่มผู้ประกอบการ 250 ราย เพื่อให้คำตอบว่าจะสามารถปรับลดหรือตรึงราคาสินค้าได้หรือไม่ ก็จะบอกไปว่าตรึงไม่ได้ ปรับลดไม่ได้ แต่จะต้องปรับราคาขึ้นเท่านั้น”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับกลุ่มน้ำมันปาล์มบรรจุขวดยืนยันที่จะต้องปรับราคาอีกครั้ง เพราะเป็นทางออกดีที่สุด เพราะหากรัฐบาลกำหนดนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาอีก ก็อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรผู้ปลูกปาล์มภายในประเทศได้ ซึ่งกลุ่มยืนยันความจำเป็นต้องปรับราคา เพราะคงไม่มีใครอยากให้ประชาชนเดือดร้อน
ที่ผ่านมา กลุ่มน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ยื่นหนังสือต่อกรมการค้าภายในขอปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มเป็นขวดละ 52 บาท เมื่อปลายเดือนม.ค. แต่หลังจากที่ รมว.พาณิชย์ มีนโยบายตรึงราคาสินค้า ทำให้สินค้าน้ำมันปาล์มยังไม่ได้รับอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เป็นจริง ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดรายเล็กลดกำลังการผลิตมากกว่า 50% ส่วนรายใหญ่ลดกำลังการผลิตลง 30% ทำให้น้ำมันปาล์มจากปกติที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดประมาณเดือนละ 10 ล้านขวด เหลือเพียง 6-7 ล้านขวดเท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สินค้าน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ได้รับการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาจากกรมการค้าภายในไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. 2550 ได้รับการอนุมัติปรับขึ้น 5.50 บาท จากขวดละ 38 บาท เป็น 43.50 บาท ครั้งที่ 2 ปรับขึ้น 4 บาท เป็นขวดละ 47.50 และครั้งนี้เป็นการขอปรับราคาขึ้นเป็นรอบที่ 3 หากได้รับการอนุมัติจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขึ้นเป็นขวดละ 52 บาท เมื่อรวม 3 ครั้ง น้ำมันปาล์มจะปรับขึ้นถึงขวดละ 14 บาท โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เปิดเผยว่า สมาคมฯ จะทำหนังสือขอเข้าพบนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์การขาดทุนของผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวด และจะขอให้พิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเป็นขวดละ 52 บาท จากปัจจุบันอยู่ที่ขวดละ 47.50 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้นขวดละ 4.50 บาท แต่หากกระทรวงพาณิชย์ไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา จะต้องหาน้ำมันปาล์มดิบราคาต่ำกว่าตลาดมาให้ผู้ประกอบการผลิตแทน
ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการยังขาดทุนอยู่ แม้ว่ากรมการค้าภายในเพิ่งอนุมัติให้น้ำมันปาล์มขึ้นเป็นขวดละ 47.50 บาท ซึ่งเท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่กก.ละ 30 บาท แต่ราคาน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันอยู่ที่กก.ละ 38 บาท เมื่อนำมากลั่นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้ต้นทุนจริงอยู่ที่ 43 บาท รวมกับค่าบรรจุขวดอีก 5 บาท ต้นทุนปาเข้าไป 48 บาทแล้ว ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อีก
“หากนายมิ่งขวัญยังไม่ให้เข้าพบ ทางกลุ่มก็จะนำเงื่อนไขดังกล่าวเสนอให้กับนายมิ่งขวัญ ในวันที่ 6 มี.ค.2551 ซึ่งเป็นวันที่นายมิ่งขวัญจะเรียกประชุมกลุ่มผู้ประกอบการ 250 ราย เพื่อให้คำตอบว่าจะสามารถปรับลดหรือตรึงราคาสินค้าได้หรือไม่ ก็จะบอกไปว่าตรึงไม่ได้ ปรับลดไม่ได้ แต่จะต้องปรับราคาขึ้นเท่านั้น”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับกลุ่มน้ำมันปาล์มบรรจุขวดยืนยันที่จะต้องปรับราคาอีกครั้ง เพราะเป็นทางออกดีที่สุด เพราะหากรัฐบาลกำหนดนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาอีก ก็อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรผู้ปลูกปาล์มภายในประเทศได้ ซึ่งกลุ่มยืนยันความจำเป็นต้องปรับราคา เพราะคงไม่มีใครอยากให้ประชาชนเดือดร้อน
ที่ผ่านมา กลุ่มน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ยื่นหนังสือต่อกรมการค้าภายในขอปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มเป็นขวดละ 52 บาท เมื่อปลายเดือนม.ค. แต่หลังจากที่ รมว.พาณิชย์ มีนโยบายตรึงราคาสินค้า ทำให้สินค้าน้ำมันปาล์มยังไม่ได้รับอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เป็นจริง ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดรายเล็กลดกำลังการผลิตมากกว่า 50% ส่วนรายใหญ่ลดกำลังการผลิตลง 30% ทำให้น้ำมันปาล์มจากปกติที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดประมาณเดือนละ 10 ล้านขวด เหลือเพียง 6-7 ล้านขวดเท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สินค้าน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ได้รับการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาจากกรมการค้าภายในไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. 2550 ได้รับการอนุมัติปรับขึ้น 5.50 บาท จากขวดละ 38 บาท เป็น 43.50 บาท ครั้งที่ 2 ปรับขึ้น 4 บาท เป็นขวดละ 47.50 และครั้งนี้เป็นการขอปรับราคาขึ้นเป็นรอบที่ 3 หากได้รับการอนุมัติจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขึ้นเป็นขวดละ 52 บาท เมื่อรวม 3 ครั้ง น้ำมันปาล์มจะปรับขึ้นถึงขวดละ 14 บาท โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น
