ผู้จัดการรายวัน - "ปกรณ์" วอนกระทรวงการคลัง แก้ไขกฎหมายเอื้อแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ หากผลการศึกษาได้ข้อสรุปให้มีการแปรรูปจริง พร้อมเสนอตั้งกองทุนบำนาญแห่งชาติลงทุนในหุ้น เพื่อขยายฐานนักลงทุน และเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ด้วยการออกมาตรการสนับสนุนบริษัทเข้าจดทะเบียนมากขึ้น ทั้งขยายเวลาลดภาษีให้บจ.ที่มีการกำกับดูแลกิจการทีดี และภาษีการควบรวมกิจการให้คล่องตัวมากขึ้น
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึง ภายหลังจากการเข้าพบนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอให้กระทรวงการคลังแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อไม่ให้ข้อกฎหมายเป็นอุปสรรคหากจำเป็นต้องแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทมหาชน หากยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายอาจจะเป็นเรื่องี่ยุ่งยากและต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
สำหรับแผนการเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นไทย นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอให้กระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนบำนาญแห่งชาติขึ้น เพื่อให้กองทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเหมือนกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มบทบาทให้กับตลาดหุ้นไทยได้อย่างมาก
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังต้องการให้กระทรวงการคลังช่วยหามาตรการสนับสนุน เพื่อเชิญชวนบริษัทใหม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเสนอ คือ มาตรการภาษีสำหรับบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG)
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้กระทรวงคลังช่วยดูว่า ถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีอยู่แล้ว ควรจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง เช่น อาจจะเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านภาษีอากร ซึ่งถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนและมี CG ในระดับที่ดี ก็อาจไม่จำเป็นที่เจ้าหน้าที่ผู้สอบบัญชีต้องตรวจสอบงบการเงินอย่างละเอียดมากนัก ตรงนี้ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง หรืออาจมีมาตรการอื่นที่นอกเหนือจากนี้เสริมขึ้นมาก็ได้" นายปกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังขอให้กระทรวงการคลังช่วยศึกษาแนวทางสนับสนุนการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเรื่องนี้อาจมีประเด็นทางด้านกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอยากให้กระทรวงการคลังช่วยดูกฎหมายหรือกฎกติกาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้การควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
นายปกรณ์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเสนอให้กระทรวงการคลังจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนขึ้นมาด้วย เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง พร้อมขอให้ นพ.สุรพงษ์ ในฐานะ รมว.คลัง นั่งเป็นประธานในคณะกรรมการชุดดังกล่าว ขณะเดียวกันจะเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไท (ธปท.) หรือสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย
"เราเสนอให้รัฐบาลจัดตั้ง คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนขึ้นมา โดยที่คณะกรรมการชุดนี้จะมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ในแวดวงตลาดทุนและตลาดเงินมาร่วมเป็นกรรมการ และได้ขอให้ท่าน รมว.คลังร่วมเป็นประธานในคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง" นายปกรณ์กล่าว
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึง ภายหลังจากการเข้าพบนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอให้กระทรวงการคลังแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อไม่ให้ข้อกฎหมายเป็นอุปสรรคหากจำเป็นต้องแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทมหาชน หากยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายอาจจะเป็นเรื่องี่ยุ่งยากและต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
สำหรับแผนการเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นไทย นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอให้กระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนบำนาญแห่งชาติขึ้น เพื่อให้กองทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเหมือนกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มบทบาทให้กับตลาดหุ้นไทยได้อย่างมาก
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังต้องการให้กระทรวงการคลังช่วยหามาตรการสนับสนุน เพื่อเชิญชวนบริษัทใหม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเสนอ คือ มาตรการภาษีสำหรับบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG)
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้กระทรวงคลังช่วยดูว่า ถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีอยู่แล้ว ควรจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง เช่น อาจจะเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านภาษีอากร ซึ่งถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนและมี CG ในระดับที่ดี ก็อาจไม่จำเป็นที่เจ้าหน้าที่ผู้สอบบัญชีต้องตรวจสอบงบการเงินอย่างละเอียดมากนัก ตรงนี้ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง หรืออาจมีมาตรการอื่นที่นอกเหนือจากนี้เสริมขึ้นมาก็ได้" นายปกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังขอให้กระทรวงการคลังช่วยศึกษาแนวทางสนับสนุนการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเรื่องนี้อาจมีประเด็นทางด้านกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอยากให้กระทรวงการคลังช่วยดูกฎหมายหรือกฎกติกาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้การควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
นายปกรณ์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเสนอให้กระทรวงการคลังจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนขึ้นมาด้วย เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง พร้อมขอให้ นพ.สุรพงษ์ ในฐานะ รมว.คลัง นั่งเป็นประธานในคณะกรรมการชุดดังกล่าว ขณะเดียวกันจะเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไท (ธปท.) หรือสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย
"เราเสนอให้รัฐบาลจัดตั้ง คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนขึ้นมา โดยที่คณะกรรมการชุดนี้จะมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ในแวดวงตลาดทุนและตลาดเงินมาร่วมเป็นกรรมการ และได้ขอให้ท่าน รมว.คลังร่วมเป็นประธานในคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง" นายปกรณ์กล่าว