ส่งออกเกษตร - อาหารมีแววรุ่ง รับอานิสงส์โลกร้อน-น้ำมันแพง

ชี้สินค้าเกษตรและอาหารไทยปี 2551 รับอานิสงส์โลกร้อน และราคาน้ำมันแพง ส่งออกมีสิทธิ์ขยายตัวร้อยละ 7.2 มูลค่า 6.6 แสนล้านบาท ระบุคู่แข่งยังมีปัญหาสุขอนามัย เผยข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน เป็นดาวเด่น

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในปี 2551 การส่งออกธุรกิจเกษตรและอาหาร คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มร้อยละ 7.2 มูลค่าประมาณ 6.6 แสนล้านบาท เนื่องจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนทำให้พื้นที่เพาะปลูกเสียหาย ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร และพืชอาหารบางส่วนถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพง

อีกทั้ง คู่แข่งที่สำคัญคือจีนและเวียดนามกำลังประสบปัญหาเรื่องสุขอนามัยอาหาร ทำให้คู่ค้าหันมานำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมัน เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น จะมีราคาสูงขึ้นและมีการส่งออกมากเป็นอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่าเงินบาทแข็ง และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้กำไรของผู้ประกอบการลดลง

ในส่วนของการคาดการณ์การส่งออกรายสินค้าในปี 2551 นั้น กลุ่มสินค้าประมงที่สำคัญ ได้แก่ กุ้ง คาดว่าจะมีมูลค่า 85,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับปี 2550 ทูน่ากระป๋องแปรรูป คาดว่าจะมีมูลค่า 53,796 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับปี 2550

ในขณะที่กลุ่มผักและผลไม้ การส่งออกผลไม้กระป๋องและผลไม้แปรรูป คาดว่าจะมีมูลค่า 34,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับปี 2550 ส่วนผักสดและผักแปรรูป คาดว่าจะมีมูลค่า 19,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 สำหรับกลุ่มสินค้าอื่นๆ อาทิ ข้าว คาดว่าจะมีมูลค่า 119,106 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับปี 2550

ส่วนมันสำปะหลังอัดเม็ดและมันเส้น คาดว่าจะมีมูลค่า 20,495 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 แป้งมันสำปะหลัง คาดว่าจะมีมูลค่า 16,042 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.5 ไก่และสัตว์ปีก คาดว่าจะมีมูลค่า 46,464 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อย 12.5 เมื่อเทียบกับปี 2550