ปกติผมไม่ชอบพูดคำหยาบ แต่วันนี้ผมขอจั่วหัวเรื่องด้วยคำบางคำตามรสนิยมของนายกรัฐมนตรีประเทศไทยคนที่ 25 เพื่อให้สมน้ำสมเนื้อ ผมขอเขียนบทความด้วยภาษาหยาบสถุล ประเภทเดียวกับที่ นายสมัคร สุนทรเวช ชอบใช้ เช่น คลื่นไส้..ห่วยแตก..ทุเรศ..เสพเมถุนแล้วหรือยัง ฯลฯ
มนุษย์เชื่อว่า”ความลับ-ไม่มีในโลก” แต่มีมนุษย์จำนวนไม่น้อยคิดว่า ตนยังแอบปกปิดความลับเอาไว้ได้ ดังนั้น..มนุษย์เลวๆ พวกนั้น จึงกล้าโกหกพกลมมนุษย์ด้วยกันเองแบบซึ่งๆ หน้าเสมอมา
แต่ที่น่าเกลียด..หรือร้ายแรงกว่านั้น ก็คือ เรื่องชั่วๆ ที่ “ความจริงถูกเปิดจนรู้กันให้แซด” ไปทั้งโลก แต่คนแย่ๆ บางคนยังดัน (เสือก)โกหกอย่างหน้าด้านๆ ได้ นั่นต้องถือเป็นเรื่องโคตรทุเรศที่สุดในโลกครับ
การได้เป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ของนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้ทำให้เขาสลัดความเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” ที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ได้เลย
นายสมัคร สุนทรเวช ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 ระบุว่า
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ผ่านมากว่า 30 ปีนั้น มีคนโชคร้ายตายเพียงแค่ 1 คน เท่านั้น!!!
โกหกเท่านี้ยังไม่พอ..วันแรกของการแถลงนโยบายรัฐบาล นายกฯ จมูกชมพู่สมัคร สุนทรเวช ยังได้ลุกขึ้นสาบานว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือทำอะไรในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เลย
โถ..ไอ้หอกหัก..ทำไม (เอ็ง) กล้าลวงโลกได้ถึงขนาดนี้ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่ทำผิดแล้วไม่รับผิดชอบ ยัง (เสือก) ดันมาบิดเบือนข้อมูลหน้าด้านๆ อีก..?
ข่าวสารหลักฐานจากภาพถ่ายและวิดีโอ ที่สื่อมวลชนและช่างภาพทั้งไทยและต่างประเทศบันทึกไว้มากมาย ล้วนยืนยันข้อเท็จจริงนี้ไปทั่วโลกว่า ในช่วงก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้น นายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 คนนี้นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำสำคัญของการปลุกระดมใส่ร้ายป้ายสีนักศึกษาและประชาชน ที่กำลังประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตเผด็จการทหารที่สั่งสังหารหมู่ประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
การกระทำครั้งนั้นของนายสมัคร สุนทรเวช ได้นำไปสู่เหตุการณ์บานปลายจนเกิดการเข่นฆ่าอย่างหฤโหด กลางกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งนายสมัครเองยังเคยยอมรับว่า มีคนตายในเหตุการณ์นั้นจริง แต่เขาโบ้ยให้คนที่ตายเพราะถูกเผาทั้งเป็น ถูกแขวนคอใต้ต้นมะขามสนามหลวง ถูกตอกเหล็กหลาวเป็นๆ กลางอกจนตาย ฯลฯ ล้วนเป็นคนญวน!
พูดตรงๆ คือ คนที่ถูกฆ่าตาย (สมควรถูกฆ่า) นั้น เป็นพวกคอมมิวนิสต์ (ญวน)!
ทว่า..รายชื่อคนตายตามที่ทางการยอมรับนั้น กลับไม่มีชื่อคนญวนสักคน..ทั้งหมดเป็นคนไทย ที่ต้องตายหมู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ถึง 46 คน สูญหายอีกกว่า 100 คน!
หลังจากนั้น..ทหารภายใต้การนำของ พล.ร.อ.สงัด ชะลออยู่ ก็ลากปืนกับรถถังออกมาทำรัฐประหาร การ “ใช้ปากฆ่าคนอย่างเลือดเย็น” ครั้งนั้น ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช ได้รับการปูนบำเหน็จด้วยการแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีใหญ่..ว่าการกระทรวงมหาดไทย!!!
ผมต้องขอยกนิ้วโป้งของหัวแม่มือ รวมทั้งนิ้วโป้งของหัวแม่เท้าทั้งหมด ให้กับนายกรัฐมนตรีจมูกชมพู่มะเหมี่ยว นายสมัคร สุนทรเวช คนนี้ว่า
ใจถึงและใจกล้าจริงๆ.. กล้าโกหกหลอกลวงคนไทยอย่างหน้าด้านๆ โดยไม่รู้สึกอายฟ้าดินและผู้คนทั้งโลกแม้แต่นิดเดียว
ทั้งๆ ที่คนไทย-ชาวโลกและผมเชื่อว่า..ตัวนายสมัคร สุนทรเวช เองนั่นแหละ ก็รู้ทั้งรู้อยู่ในหัวอกว่า คนที่ตายในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นั้น มิใช่ตายเพียงแค่คนเดียวอย่างแน่นอน แต่นายสมัคร-จมูกชมพู่ ยังจงใจโกหกกันแบบซึ่งๆ หน้าอย่างเต็มปากเต็มคำว่า มีคนตายเพียงคนเดียว!
วันนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ และรอดชีวิตมา รวมทั้งญาติพี่น้องของเหล่าวีรชนที่เสียสละชีวิต ยังคงมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้จำนวนมากมาย ดังนั้นความจริงจึงถูกนายสมัครนำความเท็จมาปกปิด-บิดเบือน หรือโกหกพกลมลวงโลกตามอำเภอใจไม่ได้
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า การกระทำของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่เที่ยวให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศชุ่ยๆ เช่นนี้ นับเป็นเรื่องน่ากลัว น่าตระหนก น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง น่าประณามสาปแช่ง และนำความขายหน้ามาสู่คนไทยและประเทศชาติอย่างยิ่ง ฯลฯ
เรื่องที่รู้ๆ กันอยู่อย่างชัดเจน และมีการบันทึกทั้งในเชิงข่าวสาร สารคดี ประวัติศาสตร์ ฯลฯ เป็นประจักษ์พยานโต้งๆ แบบนี้ นายกรัฐมนตรีชื่อ สมัคร สุนทรเวช ยังกล้าโกหกคนไทยและชาวโลกอย่างหน้าด้านๆ แล้วเราจะเชื่ออะไรกับคำพูดของนายกฯ จมูกชมพู่คนนี้ได้อีกล่ะ?
แน่นอน..การพูดโกหกพกลมหน้าตาเฉย ของนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ครานี้ ย่อมได้รับการวิพากษ์วิจารณ์-ประท้วง-ประณามจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะบรรดาผู้ร่วมในเหตุการณ์หรือ “คนเดือนตุลา” รวมทั้งญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ยกเว้นพวก “คนเดือนตุลา (ชิน) จอมปลอม” ที่กำลังเสวยสุขในเงินทองและอำนาจยศศักดิ์ทางการเมือง ด้วยการเป็นกองกำลังสำคัญทางการเมืองให้ นายสมัคร สุนทรเวช ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชักใยอยู่เบื้องหลัง
คนเดือนตุลา (ชิน) ดังกล่าวทั้งหมด ได้กลายพันธุ์และผสมพันธุ์กับคนที่เคยฆ่า เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมอุดมการณ์ของพวกเขาอย่างหน้าตาเฉย ทุกวันนี้พวกเขายังคงทำตัวนิ่งเฉยไร้ความรู้สึกราวสากกะเบือ ทั้งๆ ที่ในอดีตคนปากกล้าพวกนี้ เคยต่อกรกับพวกอธรรมอย่างกล้าหาญมาก่อน และหนึ่งในอธรรมที่คนตุลาชินเคยต่อสู้มาแล้วชื่อ..สมัคร สุนทรเวช ครับ!
คิดแล้วเศร้า..และน่าขยะแขยง เมื่อเห็นบรรดานักสู้จอมปลอมแห่งเดือนตุลาเหล่านี้ อาศัยซากศพเหล่าวีรชนเดือนตุลา เป็นบันไดของคนสามานย์เหล่านั้น ใช้เหยียบขึ้นสู่การเสวยสุขทางการเมืองอย่างหน้าด้านๆ
เหลือเชื่อ..แต่เป็นเรื่องจริงมิใช่อิงนิยาย ที่เวลาผ่านไปแค่ 30 กว่าปีเท่านั้น คนเดือนตุลาค่ายชินได้กลายพันธุ์-ผสมพันธุ์ กับคนอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ได้อย่างหน้าตาเฉย และดูผสมกลมกลืนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันได้ถึงขนาดนี้
บรรดาคนเดือนตุลาค่ายชินวัตร ทำราวกับไม่เคยมีเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนอย่างหฤโหด ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เกิดขึ้นในประเทศนี้ และที่สำคัญพวกเขาคนเดือนตุลาชิน ก็มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นไม่มากก็น้อยครับ!!!
คนเดือนตุลาค่ายชิน..ขายจิตวิญญาณและประพฤติตนเสมือนเป็นลูกจ้าง ที่กินเงินเดือนประจำของตระกูลชินวัตร ซึ่งจ้างพวกเขาให้เป็นผี-โม่แป้งทางการเมืองอย่างซื่อสัตย์ไงล่ะครับ
มาถึงตอนนี้ผมก็ถึงบางอ้อครับว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยนั้น..อยู่ที่คน-คนและคนนั่นเอง
ขนาดคนเดือนตุลาที่สังคมคิดว่า น่าจะเป็นคนมีคุณภาพและดีที่สุดแล้ว แต่คนเหล่านี้ยังถูกเงิน-อำนาจ-ยศถาบรรดาศักดิ์ทำให้กลายพันธุ์ได้เลย ยิ่งมาผสมพันธุ์กับคนการเมืองแบบเก่าๆ และคนที่มุ่งเพียงทำธุรกิจการเมืองสถานเดียวผสมโรงเข้าไปอีก ประชาธิปไตยไทยจึงได้ถอยหลังเข้าคลอง ด้วยระบอบธนาธิปไตยที่ใช้การเลือกตั้งมายึดอำนาจรัฐไงล่ะครับ
ทักษิณ ชินวัตร คือผู้“ทำคลอด”นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 และครม.อัปลักษณ์คณะนี้ รวมทั้งยังทำเรื่องไม่ดีอีกมากมาย เห็นไหมล่ะว่า..ต้นเหตุปัญหาของประเทศไทย..เกิดขึ้นเพราะคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น
ผมต้องขอตะโกนดังๆ ตอนจบข้อเขียนนี้ถึง นายสมัคร สุนทรเวช ว่า..
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นั้น มีคนตายถึง 46 คน สูญหายอีกนับ 100 คน ไม่ใช่ตาย 1 คนอย่างที่ (เอ็ง) “เด็กเลี้ยงแกะสมัคร” เที่ยวพูดโกหกพกลมกับสำนักข่าวต่างประเทศ
ส่วนที่พูดในสภาฯว่า..ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้นั้น แหม.. (เอ็งนี่) จ้อ..ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ เรื่องนี้คนก็รู้กันทั้งเมืองเช่นกันว่า ถึงนายสมัคร สุนทรเวช มิได้ถือปืนเที่ยวยิงคนในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็จริง แต่ปากร้ายๆ เน่าๆ ของ (เอ็ง) นายสมัคร สุนทรเวช นั่นแหละ..ที่ (ฆ่าคน)พูดใส่ร้ายและปลุกระดม จนคนไทยฆ่ากันตายเป็นเบืออย่างเหี้ยมโหด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ขอบอกว่า.. (มึง) นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 (จอมลวงโลก) หยุดโกหก (กู) ประชาชนได้แล้ว!!!
มนุษย์เชื่อว่า”ความลับ-ไม่มีในโลก” แต่มีมนุษย์จำนวนไม่น้อยคิดว่า ตนยังแอบปกปิดความลับเอาไว้ได้ ดังนั้น..มนุษย์เลวๆ พวกนั้น จึงกล้าโกหกพกลมมนุษย์ด้วยกันเองแบบซึ่งๆ หน้าเสมอมา
แต่ที่น่าเกลียด..หรือร้ายแรงกว่านั้น ก็คือ เรื่องชั่วๆ ที่ “ความจริงถูกเปิดจนรู้กันให้แซด” ไปทั้งโลก แต่คนแย่ๆ บางคนยังดัน (เสือก)โกหกอย่างหน้าด้านๆ ได้ นั่นต้องถือเป็นเรื่องโคตรทุเรศที่สุดในโลกครับ
การได้เป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ของนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้ทำให้เขาสลัดความเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” ที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ได้เลย
นายสมัคร สุนทรเวช ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 ระบุว่า
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ผ่านมากว่า 30 ปีนั้น มีคนโชคร้ายตายเพียงแค่ 1 คน เท่านั้น!!!
โกหกเท่านี้ยังไม่พอ..วันแรกของการแถลงนโยบายรัฐบาล นายกฯ จมูกชมพู่สมัคร สุนทรเวช ยังได้ลุกขึ้นสาบานว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือทำอะไรในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เลย
โถ..ไอ้หอกหัก..ทำไม (เอ็ง) กล้าลวงโลกได้ถึงขนาดนี้ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่ทำผิดแล้วไม่รับผิดชอบ ยัง (เสือก) ดันมาบิดเบือนข้อมูลหน้าด้านๆ อีก..?
ข่าวสารหลักฐานจากภาพถ่ายและวิดีโอ ที่สื่อมวลชนและช่างภาพทั้งไทยและต่างประเทศบันทึกไว้มากมาย ล้วนยืนยันข้อเท็จจริงนี้ไปทั่วโลกว่า ในช่วงก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้น นายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 คนนี้นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำสำคัญของการปลุกระดมใส่ร้ายป้ายสีนักศึกษาและประชาชน ที่กำลังประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตเผด็จการทหารที่สั่งสังหารหมู่ประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
การกระทำครั้งนั้นของนายสมัคร สุนทรเวช ได้นำไปสู่เหตุการณ์บานปลายจนเกิดการเข่นฆ่าอย่างหฤโหด กลางกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งนายสมัครเองยังเคยยอมรับว่า มีคนตายในเหตุการณ์นั้นจริง แต่เขาโบ้ยให้คนที่ตายเพราะถูกเผาทั้งเป็น ถูกแขวนคอใต้ต้นมะขามสนามหลวง ถูกตอกเหล็กหลาวเป็นๆ กลางอกจนตาย ฯลฯ ล้วนเป็นคนญวน!
พูดตรงๆ คือ คนที่ถูกฆ่าตาย (สมควรถูกฆ่า) นั้น เป็นพวกคอมมิวนิสต์ (ญวน)!
ทว่า..รายชื่อคนตายตามที่ทางการยอมรับนั้น กลับไม่มีชื่อคนญวนสักคน..ทั้งหมดเป็นคนไทย ที่ต้องตายหมู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ถึง 46 คน สูญหายอีกกว่า 100 คน!
หลังจากนั้น..ทหารภายใต้การนำของ พล.ร.อ.สงัด ชะลออยู่ ก็ลากปืนกับรถถังออกมาทำรัฐประหาร การ “ใช้ปากฆ่าคนอย่างเลือดเย็น” ครั้งนั้น ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช ได้รับการปูนบำเหน็จด้วยการแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีใหญ่..ว่าการกระทรวงมหาดไทย!!!
ผมต้องขอยกนิ้วโป้งของหัวแม่มือ รวมทั้งนิ้วโป้งของหัวแม่เท้าทั้งหมด ให้กับนายกรัฐมนตรีจมูกชมพู่มะเหมี่ยว นายสมัคร สุนทรเวช คนนี้ว่า
ใจถึงและใจกล้าจริงๆ.. กล้าโกหกหลอกลวงคนไทยอย่างหน้าด้านๆ โดยไม่รู้สึกอายฟ้าดินและผู้คนทั้งโลกแม้แต่นิดเดียว
ทั้งๆ ที่คนไทย-ชาวโลกและผมเชื่อว่า..ตัวนายสมัคร สุนทรเวช เองนั่นแหละ ก็รู้ทั้งรู้อยู่ในหัวอกว่า คนที่ตายในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นั้น มิใช่ตายเพียงแค่คนเดียวอย่างแน่นอน แต่นายสมัคร-จมูกชมพู่ ยังจงใจโกหกกันแบบซึ่งๆ หน้าอย่างเต็มปากเต็มคำว่า มีคนตายเพียงคนเดียว!
วันนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ และรอดชีวิตมา รวมทั้งญาติพี่น้องของเหล่าวีรชนที่เสียสละชีวิต ยังคงมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้จำนวนมากมาย ดังนั้นความจริงจึงถูกนายสมัครนำความเท็จมาปกปิด-บิดเบือน หรือโกหกพกลมลวงโลกตามอำเภอใจไม่ได้
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า การกระทำของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่เที่ยวให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศชุ่ยๆ เช่นนี้ นับเป็นเรื่องน่ากลัว น่าตระหนก น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง น่าประณามสาปแช่ง และนำความขายหน้ามาสู่คนไทยและประเทศชาติอย่างยิ่ง ฯลฯ
เรื่องที่รู้ๆ กันอยู่อย่างชัดเจน และมีการบันทึกทั้งในเชิงข่าวสาร สารคดี ประวัติศาสตร์ ฯลฯ เป็นประจักษ์พยานโต้งๆ แบบนี้ นายกรัฐมนตรีชื่อ สมัคร สุนทรเวช ยังกล้าโกหกคนไทยและชาวโลกอย่างหน้าด้านๆ แล้วเราจะเชื่ออะไรกับคำพูดของนายกฯ จมูกชมพู่คนนี้ได้อีกล่ะ?
แน่นอน..การพูดโกหกพกลมหน้าตาเฉย ของนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ครานี้ ย่อมได้รับการวิพากษ์วิจารณ์-ประท้วง-ประณามจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะบรรดาผู้ร่วมในเหตุการณ์หรือ “คนเดือนตุลา” รวมทั้งญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ยกเว้นพวก “คนเดือนตุลา (ชิน) จอมปลอม” ที่กำลังเสวยสุขในเงินทองและอำนาจยศศักดิ์ทางการเมือง ด้วยการเป็นกองกำลังสำคัญทางการเมืองให้ นายสมัคร สุนทรเวช ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชักใยอยู่เบื้องหลัง
คนเดือนตุลา (ชิน) ดังกล่าวทั้งหมด ได้กลายพันธุ์และผสมพันธุ์กับคนที่เคยฆ่า เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมอุดมการณ์ของพวกเขาอย่างหน้าตาเฉย ทุกวันนี้พวกเขายังคงทำตัวนิ่งเฉยไร้ความรู้สึกราวสากกะเบือ ทั้งๆ ที่ในอดีตคนปากกล้าพวกนี้ เคยต่อกรกับพวกอธรรมอย่างกล้าหาญมาก่อน และหนึ่งในอธรรมที่คนตุลาชินเคยต่อสู้มาแล้วชื่อ..สมัคร สุนทรเวช ครับ!
คิดแล้วเศร้า..และน่าขยะแขยง เมื่อเห็นบรรดานักสู้จอมปลอมแห่งเดือนตุลาเหล่านี้ อาศัยซากศพเหล่าวีรชนเดือนตุลา เป็นบันไดของคนสามานย์เหล่านั้น ใช้เหยียบขึ้นสู่การเสวยสุขทางการเมืองอย่างหน้าด้านๆ
เหลือเชื่อ..แต่เป็นเรื่องจริงมิใช่อิงนิยาย ที่เวลาผ่านไปแค่ 30 กว่าปีเท่านั้น คนเดือนตุลาค่ายชินได้กลายพันธุ์-ผสมพันธุ์ กับคนอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ได้อย่างหน้าตาเฉย และดูผสมกลมกลืนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันได้ถึงขนาดนี้
บรรดาคนเดือนตุลาค่ายชินวัตร ทำราวกับไม่เคยมีเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนอย่างหฤโหด ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เกิดขึ้นในประเทศนี้ และที่สำคัญพวกเขาคนเดือนตุลาชิน ก็มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นไม่มากก็น้อยครับ!!!
คนเดือนตุลาค่ายชิน..ขายจิตวิญญาณและประพฤติตนเสมือนเป็นลูกจ้าง ที่กินเงินเดือนประจำของตระกูลชินวัตร ซึ่งจ้างพวกเขาให้เป็นผี-โม่แป้งทางการเมืองอย่างซื่อสัตย์ไงล่ะครับ
มาถึงตอนนี้ผมก็ถึงบางอ้อครับว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยนั้น..อยู่ที่คน-คนและคนนั่นเอง
ขนาดคนเดือนตุลาที่สังคมคิดว่า น่าจะเป็นคนมีคุณภาพและดีที่สุดแล้ว แต่คนเหล่านี้ยังถูกเงิน-อำนาจ-ยศถาบรรดาศักดิ์ทำให้กลายพันธุ์ได้เลย ยิ่งมาผสมพันธุ์กับคนการเมืองแบบเก่าๆ และคนที่มุ่งเพียงทำธุรกิจการเมืองสถานเดียวผสมโรงเข้าไปอีก ประชาธิปไตยไทยจึงได้ถอยหลังเข้าคลอง ด้วยระบอบธนาธิปไตยที่ใช้การเลือกตั้งมายึดอำนาจรัฐไงล่ะครับ
ทักษิณ ชินวัตร คือผู้“ทำคลอด”นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 และครม.อัปลักษณ์คณะนี้ รวมทั้งยังทำเรื่องไม่ดีอีกมากมาย เห็นไหมล่ะว่า..ต้นเหตุปัญหาของประเทศไทย..เกิดขึ้นเพราะคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น
ผมต้องขอตะโกนดังๆ ตอนจบข้อเขียนนี้ถึง นายสมัคร สุนทรเวช ว่า..
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นั้น มีคนตายถึง 46 คน สูญหายอีกนับ 100 คน ไม่ใช่ตาย 1 คนอย่างที่ (เอ็ง) “เด็กเลี้ยงแกะสมัคร” เที่ยวพูดโกหกพกลมกับสำนักข่าวต่างประเทศ
ส่วนที่พูดในสภาฯว่า..ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้นั้น แหม.. (เอ็งนี่) จ้อ..ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ เรื่องนี้คนก็รู้กันทั้งเมืองเช่นกันว่า ถึงนายสมัคร สุนทรเวช มิได้ถือปืนเที่ยวยิงคนในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็จริง แต่ปากร้ายๆ เน่าๆ ของ (เอ็ง) นายสมัคร สุนทรเวช นั่นแหละ..ที่ (ฆ่าคน)พูดใส่ร้ายและปลุกระดม จนคนไทยฆ่ากันตายเป็นเบืออย่างเหี้ยมโหด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ขอบอกว่า.. (มึง) นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 (จอมลวงโลก) หยุดโกหก (กู) ประชาชนได้แล้ว!!!
