ผู้จัดการรายวัน – ททท.ร่ายมนต์ กล่อมสายการบินย่านเอเชียเปิดเส้นทางเข้าไทย โหวังผลเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มีตลอดทั้งปี ล่าสุดสายการบิน Cebu Pacific จากฟิลิปปินส์ ใจอ่อนเปิดเส้นทางเข้าเชียงใหม่ มีนาคมนี้ เผยตลาดออสเตรเลียและฟิลิปปินส์อนาคตใสขอโตอีก 20%
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับหลายสายการบินในย่านเอเชียแต่ยังเปิดเผยรายชื่อไม่ได้ เพื่อให้เปิดเที่ยวบินมาลงยังสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ททท.ต้องการกระจายนักท่องเที่ยวลงสู่จังหวัดอื่นๆให้ทั่วประเทศทุกภูมิภาค ไม่ต้องไปกระจุกตัวที่กรุงเทพหรือภูเก็ตเท่านั้น
โดยล่าสุด สายการบิน Cebu Pacific Air ซึ่งเป็นสายการบิน โลว์คอสต์ ของประเทศฟิลิปปินส์ ตอบรับที่จะเปิดเที่ยวบินมาลงที่เชียงใหม่ในปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันสายการบินดังกล่าว บินจากฟิลิปปินส์มากรุงเทพฯอยู่แล้วสัปดาห์ละ 7 เที่ยว การเปิดเส้นทางใหม่ครั้งนี้จะช่วยขยายตลาดฟิลิปปินส์ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีเที่ยวบินจากประเทศอินโดนีเซียอีกประเทศหนึ่งที่จะเปิดเส้นทางบินมาลงเชียงใหม่เช่นกัน
ทั้งนี้ยอมรับว่า ปัญหาสายการบินไม่เปิดเส้นทางบินเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อการที่ ททท. จะโปรโมตเดสติเนชั่นท่องเที่ยว เพราะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางลำบาก ก็จะเปลี่ยนใจเลือกที่ไปเที่ยวได้สะดวกกว่าแทน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเห็นใจสายการบินด้วยเพราะการเปิดเส้นทางบินจะต้องมีผู้โดยสารทั้งขาไปและขากลับ
แต่ที่ประเทศไทยประสบปัญหาปัจจุบัน เพราะขากลับของเที่ยวบิน จะมีผู้โดยสารจำนวนน้อย ไม่คุ้มทุน เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยปีละกว่า 14 ล้านคน แต่มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 3-4 ล้านคน เท่านั้น แต่ททท.ก็ไม่ย่อท้อ ได้ให้ทุกสำนักงานในต่างประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ไปเจรจาผูกสัมพันธ์กับสายการบิน เพื่อให้เขาเปิดเส้นทางเข้ามา โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดใกล้ เดินทางได้บ่อยครั้งในหนึ่งปี
ทางด้านนายประกิตต์ พิริยะเกียรติ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดที่ตนดูแลอยู่จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น เน้นการโรดโชว์พบปะผู้ประกอบการโดยตรงกับประเทศนั้นๆ รวมถึงการจัดแฟมทริป เข้ามาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งมองว่า ตลาด สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และตลาดใหม่ อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย น่าจะสนใจเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะมีหลากหลายกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ทั้ง ชอปปิ้ง ธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ จึงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ที่ใช้เงินจ่ายเงินจำนวนมาก ตรงตามเป้าหมายของ ททท.
กลยุทธ์ของ ททท. จะนำเสนอเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกิมมิกต่างๆ ให้เป็นธีมที่น่าสนใจ นำเสนอโรงแรม บูติก แบบไลฟสไตล์ ผสานกับวัฒนธรรมพื้นเมือง และกิจกรรมต่างๆ เช่น สปา กอล์ฟ ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เชียงใหม่ หมู่บ้านโอท็อป และอื่น ที่เหมาะเป็นที่พักผ่อน ทั้งแบบ ครอบครัว หนุ่มสาว และคู่ฮันนีมูน ซึ่งตลาดออสเตรเลีย ททท.ตั้งเป้าหมายว่า ปีนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้เกือบ 6 แสนคน เพิ่มจากปีก่อนราว 20% ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ก็ตั้งเป้าว่าจะเติบโตมากกว่า 20% เช่นกัน หรือมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยไม่น้อยกว่า 3 แสนคน เพราะทั้งสองประเทศมีตัวเลขการเติบโตตลาดละกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเดินทางที่สะดวกขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามภาคเอกชนทางภาคเหนือ พบว่า ต้องการให้ ททท. มีการจัดอีเว้นต์ ที่เป็นระดับประเทศ เหมือนงานพืชสวนโลกที่เคยจัดมาแล้ว โดยจัดลงในปฎิทินกิจกรรมประจำปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับหลายสายการบินในย่านเอเชียแต่ยังเปิดเผยรายชื่อไม่ได้ เพื่อให้เปิดเที่ยวบินมาลงยังสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ททท.ต้องการกระจายนักท่องเที่ยวลงสู่จังหวัดอื่นๆให้ทั่วประเทศทุกภูมิภาค ไม่ต้องไปกระจุกตัวที่กรุงเทพหรือภูเก็ตเท่านั้น
โดยล่าสุด สายการบิน Cebu Pacific Air ซึ่งเป็นสายการบิน โลว์คอสต์ ของประเทศฟิลิปปินส์ ตอบรับที่จะเปิดเที่ยวบินมาลงที่เชียงใหม่ในปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันสายการบินดังกล่าว บินจากฟิลิปปินส์มากรุงเทพฯอยู่แล้วสัปดาห์ละ 7 เที่ยว การเปิดเส้นทางใหม่ครั้งนี้จะช่วยขยายตลาดฟิลิปปินส์ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีเที่ยวบินจากประเทศอินโดนีเซียอีกประเทศหนึ่งที่จะเปิดเส้นทางบินมาลงเชียงใหม่เช่นกัน
ทั้งนี้ยอมรับว่า ปัญหาสายการบินไม่เปิดเส้นทางบินเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อการที่ ททท. จะโปรโมตเดสติเนชั่นท่องเที่ยว เพราะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางลำบาก ก็จะเปลี่ยนใจเลือกที่ไปเที่ยวได้สะดวกกว่าแทน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเห็นใจสายการบินด้วยเพราะการเปิดเส้นทางบินจะต้องมีผู้โดยสารทั้งขาไปและขากลับ
แต่ที่ประเทศไทยประสบปัญหาปัจจุบัน เพราะขากลับของเที่ยวบิน จะมีผู้โดยสารจำนวนน้อย ไม่คุ้มทุน เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยปีละกว่า 14 ล้านคน แต่มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 3-4 ล้านคน เท่านั้น แต่ททท.ก็ไม่ย่อท้อ ได้ให้ทุกสำนักงานในต่างประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ไปเจรจาผูกสัมพันธ์กับสายการบิน เพื่อให้เขาเปิดเส้นทางเข้ามา โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดใกล้ เดินทางได้บ่อยครั้งในหนึ่งปี
ทางด้านนายประกิตต์ พิริยะเกียรติ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดที่ตนดูแลอยู่จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น เน้นการโรดโชว์พบปะผู้ประกอบการโดยตรงกับประเทศนั้นๆ รวมถึงการจัดแฟมทริป เข้ามาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งมองว่า ตลาด สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และตลาดใหม่ อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย น่าจะสนใจเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะมีหลากหลายกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ทั้ง ชอปปิ้ง ธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ จึงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ที่ใช้เงินจ่ายเงินจำนวนมาก ตรงตามเป้าหมายของ ททท.
กลยุทธ์ของ ททท. จะนำเสนอเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกิมมิกต่างๆ ให้เป็นธีมที่น่าสนใจ นำเสนอโรงแรม บูติก แบบไลฟสไตล์ ผสานกับวัฒนธรรมพื้นเมือง และกิจกรรมต่างๆ เช่น สปา กอล์ฟ ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เชียงใหม่ หมู่บ้านโอท็อป และอื่น ที่เหมาะเป็นที่พักผ่อน ทั้งแบบ ครอบครัว หนุ่มสาว และคู่ฮันนีมูน ซึ่งตลาดออสเตรเลีย ททท.ตั้งเป้าหมายว่า ปีนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้เกือบ 6 แสนคน เพิ่มจากปีก่อนราว 20% ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ก็ตั้งเป้าว่าจะเติบโตมากกว่า 20% เช่นกัน หรือมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยไม่น้อยกว่า 3 แสนคน เพราะทั้งสองประเทศมีตัวเลขการเติบโตตลาดละกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเดินทางที่สะดวกขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามภาคเอกชนทางภาคเหนือ พบว่า ต้องการให้ ททท. มีการจัดอีเว้นต์ ที่เป็นระดับประเทศ เหมือนงานพืชสวนโลกที่เคยจัดมาแล้ว โดยจัดลงในปฎิทินกิจกรรมประจำปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
