ผู้จัดการรายวัน-กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศชำแหละเอฟทีเอ พบผลประโยชน์ไทยเพียบ เตรียมกระตุ้นเอกชนเร่งตักตวง เผยญี่ปุ่นลดภาษีสินค้าเกษตรให้ไทยมากมาย แถมเพิ่มโควตาให้ด้วย ขณะที่จีน อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เปิดตลาดให้ไทยไม่แพ้กัน
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการศึกษาผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับภายใต้ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ให้รับรู้ เพื่อให้เข้ามาใช้ประโยชน์จากข้อตกลงฯ ให้มากขึ้น
ทั้งนี้ เอฟทีเอที่กรมฯ ได้ศึกษานั้น เน้นไปที่เอฟทีเอที่ได้มีการตกลงเซ็นสัญญากันไปแล้ว ได้แก่ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เอฟทีเอไทย-จีน เอฟทีเอไทย-อินเดีย เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย และเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งพบว่ามีผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเปิดเสรีมากมาย โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้า จากการลดภาษีนำเข้าลง
โดยในส่วนของเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น พบว่าสินค้าผักและผลไม้เมืองร้อนแช่เย็นแช่แข็งส่วนใหญ่ยกเลิกภาษีใน 7-15 ปี แต่ฟักทอง ถั่วต่างๆ เห็ด มะกอก กระเจี๊ยบ และผักปรุงแต่งและทำไว้ไม่ให้เสีย ทุเรียนมะละกอ มะม่วง มังคุด มะพร้าว ผลไม้ปอกเปลือก ยกเลิกภาษีทันที สินค้าประมงแปรรูป ปลาแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อปลาฟิลเล ทูน่ากระป๋อง ปู หอย และปลาหมึกกล้วยแช่เย็น แช่แข็ง ส่วนใหญ่ยกเลิกภาษีใน 5 ปี ปลาปรุงสุก รวมปลาแซลมอน หรือทำไว้ไม่ให้เสีย ยกเลิกภาษีใน 7 ปี กุ้งสด กุ้งต้ม และกุ้งแปรรูป ยกเลิกภาษีทันที
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังให้โควตากับไทยเพิ่ม เช่น กากน้ำตาล ให้โควตา 4,000 ตันในปีที่ 3 และเพิ่มเป็น 5,000 ตันในปีที่ 4 พร้อมลดภาษีในโควตาจาก 15.3 เยน/กก.เหลือ 7.65 เยน/กก. แป้งมันสำปะหลังแปรรูปที่ใช้ในอุตสาหกรรมให้โควตาปลอดภาษีแก่ไทยปีละ 2 แสนตัน จากภาษีปกติ 6.8% กล้วย ให้โควตาปลอดภาษี 4,000 ตันในปีแรก และทยอยเพิ่มเป็น 8,000 ตัน ในปีที่ 5 จากภาษีปกติ 20-25% สับปะรดสด ให้โควตาปลอดภาษี 100 ตันในปีแรก และเพิ่มเป็น 500 ตันในปีที่ 5 จากภาษีปกติ 17% เนื้อหมูและแฮมแปรรูป ให้โควตา 1,200 ตัน ภาษี 16% จากภาษีปกติ 20%
ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ญี่ปุ่นจะยกเลิกภาษีสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทันที รองเท้าและเครื่องหนัง ยกเลิกภาษีภายใน 7-10 ปี โดยจะยกเลิกโควตาให้กับไทยด้วย ซึ่งภาษีปัจจุบันตั้งแต่ 3.4-60% ปิโตรเคมีและพลาสติก ยกเลิกภาษีทันทีถึง 6 ปี อัญมณีและเครื่องประดับ ยกเลิกภาษีทันที
ในด้านการค้าบริการ เปิดให้คนไทยเข้าไปตั้งกิจการ และส่งคนเข้าไปให้บริการในสาขาต่างๆ เช่น ช่างซ่อมรถ โฆษณา ตัวแทนท่องเที่ยวและจัดทัวร์ มัคคุเทศก์ โรงแรม บริหารโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง จัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ ตัดเย็บเสื้อผ้าและแฟชั่นดีไซน์ การออกแบบพิเศษ สอนนาฎศิลป์ไทย มวยไทย ดนตรีไทยและภาษาไทย ที่ปรึกษากฎหมาย ผังเมือง ก่อสร้าง วิศวกรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้พ่อครัว แม่ครัวไทยเข้าไปทำงานได้ โดยไม่ต้องจบปริญญาตรี และกำลังเปิดให้คนดูแลผู้สูงอายุ และพนักงานสปาไทย
สำหรับเอฟทีเอไทย-จีน มีสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์ คือ ผักและผลไม้ พิกัด 07-08 และสินค้าพิกัด 01-06 ที่ภาษีนำเข้าเป็น 0% รวมไปถึงสินค้าอีกกว่า 5,000 รายการที่จีนเปิดเสรีภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน เอฟทีเอไทย-อินเดีย มีสินค้าที่ได้ประโยชน์ เช่น เงาะ ลำไย มังคุด ทุเรียน องุ่น ข้าวสาลี อาหารทะเลกระป๋อง และสินค้าอุตสาหกรรม เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย สินค้าที่ไทยได้ประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้สด สับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรด อาหารสำเร็จรูป กระดาษ อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์ขนาดเล็กและรถปิกอัพ และเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ สินค้าที่ได้ประโยชน์ เช่น รถปิกอัพ กุ้งแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง อาหารทะเลกระป๋อง เม็ดพลาสติก พลาสติกและของทำจากพลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ของปรุงแต่งจากธัญพืช อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการศึกษาผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับภายใต้ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ให้รับรู้ เพื่อให้เข้ามาใช้ประโยชน์จากข้อตกลงฯ ให้มากขึ้น
ทั้งนี้ เอฟทีเอที่กรมฯ ได้ศึกษานั้น เน้นไปที่เอฟทีเอที่ได้มีการตกลงเซ็นสัญญากันไปแล้ว ได้แก่ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เอฟทีเอไทย-จีน เอฟทีเอไทย-อินเดีย เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย และเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งพบว่ามีผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเปิดเสรีมากมาย โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้า จากการลดภาษีนำเข้าลง
โดยในส่วนของเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น พบว่าสินค้าผักและผลไม้เมืองร้อนแช่เย็นแช่แข็งส่วนใหญ่ยกเลิกภาษีใน 7-15 ปี แต่ฟักทอง ถั่วต่างๆ เห็ด มะกอก กระเจี๊ยบ และผักปรุงแต่งและทำไว้ไม่ให้เสีย ทุเรียนมะละกอ มะม่วง มังคุด มะพร้าว ผลไม้ปอกเปลือก ยกเลิกภาษีทันที สินค้าประมงแปรรูป ปลาแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อปลาฟิลเล ทูน่ากระป๋อง ปู หอย และปลาหมึกกล้วยแช่เย็น แช่แข็ง ส่วนใหญ่ยกเลิกภาษีใน 5 ปี ปลาปรุงสุก รวมปลาแซลมอน หรือทำไว้ไม่ให้เสีย ยกเลิกภาษีใน 7 ปี กุ้งสด กุ้งต้ม และกุ้งแปรรูป ยกเลิกภาษีทันที
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังให้โควตากับไทยเพิ่ม เช่น กากน้ำตาล ให้โควตา 4,000 ตันในปีที่ 3 และเพิ่มเป็น 5,000 ตันในปีที่ 4 พร้อมลดภาษีในโควตาจาก 15.3 เยน/กก.เหลือ 7.65 เยน/กก. แป้งมันสำปะหลังแปรรูปที่ใช้ในอุตสาหกรรมให้โควตาปลอดภาษีแก่ไทยปีละ 2 แสนตัน จากภาษีปกติ 6.8% กล้วย ให้โควตาปลอดภาษี 4,000 ตันในปีแรก และทยอยเพิ่มเป็น 8,000 ตัน ในปีที่ 5 จากภาษีปกติ 20-25% สับปะรดสด ให้โควตาปลอดภาษี 100 ตันในปีแรก และเพิ่มเป็น 500 ตันในปีที่ 5 จากภาษีปกติ 17% เนื้อหมูและแฮมแปรรูป ให้โควตา 1,200 ตัน ภาษี 16% จากภาษีปกติ 20%
ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ญี่ปุ่นจะยกเลิกภาษีสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทันที รองเท้าและเครื่องหนัง ยกเลิกภาษีภายใน 7-10 ปี โดยจะยกเลิกโควตาให้กับไทยด้วย ซึ่งภาษีปัจจุบันตั้งแต่ 3.4-60% ปิโตรเคมีและพลาสติก ยกเลิกภาษีทันทีถึง 6 ปี อัญมณีและเครื่องประดับ ยกเลิกภาษีทันที
ในด้านการค้าบริการ เปิดให้คนไทยเข้าไปตั้งกิจการ และส่งคนเข้าไปให้บริการในสาขาต่างๆ เช่น ช่างซ่อมรถ โฆษณา ตัวแทนท่องเที่ยวและจัดทัวร์ มัคคุเทศก์ โรงแรม บริหารโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง จัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ ตัดเย็บเสื้อผ้าและแฟชั่นดีไซน์ การออกแบบพิเศษ สอนนาฎศิลป์ไทย มวยไทย ดนตรีไทยและภาษาไทย ที่ปรึกษากฎหมาย ผังเมือง ก่อสร้าง วิศวกรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้พ่อครัว แม่ครัวไทยเข้าไปทำงานได้ โดยไม่ต้องจบปริญญาตรี และกำลังเปิดให้คนดูแลผู้สูงอายุ และพนักงานสปาไทย
สำหรับเอฟทีเอไทย-จีน มีสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์ คือ ผักและผลไม้ พิกัด 07-08 และสินค้าพิกัด 01-06 ที่ภาษีนำเข้าเป็น 0% รวมไปถึงสินค้าอีกกว่า 5,000 รายการที่จีนเปิดเสรีภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน เอฟทีเอไทย-อินเดีย มีสินค้าที่ได้ประโยชน์ เช่น เงาะ ลำไย มังคุด ทุเรียน องุ่น ข้าวสาลี อาหารทะเลกระป๋อง และสินค้าอุตสาหกรรม เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย สินค้าที่ไทยได้ประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้สด สับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรด อาหารสำเร็จรูป กระดาษ อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์ขนาดเล็กและรถปิกอัพ และเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ สินค้าที่ได้ประโยชน์ เช่น รถปิกอัพ กุ้งแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง อาหารทะเลกระป๋อง เม็ดพลาสติก พลาสติกและของทำจากพลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ของปรุงแต่งจากธัญพืช อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น