แม่ฮ่องสอน – กงสุลใหญ่ สป.จีน ประจำเชียงใหม่ พร้อมหนุนขุดอุโมงค์เชื่อมแม่ฮ่องสอน พร้อมดันพม่าสร้างถนนจากเมืองหลวงใหม่ชนชายแดนไทย หวังเปิดเส้นทางการค้า 3 ชาติ “ไทย พม่า จีน” ในอนาคตอีกเส้นทางหนึ่ง
วันนี้ (14 ก.ค.51) นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ต้อนรับ Wu Huiqing กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้เดินทางโดยสายการบินไทยเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เพื่อเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อหารือข้อราชการและการค้าชายแดน
นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนระบุว่า ประเด็นหนึ่งที่หารือกันก็คือ กรณีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่เดินทางมาค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะทางรถยนต์ระยะทางเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน ทางหลวงแผ่นดิน 108 ระยะทาง 350 กิโลเมตร และทางหลวงแผ่นดิน1095 เชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอน ระยะทาง 240 กิโลเมตร และสายการบินก็ค่อนทางมีปัญหา จึงได้เสนอไปยังรัฐบาลว่าจะขุดเจาะอุโมงค์ จากอำเภอสะเมิง จ.เชียงใหม่ มายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นช่วง ๆ เพื่อสะดวกต่อการเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนระยะทางประมาณ 170-180 กิโลเมตร โดยให้รัฐบาลพิจารณางบประมาณในการดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์
ทางด้าน Wu. Huiqing กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน จะสนับสนุนการขุดเจาะอุโมงค์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเสนอไปยังรัฐบาลไทย เพราะเท่าที่ได้รับทราบว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนเดินทางเข้ามาค่อนข้างยากลำบาก และเมื่อมีการขุดเจาะอุโมงค์ผ่านเข้ามาจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้สะดวกขึ้น จะทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนสามารถทำการค้ากับประเทศจีนโดยผ่านประเทศพม่าได้
ในขณะเดียวก็จะสนับสนุนรัฐบาลพม่าให้มีการก่อสร้างถนนจากเมืองหลวงแห่งใหม่พม่า (เมืองปิงมะนา ) ให้รัฐบาลพม่าก่อสร้างถนนเชื่อมมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อการค้าระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน / พม่า และจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป ตามคำเรียกร้องของหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่อยากให้มีการค้าชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบันการเดินทางโดยรถยนต์จากเชียงใหม่ไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางคือทางหลวงแผ่นดิน108 ระยะทาง 350 กิโลเมตรคือ เชียงใหม่ อ.ฮอด อ.แม่สะเรียง ถึง จ.แม่ฮ่องสอน และทางหลวงแผ่นดิน 1095 ระยะทาง 250 กิโลเมตร จากเชียงใหม่ ผ่านอ.แม่ริม อ.ปาย ถึง จ.แม่ฮ่องสอน
เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางอ้อมและคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ซึ่งต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง หากมีการก่อสร้างถนน แม่ฮ่องสอน-วัดจันทร์-สะเมิง รวมทั้งมีข้อสรุปออกมาว่า ต้องมีการขุดเจาะอุโมงค์ เพื่อร่นระยะทางลง ก็จะทำให้ถนนสายนี้เป็นถนนสายท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทยที่ผ่านพื้นที่ป่าไม้และภูเขาสลับซับซ้อน น่าจะทำให้ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกทางด้วย
โดยประเด็นปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมเข้าแม่ฮ่องสอน ในระยะที่ผ่านมาเป็นปัญหาต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวแม่ฮ่องสอนมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างมีปัญหา โดยเฉพาะทางอากาศที่มีขีดจำกัด เพราะใช้เครื่องบินขนาดเล็ก
สำหรับการเดินทางทางบกจะต้องผ่านทางโค้ง 1,864 โค้ง ทำให้ลำบากต่อการเดินทาง ดังนั้น เชื่อว่าหากภาครัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ เพื่อก่อสร้างถนนสายแม่ฮ่องสอน-อ.สะเมิง แล้วเสร็จ จะทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองท่องเที่ยวของภาคเหนือรองจากเชียงใหม่
ทางด้านนายสุพจน์ กลิ่นปราณีต นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน มองว่า จริงอยู่แม่ฮ่องสอนยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนค่าขนส่ง – ค่าเดินทาง ที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาน้ำมันแพง แต่ข้อเสนอเกี่ยวกับแผนพัฒนาเส้นทางคมนาคมเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ยังไม่รู้อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระเช้าลอยฟ้า ที่ต้องทุ่มงบมหาศาล หรือแม้แต่การขุดเจาะอุโมงค์ จาก อ.สะเมิง – จ.เชียงใหม่ ที่จะช่วยย่นระยะการเดินทางเหลือ 180 กม. สามารถไปกลับเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ได้ภายใน 3 ชั่วโมง ที่ศึกษากันมาหลายครั้ง ก็ยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้
เพราะมีคำถามตามมาเหมือนกันว่า การทำอุโมงค์-ถนนเชื่อมแม่ฮ่องสอน เส้นใหม่ ที่ต้องใช้เงินลงทุน 20,000 ล้านบาทโดยประมาณนั้น จะคุ้มทุนหรือไม่ เมื่อต้องแลกกับรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดที่ทำเงินได้ปีละ 1,600 กว่าล้านบาท และประชากร 300,000 คน รัฐบาลเองก็คงต้องถามว่า แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืน ดังนั้นโครงการนี้ก็ยังเป็นไปในลักษณะ “ศึกษา และศึกษา” เท่านั้น
วันนี้ (14 ก.ค.51) นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ต้อนรับ Wu Huiqing กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้เดินทางโดยสายการบินไทยเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เพื่อเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อหารือข้อราชการและการค้าชายแดน
นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนระบุว่า ประเด็นหนึ่งที่หารือกันก็คือ กรณีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่เดินทางมาค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะทางรถยนต์ระยะทางเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน ทางหลวงแผ่นดิน 108 ระยะทาง 350 กิโลเมตร และทางหลวงแผ่นดิน1095 เชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอน ระยะทาง 240 กิโลเมตร และสายการบินก็ค่อนทางมีปัญหา จึงได้เสนอไปยังรัฐบาลว่าจะขุดเจาะอุโมงค์ จากอำเภอสะเมิง จ.เชียงใหม่ มายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นช่วง ๆ เพื่อสะดวกต่อการเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนระยะทางประมาณ 170-180 กิโลเมตร โดยให้รัฐบาลพิจารณางบประมาณในการดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์
ทางด้าน Wu. Huiqing กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน จะสนับสนุนการขุดเจาะอุโมงค์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเสนอไปยังรัฐบาลไทย เพราะเท่าที่ได้รับทราบว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนเดินทางเข้ามาค่อนข้างยากลำบาก และเมื่อมีการขุดเจาะอุโมงค์ผ่านเข้ามาจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้สะดวกขึ้น จะทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนสามารถทำการค้ากับประเทศจีนโดยผ่านประเทศพม่าได้
ในขณะเดียวก็จะสนับสนุนรัฐบาลพม่าให้มีการก่อสร้างถนนจากเมืองหลวงแห่งใหม่พม่า (เมืองปิงมะนา ) ให้รัฐบาลพม่าก่อสร้างถนนเชื่อมมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อการค้าระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน / พม่า และจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป ตามคำเรียกร้องของหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่อยากให้มีการค้าชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบันการเดินทางโดยรถยนต์จากเชียงใหม่ไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางคือทางหลวงแผ่นดิน108 ระยะทาง 350 กิโลเมตรคือ เชียงใหม่ อ.ฮอด อ.แม่สะเรียง ถึง จ.แม่ฮ่องสอน และทางหลวงแผ่นดิน 1095 ระยะทาง 250 กิโลเมตร จากเชียงใหม่ ผ่านอ.แม่ริม อ.ปาย ถึง จ.แม่ฮ่องสอน
เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางอ้อมและคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ซึ่งต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง หากมีการก่อสร้างถนน แม่ฮ่องสอน-วัดจันทร์-สะเมิง รวมทั้งมีข้อสรุปออกมาว่า ต้องมีการขุดเจาะอุโมงค์ เพื่อร่นระยะทางลง ก็จะทำให้ถนนสายนี้เป็นถนนสายท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทยที่ผ่านพื้นที่ป่าไม้และภูเขาสลับซับซ้อน น่าจะทำให้ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกทางด้วย
โดยประเด็นปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมเข้าแม่ฮ่องสอน ในระยะที่ผ่านมาเป็นปัญหาต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวแม่ฮ่องสอนมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างมีปัญหา โดยเฉพาะทางอากาศที่มีขีดจำกัด เพราะใช้เครื่องบินขนาดเล็ก
สำหรับการเดินทางทางบกจะต้องผ่านทางโค้ง 1,864 โค้ง ทำให้ลำบากต่อการเดินทาง ดังนั้น เชื่อว่าหากภาครัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ เพื่อก่อสร้างถนนสายแม่ฮ่องสอน-อ.สะเมิง แล้วเสร็จ จะทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองท่องเที่ยวของภาคเหนือรองจากเชียงใหม่
ทางด้านนายสุพจน์ กลิ่นปราณีต นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน มองว่า จริงอยู่แม่ฮ่องสอนยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนค่าขนส่ง – ค่าเดินทาง ที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาน้ำมันแพง แต่ข้อเสนอเกี่ยวกับแผนพัฒนาเส้นทางคมนาคมเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ยังไม่รู้อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระเช้าลอยฟ้า ที่ต้องทุ่มงบมหาศาล หรือแม้แต่การขุดเจาะอุโมงค์ จาก อ.สะเมิง – จ.เชียงใหม่ ที่จะช่วยย่นระยะการเดินทางเหลือ 180 กม. สามารถไปกลับเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ได้ภายใน 3 ชั่วโมง ที่ศึกษากันมาหลายครั้ง ก็ยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้
เพราะมีคำถามตามมาเหมือนกันว่า การทำอุโมงค์-ถนนเชื่อมแม่ฮ่องสอน เส้นใหม่ ที่ต้องใช้เงินลงทุน 20,000 ล้านบาทโดยประมาณนั้น จะคุ้มทุนหรือไม่ เมื่อต้องแลกกับรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดที่ทำเงินได้ปีละ 1,600 กว่าล้านบาท และประชากร 300,000 คน รัฐบาลเองก็คงต้องถามว่า แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืน ดังนั้นโครงการนี้ก็ยังเป็นไปในลักษณะ “ศึกษา และศึกษา” เท่านั้น
