ผู้จัดการรายวัน-“หมัก” ฉายหนังเก่าพล่ามระบบขนส่งมวลชน รถไฟ น้ำ เศรษฐกิจ ปลุกข้าราชการถูกรัฐบาลที่แล้วโยกย้ายไม่เป็นธรรม วอนข้าราชการแจ้งรัฐมนตรีทุจริต ชี้ถ้านายกฯร่วมด้วยท้าไล่ยุบสภา ขณะที่“สันติ” รับลูกเร่งพัฒนาขนส่งมวลชน แล้วยันเจบิกพร้อมให้กู้สร้างรถไฟฟ้า
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาล ต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐโดยมี ข้าราชการระดับสูง เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาในการชี้แจงนโยบายดังกล่าวนานกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ก่อนที่นายสมัคร จะชี้แจงนโยบายได้กล่าวตำหนิรัฐมนตรี และข้าราชการ ที่ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพพร้อมกันในขณะที่ตนเองเดินเข้าห้องประชุม ว่า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการแสดงความเคารพที่มากเกินเหตุ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโดนแบบนี้จนถูกกล่าวหา ถึงการแสดงความเคารพต่อนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนกับเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ควรระมัดระวังด้วย อย่างเช่น กรณีที่มีฝนตก แดดออก หากจะกางร่มให้นายกรัฐมนตรี ก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะร่มที่มีด้ามยาว เขาจะกางให้เฉพาะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ซึ่งอาจจะทำให้นายกฯ ต้องซวย โดนชี้หน้าด่า ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย
นายสมัคร กล่าวชี้แจงนโยบายรัฐบาลโดยมีใจความสำคัญเรื่องหลักๆ 4 เรื่อง คือ 1. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ และปริมณฑล 2. ระบบขนส่งรถไฟทั่วประเทศ 3. ระบบน้ำ และ 4. ระบบเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับระบบขนส่งกรุงเทพและปริมณฑลนั้น นายสมัคร ยังคงเน้นย้ำถึงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า 8 สาย 8 แฉก โดย นายสมัคร กล่าวว่า ระบบขนส่งอย่างนี้มีประโยชน์หลายทาง ซึ่งสามารถสร้าง 4 ทิศ จะได้ใช้งานภายใน 3 ปี โดยรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ถึง 4 ปี อีก 3 ปีครึ่งทำไม่ได้ให้มันรู้ไป ทั้งนี้ มีแนวคิดที่จะให้บริษัทเอกชนเข้าร่วมประมูลให้ได้ 7 บริษัท ร่วมกันทำทุกทิศทางถึงราคาจะแพงหน่อย แต่ได้เนื้องานไม่ใช่คิดแต่เพียงจะเอาถูกๆ ให้บริษัทเดียวทำ 7 ท่อน มันช้า ไม่ได้งานด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟไทย ที่เดิมมีอยู่ 3,700 เมตร ว่า จะไม่เตะต้องรางเก่า แต่จะวางรางใหม่ 3,700 รวม แล้วทั้งสิ้น 7,400 ราง โดยการวางรางใหม่จะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิม เพราะใช้หมอนหนุนคอนกรีต ทั้งนี้ เอารถไฟขบวนเก่าออกจากรางนำขบวนใหม่ที่มีคุณภาพมากกว่ามาใช้ จากเชียงใหม่ 12 ชั่วโมง ก็เหลือ 6 ชั่วโมง ตนขอฝากการรถไฟแห่งประเทสไทย และกระทรวงคมนาคม ว่า จะเสียเงินเท่าไหร่ ก็จะทำ
นายสมัคร กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาระบบน้ำว่า ระบบเขื่อนต่างๆ ของประเทศไทยที่มีอยู่เดิมเป็นประโยชน์มาก อย่างไรก็ตาม การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่โดนขัดขวาง สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำประโยชน์ได้หลายด้านทั้งยังป้องกันน้ำท่วม แต่ก็ถูกปลุกระดมขัดขวางโดยเอาเรื่องไม้สักทอง 500 ต้น มาอ้าง ทั้งที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เอารัฐธรรมนูญมาอ้าง พูดกันจะเป็นจะตาย ก็ขอรับประกันว่า ถ้าสร้างจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับผลตอบแทนจริงๆ นโยบายทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นไปได้อย่างไร นั้นตนจะไปฟังความอีกทีหนึ่งก่อนแล้ววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเล่าให้ฟัง ในรายการสนทนาประสาสมัคร
“สันติ” ยันเจบิกพร้อมให้กู้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี พร้อมเดินหน้ารถไฟฟ้า 9 เส้นทางตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้ว่า นายกรัฐมนตรี เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะทำให้กรุงเทพฯ มีประสิทธิภาพลดการแออัด รถการใช้รถยนต์ในกรุงเทพฯ เชื่อมทางเหนือไปทางตะวันออก เชื่อมไปถึงลำลูกกา ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือก็ต่อไปถึงไทรน้อย สายสีม่วง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบขนส่งมวลชน เพราะฉะนั้นแผนต่างๆจะไม่ล้าช้าส่วนที่ประมูลได้ก็จะเร่งรัดให้รีบดำเนินการ
ขณะนี้ทางรฟท. รฟม.และสนข. ได้ร่วมกันทำรายละเอียด คาดว่ารถไฟฟ้าสายแรกจะประสบผลสำเร็จภายในปีนี้ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ ที่จะทำให้ประชาชนได้ใช้รถไฟรางคู่ เพื่อขนส่งสินค้าและช่วยร่นระยะเวลาเดินทางให้เร็วขึ้น ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีให้ขยายระบบขนส่งบริเวณชานเมืองออกไป กระทรวงจะเร่งหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะนี้ทางกระทวงได้มอบหมายทั้ง3 หน่วยงายไปศึกษาแผนเพื่อทำการต่อเชื่อม อย่างไรก็จะนัด ทั้ง3 ส่วนประชุมหาข้อยุติ ซึ่งคาดว่า2-3 สัปดาห์ก็จะได้ข้อยุติ สายแรที่มีความพร้อมที่สุดคือสายสีม่วง บางซื่อ บางใหญ่ บางไผ่ ส่วนที่จะต่อขยายไปถึงไทรน้อยก็เป็นส่วนที่จะทำได้
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้มีเงินไหลเข้าประเทศค่อนข้างมาก เป็นโอกาสที่จะหาแหล่งเงินทุนที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่งถ้าได้แหล่งต้นทุนต่ำ เช่นกองทุนวายุภักก็เป็นเรื่องที่ดีหรือเงินกู้จากเจบิกก็ดีหรือเงินกู้จากประเทศจีนที่ต่ำ ก็จะส่งผลถึงค่าโดยสารให้ต่ำลง เรื่องค่าโดยสารถ้าเราสามารถใช้ระบบตั๋วใบเดียวก็จะทำให้ค่าโดยสารนั้นถูกลง และคิดว่าต้องเป็นค่าโดยสารที่ประชาชนรับได้
ส่วนเรื่องเจบิกสายสีม่วงขณะนี้พร้อมแล้ว และจะกู้เงินเป็นช่วงๆ ช่วงแรก 1,800ล้าน เพื่อไม่ให้เงินมากองเป็นภาระเรื่องดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามเรามีเงินสำรองเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นก็เป็นโอกาสระดมเงินที่อยู่ในประเทศได้ง่าย ส่วนเรื่องการออกพันธบัตร นั้นจะต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังก่อน
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาล ต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐโดยมี ข้าราชการระดับสูง เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาในการชี้แจงนโยบายดังกล่าวนานกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ก่อนที่นายสมัคร จะชี้แจงนโยบายได้กล่าวตำหนิรัฐมนตรี และข้าราชการ ที่ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพพร้อมกันในขณะที่ตนเองเดินเข้าห้องประชุม ว่า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการแสดงความเคารพที่มากเกินเหตุ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโดนแบบนี้จนถูกกล่าวหา ถึงการแสดงความเคารพต่อนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนกับเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ควรระมัดระวังด้วย อย่างเช่น กรณีที่มีฝนตก แดดออก หากจะกางร่มให้นายกรัฐมนตรี ก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะร่มที่มีด้ามยาว เขาจะกางให้เฉพาะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ซึ่งอาจจะทำให้นายกฯ ต้องซวย โดนชี้หน้าด่า ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย
นายสมัคร กล่าวชี้แจงนโยบายรัฐบาลโดยมีใจความสำคัญเรื่องหลักๆ 4 เรื่อง คือ 1. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ และปริมณฑล 2. ระบบขนส่งรถไฟทั่วประเทศ 3. ระบบน้ำ และ 4. ระบบเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับระบบขนส่งกรุงเทพและปริมณฑลนั้น นายสมัคร ยังคงเน้นย้ำถึงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า 8 สาย 8 แฉก โดย นายสมัคร กล่าวว่า ระบบขนส่งอย่างนี้มีประโยชน์หลายทาง ซึ่งสามารถสร้าง 4 ทิศ จะได้ใช้งานภายใน 3 ปี โดยรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ถึง 4 ปี อีก 3 ปีครึ่งทำไม่ได้ให้มันรู้ไป ทั้งนี้ มีแนวคิดที่จะให้บริษัทเอกชนเข้าร่วมประมูลให้ได้ 7 บริษัท ร่วมกันทำทุกทิศทางถึงราคาจะแพงหน่อย แต่ได้เนื้องานไม่ใช่คิดแต่เพียงจะเอาถูกๆ ให้บริษัทเดียวทำ 7 ท่อน มันช้า ไม่ได้งานด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟไทย ที่เดิมมีอยู่ 3,700 เมตร ว่า จะไม่เตะต้องรางเก่า แต่จะวางรางใหม่ 3,700 รวม แล้วทั้งสิ้น 7,400 ราง โดยการวางรางใหม่จะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิม เพราะใช้หมอนหนุนคอนกรีต ทั้งนี้ เอารถไฟขบวนเก่าออกจากรางนำขบวนใหม่ที่มีคุณภาพมากกว่ามาใช้ จากเชียงใหม่ 12 ชั่วโมง ก็เหลือ 6 ชั่วโมง ตนขอฝากการรถไฟแห่งประเทสไทย และกระทรวงคมนาคม ว่า จะเสียเงินเท่าไหร่ ก็จะทำ
นายสมัคร กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาระบบน้ำว่า ระบบเขื่อนต่างๆ ของประเทศไทยที่มีอยู่เดิมเป็นประโยชน์มาก อย่างไรก็ตาม การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่โดนขัดขวาง สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำประโยชน์ได้หลายด้านทั้งยังป้องกันน้ำท่วม แต่ก็ถูกปลุกระดมขัดขวางโดยเอาเรื่องไม้สักทอง 500 ต้น มาอ้าง ทั้งที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เอารัฐธรรมนูญมาอ้าง พูดกันจะเป็นจะตาย ก็ขอรับประกันว่า ถ้าสร้างจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับผลตอบแทนจริงๆ นโยบายทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นไปได้อย่างไร นั้นตนจะไปฟังความอีกทีหนึ่งก่อนแล้ววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเล่าให้ฟัง ในรายการสนทนาประสาสมัคร
“สันติ” ยันเจบิกพร้อมให้กู้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี พร้อมเดินหน้ารถไฟฟ้า 9 เส้นทางตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้ว่า นายกรัฐมนตรี เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะทำให้กรุงเทพฯ มีประสิทธิภาพลดการแออัด รถการใช้รถยนต์ในกรุงเทพฯ เชื่อมทางเหนือไปทางตะวันออก เชื่อมไปถึงลำลูกกา ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือก็ต่อไปถึงไทรน้อย สายสีม่วง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบขนส่งมวลชน เพราะฉะนั้นแผนต่างๆจะไม่ล้าช้าส่วนที่ประมูลได้ก็จะเร่งรัดให้รีบดำเนินการ
ขณะนี้ทางรฟท. รฟม.และสนข. ได้ร่วมกันทำรายละเอียด คาดว่ารถไฟฟ้าสายแรกจะประสบผลสำเร็จภายในปีนี้ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ ที่จะทำให้ประชาชนได้ใช้รถไฟรางคู่ เพื่อขนส่งสินค้าและช่วยร่นระยะเวลาเดินทางให้เร็วขึ้น ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีให้ขยายระบบขนส่งบริเวณชานเมืองออกไป กระทรวงจะเร่งหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะนี้ทางกระทวงได้มอบหมายทั้ง3 หน่วยงายไปศึกษาแผนเพื่อทำการต่อเชื่อม อย่างไรก็จะนัด ทั้ง3 ส่วนประชุมหาข้อยุติ ซึ่งคาดว่า2-3 สัปดาห์ก็จะได้ข้อยุติ สายแรที่มีความพร้อมที่สุดคือสายสีม่วง บางซื่อ บางใหญ่ บางไผ่ ส่วนที่จะต่อขยายไปถึงไทรน้อยก็เป็นส่วนที่จะทำได้
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้มีเงินไหลเข้าประเทศค่อนข้างมาก เป็นโอกาสที่จะหาแหล่งเงินทุนที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่งถ้าได้แหล่งต้นทุนต่ำ เช่นกองทุนวายุภักก็เป็นเรื่องที่ดีหรือเงินกู้จากเจบิกก็ดีหรือเงินกู้จากประเทศจีนที่ต่ำ ก็จะส่งผลถึงค่าโดยสารให้ต่ำลง เรื่องค่าโดยสารถ้าเราสามารถใช้ระบบตั๋วใบเดียวก็จะทำให้ค่าโดยสารนั้นถูกลง และคิดว่าต้องเป็นค่าโดยสารที่ประชาชนรับได้
ส่วนเรื่องเจบิกสายสีม่วงขณะนี้พร้อมแล้ว และจะกู้เงินเป็นช่วงๆ ช่วงแรก 1,800ล้าน เพื่อไม่ให้เงินมากองเป็นภาระเรื่องดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามเรามีเงินสำรองเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นก็เป็นโอกาสระดมเงินที่อยู่ในประเทศได้ง่าย ส่วนเรื่องการออกพันธบัตร นั้นจะต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังก่อน
