ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “ส.โรงแรมหาดใหญ่–สงขลา” จี้รัฐทุ่มงบกว่า 1 พันล้านบาท พัฒนาสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แถมพ่วงด้วยโครงการรถไฟรางเดี่ยวโมโนเรล กระเช้าลอยฟ้าและสวนสนุก ชี้แม้จะใช้งบประมาณมาก แต่จะเป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยสร้างจุดขายใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่เป็นตลาดหลักเพิ่มขึ้นได้ เพื่อก้าวให้พ้นวิกฤตปัญหาไฟใต้ที่กำลังรุมเร้าอย่างหนัก
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่–สงขลา เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ด้วยอำเภอหาดใหญ่ขาดจุดขายทางการท่องเที่ยวใหม่มานานแล้ว จากอดีตที่เคยเป็นแหล่งชอปปิ้งสินค้าหนีภาษี แต่เมื่อมีการคมนาคมสะดวก เปิดเสรีทางการค้า ทำให้สินค้าทุกพื้นที่ราคาถูกด้วยเช่นกัน ประกอบกับระยะหลังการท่องเที่ยวซบเซาจากปัญหาความไม่สงบ สถานบันเทิงที่เคยคึกคักหาได้เฉพาะตัวเมืองหาดใหญ่ก็โยกย้ายไปตั้งอยู่แถบชายแดนไทย-มาเลย์แทน จึงเรียกได้ว่าหาดใหญ่ไม่มีความแปลกใหม่อะไรเกิดขึ้นเลย
นายสมชาติกล่าวว่า ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายจึงคิดที่จะหาจุดขายใหม่ ขณะที่นายไพร พัฒโน นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้วางโครงการที่จะพัฒนาสวนสาธารณะให้มีความทันสมัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครงการก่อสร้างสวนสนุกเป็นแห่งแรก ที่มีเครื่องเล่นให้แก่นักท่องเที่ยว คล้ายกับการดำเนินกิจการของสวนสนุกดรีมเวิลด์ในกรุงเทพฯ
“ผมได้มีโอกาสดูงานที่ประเทศจีนและมาเลเซีย เขามีจุดขายที่ทำขึ้นใหม่แล้วดึงดูดให้คนไปเที่ยว โดยเฉพาะที่เกนติ้งของมาเลเซียอยู่ใกล้กับหาดใหญ่ มีทั้งที่กิน ที่เที่ยว เครื่องเล่นเข้าไปแต่ละครั้งจับจ่ายใช้เงินกันสนุก เพราะเห็นอะไรก็น่าตื่นใจ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปจำนวนมาก แม้แต่คนไทยก็ยังแห่ไปเที่ยว ทำให้เงินที่ควรจะหมุนเวียนอยู่ในประเทศกลับไหลออก เพราะบ้านเราเองยังไม่มีจุดขายด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ นั่นเอง” นายสมชาติ กล่าว
ด้านนายบุญช่วย จังศิริวัฒนาดำรง รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เคยกล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า โครงการพัฒนาสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ จะสร้างให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น เช่น รถไฟรางเดี่ยวโมโนเรล ซึ่งจะมีสถานีหยุดเที่ยวในจุดต่างๆ ของสวนสาธารณะ โดยเทศบาลฯจะเป็นผู้ลงทุนเองจำนวน 130 ล้านบาท, สวนสนุกจะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน, กระเช้าลอยฟ้าสำหรับขึ้นไปท่องเที่ยวไหว้พระ เจ้าแม่กวนอิม บนเขาคอหงส์มูลค่าโครงการ 30 ล้านบาท รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ ซึ่งเทศบาลฯจะเป็นผู้ลงทุนและให้สัมปทานเอกชนในการบริหารจัดการรายได้ส่งเทศบาลฯ
นายสมชาติ กล่าวด้วยว่า อยากให้โครงการนี้มีความคืบหน้าอย่างจริงจัง เพราะเคยมีการพูดถึงมาร่วม 4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรม แม้ว่ามูลค่าการลงทุนจะสูงประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวติดปัญหา ที่เทศบาลฯไม่สามารถดำเนินการเองได้ทั้งหมด แต่หากรัฐบาลเห็นความสำคัญและให้งบอุดหนุนผูกพันจากส่วนกลาง ก็จะมีผลประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ระยะยาว สนับสนุน และสร้างภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวหาดใหญ่ที่ขาดจุดขายใหม่
ทั้งนี้ ด้วยความพร้อมของสถานที่ซึ่งมีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถนำเครื่องเล่นมือสองมาลงในพื้นที่ดังกล่าวได้และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเช่า/บริหารจัดเก็บรายได้ส่งรัฐ ก็จะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่เมื่อเดินทางเข้ามาหาดใหญ่ต้องมาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้
สำหรับสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่นั้นมีเนื้อที่รวมกว่า 914 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาคอหงส์และพื้นที่ราบลุ่มติดภูเขา สำหรับพื้นที่บนเขาเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ ศาลาท้าวมหา พรหมบนยอดเขาชุมสัก และองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพร และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ในตัวเมืองหาดใหญ่ตลอดจนทะเลสาบสงขลาอีกด้วย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ นิยมสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ไม่มีรถบริการชมแหล่งท่องเที่ยวบนเขา จึงต้องนำพาหนะส่วนตัวไปเองทั้งสิ้น ยกเว้นพื้นที่ราบซึ่งสามารถเดินเที่ยวจุดต่างๆ เองได้ และบึงน้ำใหญ่ที่มีเรือถีบให้เช่า
