ยูนิลีเวอร์ งัดกลยุทธ์ “ลดปริมาณราคาเดิม-ลดปริมาณมากกว่าลดราคา” ร่อนหนังสือถึงร้านค้าต่างๆ เตรียมปรับราคาระลอกใหม่ ผงซักฟอกบรีสและน้ำยาล้างจานซันไลต์ต้นเดือนมีนาคมเป็นอย่างช้า ชี้สัญญาณอันตรายคนไทยใช้สินค้าแพงขึ้นลามสู่กลุ่มแชมพู-สบู่
แหล่งข่าวจากวงการสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน”ว่า ขณะนี้บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผงซักฟอกบรีส และน้ำยาล้างจานซันไลต์ และผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์รายใหญ่ ได้แจ้งกับผู้ค้าส่ง ค้าปลีก และร้านค้าทั่วไป ถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักบรรจุภัณฑ์และราคาน้ำยาล้างจานซันไลต์ รอบ 3 ซึ่งคาดว่าจะมีผลในต้นเดือนมีนาคมนี้ และการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักบรรจุภัณฑ์และราคาของผงซักฟอกบรีส ช่วงรอบที่ 4 และ 5 ซึ่งคาดว่าจะมีผลต้นเดือนมีนาคมหรือไม่ก็เมษายนเช่นกัน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีทั้ง น้ำหนักลดลงแต่ราคาเท่าเดิม น้ำหนักลดลงและราคาลดลงแต่ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าชนิดนั้นสูงขึ้น โดยเฉพาะสารเคมี STPP ที่ใช้เป็นส่วนผสมในผงซักฟอกได้ปรับราคาขึ้นมา”
สำหรับราคาและขนาดที่ปรับใหม่นั้น แยกเป็น น้ำยาลางจานซันไลต์กลิ่นเลมอน ขนาด 3,800 ซีซี เดิมราคา 180 บาท เป็น 195 บาทต่อแกลอน และถ้าเป็น 1 หีบ (มี 4 แกลอน) จากเดิมราคา 543-56 บาทเป็น 597.08 บาท, ขนาด 800 ซีซี จากเดิมราคา 616.32 บาท เพิ่มเป็น 677.34 บาท ต่อ 1 หีบ (มี 18 ขวด), ขนาด 650 ซีซี ไม่ปรับราคาแต่ลดปริมาณลงเหลือ 600 ซีซี ราคาเดิม 586.36 บาทต่อ 1 หีบ ( มี 18 ขวด) และขนาด 180 ซีซี ลดเหลือ 170 ซีซี ราคา 433.35 บาทต่อ 1 หีบ (มี 48 ขวด)
ส่วนผงซักฟอกบรีสนั้น ประเภทบรีสเพาเวอร์สีแดง ขนาด 5,500 กรัม ลดเหลือ 5,000 กรัม ลดลง 10% ราคาเดิม 665.54 บาทต่อ 1 หีบ (มี3ถุง) ราคาใหม่เป็น 685.86 บาท, ขนาด 4,000 กรัม ลดเหลือ 3,500 กรัม หายไป 12% ราคาเดิม 677.2 บาทต่อ 1 หีบ (มี 4ถุง) ราคาใหม่ 653.76 บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าปริมาณที่หายไป, ขนาด 2,500 กรัม เหลือ 2,000 กรัม หายไปประมาณ 20% จากราคาเดิม 669.82 บาทต่อ 1 หีบ (มี 6 ถุง) เป็นราคา 588.48 บาท
จากการสำรวจราคาสินค้าจากโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นขนาดและราคาปัจจุบันก่อนที่จะปรับนั้น ผงซักฟอกบรีส เพาเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 4,000 กรัม ราคา 175 บาท ขนาด 2,500 กรัม ราคา 117 บาท และ ขนาด 1,000 กรัม ราคา 51 บาท และ 650 กรัม ราคา 31 บาท ส่วนราคาน้ำยาล้างจานซันไลต์ บรรจุภัณฑ์ขวด 800 ซีซี ราคา 25 บาท และบรรจุภัณฑ์ชนิดเติม 600 มล.ราคา 25.50 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ก็ได้ใช้กลยุทธ์ลดปริมาณมาแล้วเหมือนกันกับผงซักฟอกบรีสลงแต่ยังจำหน่ายราคาเท่าเดิม โดยบรีส สูตรมาตรฐานจาก 4,500 กรัม ราคา 240 บาท เป็น 4,000 กรัม ราคา 213 บาท, ขนาด 3,000 กรัม จาก 168 บาท เป็น ขนาด 2,500 กรัม ราคา 140 บาท, ขนาด 1,500 กรัม จาก 88 บาท เป็น 1,000 กรัม ราคา 58 บาท, ขนาด 700 กรัม จากราคา 45 บาท เป็นขนาด 650 กรัม 41 บาท และจากขนาด 200 กรัม จากราคา 13 บาท เหลือเป็น 155 กรัม ราคา 10 บาท
ทั้งนี้บริษัทยูนิลีเวอร์ได้ให้เหตุผลว่า การปรับลดขนาดสินค้าเมื่อปี 2548 เพราะผลจากต้นทุนวัตถุดิบสารเคมี STPPราคาได้ปรับขึ้นเมื่อตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันราคาได้สูงขึ้นมาจาก 500 บาทต่อตัน เป็น 700 บาทต่อตัน นอกจากนี้ยังอ้างว่าการลดปริมาณลงของผงซักฟอก เป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหันมาใช้สินค้าในขนาดที่เล็กลง เนื่องจากมีขนาดครอบครัวเล็กลง และปัจจัยหลักที่เป็นตัวผลักดัน คือ ด้านสภาพเศรษฐกิจ ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น
นับว่าเป็นกลยุทธ์ลดปริมาณ แต่จำหน่ายราคาเท่าเดิม ครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 2 ปี สำหรับบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดผงซักฟอกอย่างเบ็ดเสร็จ หรือเท่ากับว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนกลไกตลาดว่าจะไปในทิศทางใด โดยบรีสครองส่วนแบ่ง 43% แบ่งเป็น บรีส เพาเวอร์ เทอร์โบ 10% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9% เอกซ์เซล 14% บรีส คอมฟอร์ท 8% บรีส โกลด์ 2% บรีส ลิควิด 1% จากมูลค่าตลาด 12,500 ล้านบาท ซึ่งหากรวมโอโมและเซิร์บผงซักฟอกในบริษัทเท่ากับยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งในตลาดผงซักฟอกถึง 65% เช่นเดียวกับซันไลต์ ก็เป็นผู้นำตลาดน้ำยาล้างจาน ครองส่วนแบ่งราว 65% จากมูลค่าตลาดน้ำยาล้างจาน 2,144 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การที่ยูนิลีเวอร์เลือกใช้กลยุทธ์ลดปริมาณ เพราะการขึ้นราคาอาจมีผลทำให้ผู้บริโภคหันมาไปใช้สินค้าคู่แข่งได้ และนั่นอาจหมายถึงการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ทว่าสัญญาณการใช้กลยุทธ์ลดปริมาณ แต่ยังจำหน่ายราคาเท่าเดิมของบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง อาจลามมาสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ แชมพู และสบู่ เพราะเป็นสินค้าที่ใช้สารเคมี STPP ที่ทำให้เกิดฟองเหมือนกัน จึงมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเช่นเดียวกับผงซักฟอก นอกจากนี้บริษัทดังกล่าวยังเป็นผู้นำตลาดแชมพูและสบู่จึงเป็นเรื่องไม่ยากมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในวันงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์บรีส เอกเซล ลิควิด และบรีสเพาเวอร์ เทอร์โบ เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเรื่องการปรับราคาดังกล่าวกับทางผู้บริหาร ที่มาร่วมงานในวันนั้น คือ นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องใช้ส่วนบุคคล และนายอภิชาติ ศาลิคุปต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด แต่ก็ปฎิเสธที่จะตอบคำถาม.
แหล่งข่าวจากวงการสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน”ว่า ขณะนี้บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผงซักฟอกบรีส และน้ำยาล้างจานซันไลต์ และผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์รายใหญ่ ได้แจ้งกับผู้ค้าส่ง ค้าปลีก และร้านค้าทั่วไป ถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักบรรจุภัณฑ์และราคาน้ำยาล้างจานซันไลต์ รอบ 3 ซึ่งคาดว่าจะมีผลในต้นเดือนมีนาคมนี้ และการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักบรรจุภัณฑ์และราคาของผงซักฟอกบรีส ช่วงรอบที่ 4 และ 5 ซึ่งคาดว่าจะมีผลต้นเดือนมีนาคมหรือไม่ก็เมษายนเช่นกัน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีทั้ง น้ำหนักลดลงแต่ราคาเท่าเดิม น้ำหนักลดลงและราคาลดลงแต่ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าชนิดนั้นสูงขึ้น โดยเฉพาะสารเคมี STPP ที่ใช้เป็นส่วนผสมในผงซักฟอกได้ปรับราคาขึ้นมา”
สำหรับราคาและขนาดที่ปรับใหม่นั้น แยกเป็น น้ำยาลางจานซันไลต์กลิ่นเลมอน ขนาด 3,800 ซีซี เดิมราคา 180 บาท เป็น 195 บาทต่อแกลอน และถ้าเป็น 1 หีบ (มี 4 แกลอน) จากเดิมราคา 543-56 บาทเป็น 597.08 บาท, ขนาด 800 ซีซี จากเดิมราคา 616.32 บาท เพิ่มเป็น 677.34 บาท ต่อ 1 หีบ (มี 18 ขวด), ขนาด 650 ซีซี ไม่ปรับราคาแต่ลดปริมาณลงเหลือ 600 ซีซี ราคาเดิม 586.36 บาทต่อ 1 หีบ ( มี 18 ขวด) และขนาด 180 ซีซี ลดเหลือ 170 ซีซี ราคา 433.35 บาทต่อ 1 หีบ (มี 48 ขวด)
ส่วนผงซักฟอกบรีสนั้น ประเภทบรีสเพาเวอร์สีแดง ขนาด 5,500 กรัม ลดเหลือ 5,000 กรัม ลดลง 10% ราคาเดิม 665.54 บาทต่อ 1 หีบ (มี3ถุง) ราคาใหม่เป็น 685.86 บาท, ขนาด 4,000 กรัม ลดเหลือ 3,500 กรัม หายไป 12% ราคาเดิม 677.2 บาทต่อ 1 หีบ (มี 4ถุง) ราคาใหม่ 653.76 บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าปริมาณที่หายไป, ขนาด 2,500 กรัม เหลือ 2,000 กรัม หายไปประมาณ 20% จากราคาเดิม 669.82 บาทต่อ 1 หีบ (มี 6 ถุง) เป็นราคา 588.48 บาท
จากการสำรวจราคาสินค้าจากโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นขนาดและราคาปัจจุบันก่อนที่จะปรับนั้น ผงซักฟอกบรีส เพาเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 4,000 กรัม ราคา 175 บาท ขนาด 2,500 กรัม ราคา 117 บาท และ ขนาด 1,000 กรัม ราคา 51 บาท และ 650 กรัม ราคา 31 บาท ส่วนราคาน้ำยาล้างจานซันไลต์ บรรจุภัณฑ์ขวด 800 ซีซี ราคา 25 บาท และบรรจุภัณฑ์ชนิดเติม 600 มล.ราคา 25.50 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ก็ได้ใช้กลยุทธ์ลดปริมาณมาแล้วเหมือนกันกับผงซักฟอกบรีสลงแต่ยังจำหน่ายราคาเท่าเดิม โดยบรีส สูตรมาตรฐานจาก 4,500 กรัม ราคา 240 บาท เป็น 4,000 กรัม ราคา 213 บาท, ขนาด 3,000 กรัม จาก 168 บาท เป็น ขนาด 2,500 กรัม ราคา 140 บาท, ขนาด 1,500 กรัม จาก 88 บาท เป็น 1,000 กรัม ราคา 58 บาท, ขนาด 700 กรัม จากราคา 45 บาท เป็นขนาด 650 กรัม 41 บาท และจากขนาด 200 กรัม จากราคา 13 บาท เหลือเป็น 155 กรัม ราคา 10 บาท
ทั้งนี้บริษัทยูนิลีเวอร์ได้ให้เหตุผลว่า การปรับลดขนาดสินค้าเมื่อปี 2548 เพราะผลจากต้นทุนวัตถุดิบสารเคมี STPPราคาได้ปรับขึ้นเมื่อตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันราคาได้สูงขึ้นมาจาก 500 บาทต่อตัน เป็น 700 บาทต่อตัน นอกจากนี้ยังอ้างว่าการลดปริมาณลงของผงซักฟอก เป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหันมาใช้สินค้าในขนาดที่เล็กลง เนื่องจากมีขนาดครอบครัวเล็กลง และปัจจัยหลักที่เป็นตัวผลักดัน คือ ด้านสภาพเศรษฐกิจ ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น
นับว่าเป็นกลยุทธ์ลดปริมาณ แต่จำหน่ายราคาเท่าเดิม ครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 2 ปี สำหรับบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดผงซักฟอกอย่างเบ็ดเสร็จ หรือเท่ากับว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนกลไกตลาดว่าจะไปในทิศทางใด โดยบรีสครองส่วนแบ่ง 43% แบ่งเป็น บรีส เพาเวอร์ เทอร์โบ 10% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9% เอกซ์เซล 14% บรีส คอมฟอร์ท 8% บรีส โกลด์ 2% บรีส ลิควิด 1% จากมูลค่าตลาด 12,500 ล้านบาท ซึ่งหากรวมโอโมและเซิร์บผงซักฟอกในบริษัทเท่ากับยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งในตลาดผงซักฟอกถึง 65% เช่นเดียวกับซันไลต์ ก็เป็นผู้นำตลาดน้ำยาล้างจาน ครองส่วนแบ่งราว 65% จากมูลค่าตลาดน้ำยาล้างจาน 2,144 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การที่ยูนิลีเวอร์เลือกใช้กลยุทธ์ลดปริมาณ เพราะการขึ้นราคาอาจมีผลทำให้ผู้บริโภคหันมาไปใช้สินค้าคู่แข่งได้ และนั่นอาจหมายถึงการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ทว่าสัญญาณการใช้กลยุทธ์ลดปริมาณ แต่ยังจำหน่ายราคาเท่าเดิมของบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง อาจลามมาสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ แชมพู และสบู่ เพราะเป็นสินค้าที่ใช้สารเคมี STPP ที่ทำให้เกิดฟองเหมือนกัน จึงมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเช่นเดียวกับผงซักฟอก นอกจากนี้บริษัทดังกล่าวยังเป็นผู้นำตลาดแชมพูและสบู่จึงเป็นเรื่องไม่ยากมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในวันงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์บรีส เอกเซล ลิควิด และบรีสเพาเวอร์ เทอร์โบ เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเรื่องการปรับราคาดังกล่าวกับทางผู้บริหาร ที่มาร่วมงานในวันนั้น คือ นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องใช้ส่วนบุคคล และนายอภิชาติ ศาลิคุปต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด แต่ก็ปฎิเสธที่จะตอบคำถาม.