นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 ก.พ.) ว่า เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลได้สอบถามถึง ความเป็นไปได้ที่จะให้มีคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีขึ้นมาเพื่อช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ได้ทำงานี จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในคณะรัฐมนตรี ซึ่ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ตำแหน่งดังกล่าว ส.ส.สามารถที่จะเข้าไปทำงานในตำแหน่งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้หรือไม่ เพราะบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดห้าม ส.ส.รับตำแหน่งข้าราชการการเมือง ทำให้ต้องตั้ง ส.ส.สอบตกเข้ามาเป็นเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี ตนจึงได้รับข้อเสนอนี้ไปศึกษรอีกครั้งก่อนจะเสนอที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับ ส.ส.สอบตก หากจะมาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ ส.ส.จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้หรือไม่ต้องศึกษาข้อกฎหมายก่อน มีข้อจำกัดอย่างไร อีกทั้งต้องไปดูระเบียบเดิมว่าเขียนไว้อย่างไร สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันหรือไม่
ตำแหน่งนี้ไม่ได้อยู่ในพ.ร.บ.ข้าราชการการเมือง เป็นตำแหน่งตั้งขึ้นเอง โดยการออกระเบียบมารองรับ แต่แม้จะไม่มีในกฎหมาย แต่เมื่อมาทำงานอีกนัยหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง จึงต้องขอเวลาศึกษาก่อนจะทำอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ก็ต้องกำหนดอำนาจหน้าที่ รวมถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกำหนดอัตราเงินเดือนให้ด้วย
ทั้งนี้ ระเบีบบสำนักนายกฯว่าด้วยกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เคยเกิดขึ้นสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการกำหนดอัตราไว้ไม่เกิน 30 คน ซึ่งตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งเพื่อรองรับ ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ในพรรคไทยรักไทยให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือ พรรคไทยรักไทยในช่วงนั้น ต่อมาในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เห็นว่า กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีความไม่จำเป็น จึงออกมติ ให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นยังมีกระแสข่าวด้วยว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ยังเตรียมให้ศึกษาการฟื้นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งผู้แทนการค้าไทย ขึ้นมาอีกครั้งด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับ ส.ส.สอบตก หากจะมาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ ส.ส.จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้หรือไม่ต้องศึกษาข้อกฎหมายก่อน มีข้อจำกัดอย่างไร อีกทั้งต้องไปดูระเบียบเดิมว่าเขียนไว้อย่างไร สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันหรือไม่
ตำแหน่งนี้ไม่ได้อยู่ในพ.ร.บ.ข้าราชการการเมือง เป็นตำแหน่งตั้งขึ้นเอง โดยการออกระเบียบมารองรับ แต่แม้จะไม่มีในกฎหมาย แต่เมื่อมาทำงานอีกนัยหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง จึงต้องขอเวลาศึกษาก่อนจะทำอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ก็ต้องกำหนดอำนาจหน้าที่ รวมถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกำหนดอัตราเงินเดือนให้ด้วย
ทั้งนี้ ระเบีบบสำนักนายกฯว่าด้วยกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เคยเกิดขึ้นสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการกำหนดอัตราไว้ไม่เกิน 30 คน ซึ่งตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งเพื่อรองรับ ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ในพรรคไทยรักไทยให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือ พรรคไทยรักไทยในช่วงนั้น ต่อมาในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เห็นว่า กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีความไม่จำเป็น จึงออกมติ ให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นยังมีกระแสข่าวด้วยว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ยังเตรียมให้ศึกษาการฟื้นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งผู้แทนการค้าไทย ขึ้นมาอีกครั้งด้วย
