ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีน้อมรับมติ ครม.ให้โอนย้ายไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ ยืนไม่มีการเคลื่อนไหวต่อต้าน เพราะถือเป็นแนวนโยบายที่จะต้องปฏิบัติตาม ด้านตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ ชี้เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดจากการดำเนินการในอดีต พร้อมเสนอปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นอุทยานการเรียนรู้ด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แทนที่จะเน้นตอบสนองการท่องเที่ยว และควรตั้งคณะกรรมการร่วมทุกภาคส่วนกำกับด้านนโยบาย
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มอบโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและพื้นที่เชื่อมโยงไปอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายอุปถัมภ์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้อำนวยการสำนักบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางคณะรัฐมนตรีมีมติดังกล่าวแล้ว ในส่วนของผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียอมรับในในมติของคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอ ดังกล่าว และคงจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อต่อต้าน แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่จะยังคงทำหน้าที่ในความรับผิดชอบต่อไปให้ดีที่สุดเหมือนเดิม เพราะถือเป็นแนวนโยบายที่จะต้องปฏิบัติและเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด ส่วนการเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารของ อพท.
“ในเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติออกมาเช่นนี้ ที่ให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ เราก็ต้องยอมรับมติที่ออกมา เพราะมันเป็นนโยบาย โดยจะต้องช่วยกันเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ผู้อำนวยการสำนักบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าว
ด้าน นายนิคม พุทธา ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติดังกล่าวให้มีการมอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและพื้นที่เชื่อมโยงไปอยู่ในความรับผิดชอบดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ น่าจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมแล้ว ในการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้ทบทวนข้อบกพร่อง และปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจากการดำเนินการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่าการให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปขึ้นอยู่กับองค์การสวนสัตว์ฯ น่าจะมีความเหมาะสมดีในแง่ของการดูแลสัตว์ เพราะเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ขององค์การสวนสัตว์ฯ มีความรู้ ประสบการณ์และความชำนาญในการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ป่า มากกว่าเจ้าหน้าที่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าแม้จะโอนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์ฯ ก็มีความจำเป็นเช่นกันที่องค์การสวนสัตว์ฯ จะต้องปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานขององค์กร ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในเรื่องของการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่านอกถิ่นที่อยู่อาศัย การศึกษาวิจัย การให้ความรู้และการเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และได้มาตรฐาน รวมทั้งที่สำคัญจะต้องมีการดูแลไม่ให้มีกิจกรรมแอบแฝง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดสวนสัตว์ด้วย
นายนิคม เสนอความเห็นว่า ในอนาคตหลังจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เข้าไปอยู่ในความรับผิดชอบดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจากเดิม ที่มุ่งเพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจไปสู่การเป็นแหล่งศึกษาหรืออุทยานการเรียนรู้ทางด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งระบบนิเวศวิทยาสำหรับเยาวชนจะดีกว่า โดยที่ไม่จำเป็นต้องเน้นการนำสัตว์ป่าจากต่างประเทศเข้ามา แต่ให้ดึงเอาจุดเด่นจากความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีอยู่ของไทยมาถ่ายทอดความรู้พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่เยาวชนและประชาชนผู้สนใจแทน
ขณะเดียวกัน เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำแผนแม่บท เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการที่ชัดเจนในอนาคตของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีด้วย
นอกจากนี้ ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ เห็นว่า การบริหารจัดการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในอนาคตจะต้องเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากกว่าที่ผ่านมา โดยควรจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยตัวแทนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน รวมทั้งผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง เข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลในระดับนโยบาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
ในส่วนของการกำหนดทิศทางอนาคตของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลังต้องไปขึ้นอยู่กับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น ขณะนี้ทางภาคีคนฮักเจียงใหม่กำลังมีการหารือกันในการที่จะจัดเวทีให้ทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะการเชิญตัวแทนจากองค์การสวนสัตว์และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงอนาคตของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเวทีดังกล่าวน่าจะมีการจัดขึ้นในเร็วๆ นี้
อนึ่ง ก่อนหน้านั้นในวันที่ 21 มกราคม 51 กลุ่มผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง รวมทั้งแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีส่วนได้เสียได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องดังกล่าว แต่ในที่สุด ครม.รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ลงมติโอนย้ายโครงการดังกล่าวไปอยู่ภายใต้การกำกับขององค์การสวนสัตว์ฯ เรียบร้อยแล้ว